"ทรัมป์" พร้อมจับมือจีน เผยคุย "สี จิ้นผิง" เป็นมิตร คาดดีลการค้าใหญ่กำลังมา

24 ม.ค. 2568 | 16:35 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ม.ค. 2568 | 16:41 น.

"โดนัลด์ ทรัมป์" ส่งสัญญาณ! ชม "สี จิ้นผิง" แต่ยังคงขู่เพิ่มภาษีสินค้าจีน 10% พร้อมเปิดโอกาสเจรจาใหม่ในสมรภูมิการค้าระหว่างสองมหาอำนาจโลก

ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และจีนกำลังเผชิญบททดสอบครั้งสำคัญ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า เขาสามารถเจรจาข้อตกลงการค้ากับจีนได้ แม้ว่าจะมีการข่มขู่ใช้มาตรการภาษีที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์เปิดเผยว่าได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน โดยบรรยายการสนทนาครั้งนี้ว่าเป็นไปอย่าง "เป็นมิตร" และเชื่อมั่นว่าจะสามารถหาทางแก้ไขปัญหาด้านการค้าได้

"มันเป็นการสนทนาที่ดีและเป็นมิตร" ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Fox News พร้อมย้ำว่าเขาสามารถเจรจาข้อตกลงเพื่อความเป็นธรรมทางการค้าระหว่างสองประเทศได้

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังคงรักษาท่าทีแข็งกร้าว โดยขู่ที่จะเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีนขึ้น 10% หากสถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ก็ยอมรับว่าภาษีเป็นเพียง "เครื่องมืออันทรงพลัง" ที่เขาหวังว่าจะไม่ต้องใช้ นอกจากปัญหาภาษีแล้ว สหรัฐฯ และจีนยังมีประเด็นขัดแย้งอื่นๆ รวมถึงข้อพิพาทเรื่องเทคโนโลยี การทหาร และแอปพลิเคชัน TikTok ซึ่งทรัมป์เคยเสนอให้บริษัทสัญชาติอเมริกันถือหุ้นครึ่งหนึ่ง หาก TikTok ต้องการดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ ต่อไป

ในขณะเดียวกัน ฝ่ายจีนโดยกระทรวงพาณิชย์ออกมาย้ำว่า จีนพร้อมทำงานร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าให้มีความมั่นคง สุขภาพดี และยั่งยืน โดยเน้นหลักการ "เคารพซึ่งกันและกัน ความสงบสุข และความร่วมมือที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์"

แม้จะดูเหมือนมีแนวโน้มที่ดี แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศยังคงเปราะบาง โดยเฉพาะเมื่อทรัมป์ย้ำในเวทีเศรษฐกิจโลกที่ดาวอสว่า สหรัฐฯ ไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการค้าจากจีน และตั้งเป้าลดการขาดดุลการค้าขนาดใหญ่ที่มีต่อจีน

ตัวเลขจากรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่าการขาดดุลการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนในปี 2567 อยู่ที่กว่า 270,000 ล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า แต่ยังเป็นปัญหาที่รัฐบาลทรัมป์มองว่า "มหาศาล"

ทรัมป์ยังกล่าวถึงความหวังในการให้จีนช่วยยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยชี้ว่าจีนมีอิทธิพลในสถานการณ์นี้ และสามารถเป็นตัวกลางในการผลักดันสันติภาพ

ขณะเดียวกัน ฝ่ายจีนยังคงแสดงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับรัสเซีย โดยประธานาธิบดีสีเพิ่งพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียผ่านวิดีโอคอล และยืนยันที่จะพัฒนาความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ

สิ่งที่น่าจับตาต่อไปคือ สหรัฐฯ และจีนจะสามารถลดความตึงเครียดด้านการค้าและการทูตได้หรือไม่ ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ซับซ้อน ด้วยท่าทีที่แสดงออกถึงความประนีประนอมแต่ยังคงแข็งกร้าวของทรัมป์ การเจรจาระหว่างสองมหาอำนาจนี้อาจเป็นตัวชี้วัดสำคัญต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกในปีนี้