โฉมหน้าคณะรัฐมนตรีทรัมป์ ผู้เล่นสำคัญในเกมการเมืองสหรัฐฯ

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ใหม่หลายคนสำหรับรัฐบาลชุดที่สองของเขา รวมถึง แคทเธอรีน แม็คเกรเกอร์ ให้เป็นรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ สตีเวน แบรดเบอรี ให้เป็นรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นต้น ในช่วงก่อนที่เขาจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้

ข้อเท็จจริงที่สำคัญก็คือ ทรัมป์ ได้เลือกบุคลากรสำหรับตำแหน่งระดับคณะรัฐมนตรีที่ได้รับการยืนยันจากวุฒิสภาเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงบุคคลที่น่าแปลกใจและเป็นที่ถกเถียงบางคน และเขายังได้เลือกหัวหน้าเจ้าหน้าที่และที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการยืนยัน

การพิจารณายืนยันการเลือกคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และตำแหน่งบริหารระดับสูงอื่นๆ ได้เริ่มต้นขึ้น ผู้ได้รับการเสนอชื่อต้องได้รับเสียงข้างมากจากวุฒิสภา 100 ที่นั่งจึงจะได้รับการรับรอง พรรครีพับลิกันมีที่นั่งทั้งหมด 53 ที่นั่ง แต่ผู้สมัครบางคนของทรัมป์อาจต้องดิ้นรนเพื่อได้รับการรับรอง หากมีสมาชิกพรรครีพับลิกันจำนวนเล็กน้อยคัดค้านการเสนอชื่อของพวกเขา

ตัวเลือกของทรัมป์สำหรับตำแหน่งสำคัญบางส่วน ได้แก่ การป้องกันประเทศ ข่าวกรอง สาธารณสุข การทูต การค้า ความยุติธรรม การย้ายถิ่นฐาน และการกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจ

ใครเป็นใครในคณะรัฐมนตรีทรัมป์ 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะทหารผ่านศึกและบทบาทในฐานะพิธีกรร่วมในรายการ Fox & Friends Weekend

เฮกเซธถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงคนหนึ่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองมอนเทอเรย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 2017

กรมตำรวจมอนเทอเรย์ยืนยันในแถลงการณ์ว่าได้สอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหา เฮกเซธปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวผ่านทนายความ 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ

คริสตี้ โนเอม ผู้ว่าการรัฐเซาท์ดาโกตา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ โนเอมเป็นผู้ภักดีต่อทรัมป์มาช้านาน ผู้ได้รับเลือกจะเป็นกำลังสำคัญในการดำเนินการตามแผนอพยพที่เข้มงวดของทรัมป์ นอกเหนือจากหน้าที่ของกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ การต่อต้านการก่อการร้าย และการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน

รองเลขาธิการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ

ทรอย เอ็ดการ์ รองรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ โดยอ้างถึงประสบการณ์ของเอ็ดการ์ในตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงินของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 

เคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองลอสอะลามิโตส รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นพิธีกรของพ็อดแคสต์ “Ameritocracy” ซึ่งกล่าวว่าจะสำรวจ คุณธรรม ความสำเร็จ และเงื่อนไขสำหรับการเติบโตส่วนบุคคลและอาชีพทั่วอเมริกา และเป็นผู้บริหารที่ IBM ในฐานะผู้นำด้านการเงินและการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานของบริษัทตามข้อมูลใน LinkedIn ของเขา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

วุฒิสมาชิก มาร์โก รูบิโอ จากพรรครีพับลิกันแห่งรัฐฟลอริดา รัฐมนตรีต่างประเทศ รูบิโอและทรัมป์เคยทะเลาะกันเมื่อทั้งคู่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี  2016 แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดีขึ้นในช่วงที่ทรัมป์ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งล่าสุด รูบิโอรณรงค์หาเสียงให้ทรัมป์บ่อยครั้ง

ท่าทีด้านนโยบายต่างประเทศบางส่วนของรูบิโอไม่สอดคล้องกับทรัมป์ รวมถึงการร่วมสนับสนุนกฎหมายเมื่อปีที่แล้วที่จะห้ามไม่ให้ประธานาธิบดีออกจากนาโตโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา

