ความรักที่พระพุทธเจ้าสอน

16 ก.พ. 2566 | 05:15 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.พ. 2566 | 05:48 น.
2.1 k

คอลัมน์ ทำมาธรรมะ โดย ราชรามัญ

เขียนหลังวันแห่งความรักไปหนึ่งวันเราคิดว่าคงจะไม่ล้าสมัยเท่าไหร่​ ในมุมเรื่องของการใช้ชีวิตคู่หรือเราอาจจะเรียกว่ามุมของความรักก็ได้พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนเอาไว้หลากหลายเหตุปัจจัยต่างกรรมต่างวาระกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนเป็นคำสอนที่ทำให้คู่รักนั้นมีความสัมพันธ์ที่ยืนยาว อยู่ได้ในหลักของพุทธศาสนามหายานสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนที่สุดก็คือความกรุณาแห่งหัวใจ

คือการเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันมีความเข้าใจซึ่งกันและกันมีความปรารถนาดีซึ่งกันและกันไม่มีการปิดบังซ่อนเร้นใดๆ ในการใช้ชีวิตคู่ ตลอดทั้งพร้อมที่จะสุขพร้อมที่จะทุกข์ร่วมกัน

แน่นอนการใช้ชีวิตคู่ย่อมมีการกระทบกระทั่งทางความคิดความรู้สึกและความต้องการเพียงแต่ยามที่เกิดความรู้สึกเช่นนี้ขึ้นอีกฝ่ายก็ควรที่จะต้องเรียนรู้ไม่ใช่ตอบโต้เมื่อฝ่ายหนึ่งเริ่มที่จะมีความคิดความรู้สึกสวนทางแตกต่างกับตัวเราเราเองจะต้องตั้งสติแล้วกลับไปมองว่าสิ่งที่เขาสื่อนั้นเขาคิดอะไรเขารู้สึกอย่างไรและเขาต้องการอะไร แต่คู่รักโดยมากเมื่อคนรักนำเสนอสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้น ซึ่งแตกต่างจากความรู้สึกของตัวเราเราก็มักจะตอบโต้ทันทีโดยมิได้ฟังในการนำเสนอของเขาอย่างถ่องแท้และลึกซึ้งจึงเกิดปัญหา
 

คู่รักที่อยู่ด้วยกันนานเพราะเขารับฟังและยอมรับถึงความแตกต่างทางความคิด​ ความรู้สึก​ ความต้องการของคนรักของเขา​ ฟังเพื่อที่จะพิจารณาว่า​ ขณะนี้เขาคิดอะไร​ รู้สึกอะไร​ ต้องการอะไร​ จากนั้นก็ใช้เหตุและผลปรับเข้าหากันกระทั่งพบตรงกลาง​ 

แต่ถ้าไม่เกิดการฟังขึ้น​ มีแต่การตอบโต้เพื่อเอาชนะ​กันและกัน​ ความรักความสัมพันธ์ย่อมจะต้องยุติลงในเวลาไม่นาน​ 

การรู้จักคำว่าอภัยเป็นสิ่งที่สำคัญในการครองชีวิตรัก​ เพราะถ้าต่างมีแต่อัตตา​ ไม่ยอมโอนอ่อนผ่อนปรน มีแต่การฝังจำอดีตซึ่งกันและกันที่เคยผิดพลาด​ ก็ยิ่งที่จะทำให้ การยุติความสัมพันธ์ในด้านความรักจบลงง่าย

ความรักความเมตตาจึงเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องการและเป็นสิ่งที่ไม่สามารถขาดได้ไม่ว่าความรักนั้นจะเป็นรูปแบบไหน มนุษย์ทุกคนต่างปรารถนาคำว่าความรักด้วยกันทั้งสิ้น
ในพุทธศาสนาเถรวาทนักวิคำกล่าวอ้างอยู่เสมอว่าการที่คนสองคนได้พบกันรักกันนั้นเพราะมีเหตุปัจจัยจากอะไรจะทราบ เป็นบุพกรรม เช่นเคยทำบุญร่วมกันมามีความศรัทธาที่เสมอกันเคยบริจาคร่วมกันมีศีลเสมอกันมีปัญญาเท่าเทียมกัน

จะด้วยวิธีคิดและคติความเชื่อแบบไหนก็ตามท้ายที่สุดไม่ว่าคุณจะเป็นมนุษย์โลกที่นับถือศาสนาใดก็ตามความรักเป็นเหมือนธรรมะอย่างหนึ่งของโลกใบนี้ที่มนุษย์ทุกคนพึงปรารถนา และสิ่งนั้นย่อมจะสำเร็จผลตามเป้าหมายถ้าเข้าใจคำว่าความรักตามที่กล่าวมาตั้งแต่ต้น

"จงอย่ารักใครด้วยสมอง แต่จงรักเขาด้วยจิตวิญญาณ" 

นี่จึงจะเป็นความรักแท้
 

ติดตามราชรามัญ https://www.facebook.com/rajraman164