ยิ่งราบเรียบยิ่งเข้าถึง

19 ม.ค. 2566 | 03:30 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ม.ค. 2566 | 09:02 น.

คอลัมน์ ทำมาธรรมะ โดย ราชรามัญ

คนที่อวดคุย รู้ธรรมะ.. รู้ทุกบทตอน

รู้ทุกวิธีปฏิบัติ​ ยิ่งพูดเยอะเท่าไหร่

ยิ่งยังไม่ถึงธรรม.. แต่เป็นแค่ผู้รู้ผู้ศึกษาเท่านั้น...

ไม่ต่างอะไรกับคนที่อวดความรู้ ไม่ว่าจะความรู้ทางโลกด้านไหน​ อวดมากคุยมากเท่ากับแค่รู้​

คนที่ชอบอวดรวย.. รวยจริงเขาไม่อวด ไม่พูด​ คนไหนยิ่งอวด ยิ่งพูด​ ยิ่งปลอม.. นี่เป็นความจริงของโลกอย่างหนึ่ง

ดังนั้น ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม.. ถ้าเกิดการอวดรู้​ อวดเก่ง​ จงจำไว้ว่าความโดยเนื้อแท้จะอยู่ฝั่งตรงข้ามเสมอ... 

 

ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต​ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร​ เคยเขียนโศลกธรรมเอาไว้ว่า

"ของจริงย่อมนิ่งใบ้​ ของพูดได้มักไม่จริง"

ธรรมข้อนี้ใช้ได้กับทุกสรรพศาสตร์​ ใช้ได้กับทุกเรื่องราวของการใช้ชีวิตเลยทีเดียว...

แต่การอวดรู้​ อวดศักยภาพ จะเกิดได้ดี​ต่อเมื่อเราทำหน้าที่สอน​ ให้ความรู้อยู่​ อันนั้นจึงไม่เข้าข่ายที่เรียกว่า.. "อวด" 

ถ้าเราศึกษาพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าโดยสังเกต​ พระองค์จะไม่ทรงตรัสอะไรขึ้นก่อนลอยๆ​ พระองค์จะทรงตรัสต่อเมื่อ​ มีผู้ไปทูลถาม​ มีผู้อาราธนาขอให้แสดงธรรม พระองค์จึงจะแสดง​

พระองค์ยังเคยอุปมาอุปไมยว่า

"น้ำที่เต็มในภาชนะจะไม่เสียงดัง น้ำที่มีเพียงครึ่งภาชนะ​ย่อมเสียงดังเมื่อเคลื่อนย้าย"

ดังนั้น ผู้ที่ราบเรียบมักจะเป็นบุคคลที่เข้าถึงในเรื่องนั้นๆ ศาสตร์นั้นๆ อยู่เสมอ มนุษย์เราการใช้ชีวิตบางครั้งเราอยู่ในสังคมที่กว้าง เจอผู้คนหลากหลาย แน่นอนการพรีเซนต์ของบุคคลแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไป

ธรรมะของพระพุทธเจ้าก็สามารถนำเอามาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้ ว่าการที่เราเจอคนในแต่ละรูป แบบคนๆ นั้นเป็นผู้รู้หรือผู้เข้าถึงในสิ่งที่เขานำเสนออยู่

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับด้านปัญญา เพื่อจะนำเอาไปใช้กับชีวิตประจำวัน บางครั้งธรรมะเรียบๆ ง่ายๆ เหมือนหญ้าปากคอกเราอาจจะหลงลืมไป มัวแต่แสวงหาธรรมะขั้นสูงชั้นสูง แต่สุดท้ายเรื่องแค่พื้นฐานเราก็กลับหลงลืม

 

ติดตามราชรามัญ / วิทยากร / บรรยาย​ : ราช รามัญ