ยุโรปผนึกกำลังวางแผนสันติภาพยูเครน ยังหวังดึง “ทรัมป์” ร่วมวง

03 มี.ค. 2568 | 14:55 น.
อัปเดตล่าสุด :03 มี.ค. 2568 | 14:55 น.

ผู้นำยุโรปร่วมมือร่างแผนสันติภาพยูเครน หวังเสนอให้สหรัฐฯ สนับสนุน ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากท่าทีของโดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่เซเลนสกีเดินหน้าดึงยุโรปเป็นพันธมิตรหลัก

ในช่วงเวลาที่ความไม่แน่นอนของการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ต่อยูเครนเพิ่มขึ้น ผู้นำยุโรปได้แสดงจุดยืนที่แข็งแกร่งด้วยการร่วมกันร่าง "แผนสันติภาพยูเครน" เพื่อเสนอให้สหรัฐฯ พิจารณา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจส่งผลต่อแนวทางความมั่นคงของภูมิภาคและการยุติสงครามที่ดำเนินมายาวนานกว่า 3 ปี
ที่ประชุมสุดยอดในกรุงลอนดอนซึ่งจัดขึ้นหลังจากประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี มีปากเสียงกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้บรรดาผู้นำยุโรปเร่งเดินหน้าผลักดันแนวทางใหม่โดยเร็ว

นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์ ซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุมนี้ ได้ให้การต้อนรับเซเลนสกีอย่างดี และประกาศว่า อังกฤษ ยูเครน ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆ กำลังจัดตั้ง "แนวร่วมของผู้เต็มใจ" (Coalition of the Willing) เพื่อร่างแผนสันติภาพที่ยั่งยืนและเป็นธรรม ก่อนนำเสนอต่อทรัมป์

"นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับคำพูดอีกต่อไป แต่เป็นเวลาที่ต้องลงมือทำ" สตาร์เมอร์กล่าว

ยุโรปเพิ่มงบกลาโหม หวังดึงทรัมป์ร่วมวง

แม้ว่าผู้นำยุโรปจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนนี้ แต่ก่อนหน้าการประชุม ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง เปิดเผยว่า แผนดังกล่าวอาจเริ่มต้นด้วยการหยุดยิงเป็นระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งครอบคลุมเฉพาะการโจมตีทางอากาศและทางทะเล แต่ไม่รวมถึงการสู้รบบนภาคพื้นดิน

ขณะเดียวกัน บรรดาผู้นำยุโรปตระหนักดีว่าหากต้องการให้สหรัฐฯ มีส่วนร่วมในการรักษาความมั่นคงของยุโรป พวกเขาต้องพิสูจน์ว่ายุโรปสามารถดูแลตนเองได้ ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นพ้องต้องกันว่าแต่ละประเทศควรเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม

อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า "ยุโรปต้องกลายเป็น 'เม่นเหล็ก' ที่ไม่มีใครสามารถกลืนกินได้"

"ยูเครนจะไม่เสียแผ่นดิน!" เซเลนสกีส่งสารชัดเจน

หลังการประชุม เซเลนสกีประกาศว่า "ยูเครนจะไม่ยอมเสียแผ่นดินให้รัสเซีย" และยืนยันว่าเขาพร้อมลงนามในข้อตกลงด้านแร่ธาตุกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเสนอเพื่อดึงดูดทรัมป์ให้กลับมาสนับสนุนยูเครน

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความขัดแย้งกับทรัมป์ เซเลนสกีกล่าวว่า เขาเชื่อว่าสามารถฟื้นความสัมพันธ์กับทรัมป์ได้ แต่การเจรจาจะต้องเกิดขึ้นแบบปิด ไม่ใช่การปะทะกันต่อหน้าสาธารณชน

ขณะที่ยุโรปกำลังพยายามรักษาบทบาทสำคัญในกระบวนการเจรจาสันติภาพ พวกเขาต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่จากทรัมป์ ที่ได้ติดต่อพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียโดยไม่แจ้งให้ยุโรปหรือยูเครนทราบ อีกทั้งยังส่งคณะผู้แทนไปซาอุดีอาระเบียเพื่อพูดคุยกับรัสเซีย โดยไม่มีการเชิญยูเครนเข้าร่วม

ท่าทีนี้ทำให้ยุโรปกังวลว่าสหรัฐฯ อาจพยายามบังคับให้ยูเครนยอมรับข้อตกลงสันติภาพที่รัสเซียเป็นผู้กำหนด

เพื่อป้องกันไม่ให้ยุโรปถูกกันออกจากการเจรจา สตาร์เมอร์เสนอให้ตนเองเป็นตัวกลางระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ โดยหวังว่าจะสามารถโน้มน้าวให้ทรัมป์รับฟังข้อเสนอของยุโรป

"ยุโรปต้องทำงานหนักขึ้น แต่หากต้องการความสำเร็จในการรักษาสันติภาพ เราจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากสหรัฐฯ" สตาร์เมอร์กล่าว

 

ยุโรปเดินหน้าหนุนยูเครน ขณะรัสเซียชื่นชมทรัมป์

ในขณะที่ยุโรปพยายามเสริมสร้างความมั่นคงให้ยูเครน รัสเซียกลับออกมาแสดงความพึงพอใจต่อท่าทีของทรัมป์

เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ยกย่องทรัมป์ว่าเป็น "ผู้นำที่มีสามัญสำนึก" และกล่าวหาผู้นำยุโรปว่าพยายามยืดเวลาความขัดแย้งโดยการสนับสนุนเซเลนสกี

อย่างไรก็ตาม เซเลนสกียังคงได้รับแรงสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากยุโรป และล่าสุดเขาได้เดินทางไปพบกับสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่พระตำหนักส่วนพระองค์ในอังกฤษ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างยูเครนและยุโรป

การประชุมสุดยอดในลอนดอนแสดงให้เห็นถึงการดิ้นรนของยุโรปในการสร้างเสถียรภาพให้กับยูเครน ท่ามกลางความไม่แน่นอนของท่าทีจากสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ แม้ยุโรปจะพยายามร่างแผนสันติภาพและเพิ่มงบประมาณกลาโหมเพื่อดึงดูดความร่วมมือจากสหรัฐฯ แต่ก็ยังไม่มีความแน่นอนว่าทรัมป์จะให้การสนับสนุนหรือไม่