รูบิโอจะเป็นชาวละตินคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งนี้ ซึ่งต้องได้รับอนุมัติจากวุฒิสภา โดย ฟอร์บส์ประเมินว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิของรูบิโออยู่ที่มากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งน้อยกว่าสมาชิกคนอื่นๆ ในวงในของทรัมป์อย่างเห็นได้ชัด แต่เพิ่มขึ้นจากปี 2015 ที่เขามีทรัพย์สินเพียง 100,000 เหรียญสหรัฐ

ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

โมนิกา โครว์ลีย์ อดีตผู้สนับสนุน Fox News และอดีตผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารอาวุโสของสภาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ซึ่งก้าวลงจากตำแหน่งท่ามกลางข้อกล่าวหาลอกเลียนแบบ

ทรัมป์ได้เลือกโครว์ลีย์ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและหัวหน้าฝ่ายพิธีการของสหรัฐฯ

โดยเขียนบนเว็บไซต์ Truth Social ว่า เป็นตัวแทนฝ่ายบริหารในงานสำคัญๆ ที่สหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพเช่น การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในลอสแองเจลิสในปี 2028 การแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2026 และการเฉลิมฉลองครบรอบ 250 ปีของประเทศในปี 2026 เช่นกัน

รองเลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศ

คริสโตเฟอร์ แลนเดา ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำเม็กซิโกในสมัยทรัมป์ ให้เป็นรองรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวต้องได้รับการยืนยันจากวุฒิสภา

โฆษกกระทรวงต่างประเทศ

แทม มี่ บรูซ ผู้สนับสนุน Fox News ให้ดำรงตำแหน่งโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ โดยทำงานภายใต้การนำของ มาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน แห่งรัฐฟลอริดา

ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศ

ไมเคิล นีดแฮม จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ โดยให้คำแนะนำแก่ผู้ที่ทรัมป์เลือกเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ คือ มาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน รัฐฟลอริดา ก่อนหน้านี้ นีดแฮมเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของรูบิโอ และเป็นประธานของ American Compass ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยแนวอนุรักษ์นิยม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

โฮเวิร์ด ลุตนิก คือผู้ได้รับเลือกจากทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ว่า ลุตนิก เป็นตัวแทนของความเข้มแข็งในการเผชิญกับโศกนาฏกรรมที่เลวร้าย โดยอ้างถึงการบริจาคการกุศลให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 9/11 หลังจากพนักงานของแคนเตอร์ ฟิตซ์เจอรัลด์ 658 คน รวมถึงพี่ชายของลุตนิก เสียชีวิตในเหตุการณ์ก่อการร้าย 11 กันยายน ขณะที่ลุตนิกดำรงตำแหน่งซีอีโอ ลุตนิกซึ่งสร้างบริษัทขึ้นมาใหม่หลังเหตุการณ์ 9/11

ลุตนิกจะมีบทบาทในการดำเนินการตามแผนของทรัมป์ในการขึ้นภาษีที่สูงขึ้น และเขาได้แสดงการสนับสนุนอย่างกว้างขวางต่อข้อเสนอนี้ ก่อนหน้านี้เคยได้รับการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีที่มีความโดดเด่นกว่า

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร

ทรัมป์ประกาศให้ บรู๊ค โรลลินส์ เป็นผู้ได้รับเลือกเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร โรลลินส์เคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานโยบายในช่วงรัฐบาลชุดแรกของทรัมป์ และดำรงตำแหน่งประธานสถาบันนโยบายอเมริกาเฟิร์ส ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยที่ก่อตั้งโดยอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลทรัมป์ที่สนับสนุนการถือครองที่ดินเกษตรกรรมของสหรัฐฯ โดยชาวต่างชาติรายงานระบุว่า เธอเคยได้ รับการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ก่อนที่ซูซี่ ไวลส์จะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ผู้บริหารกองทุนป้องกันความเสี่ยง สก็อตต์ เบสเซนท์ ซึ่งให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Forbes เมื่อไม่นานนี้ ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับตำแหน่งนี้มาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีรายงานว่าทรัมป์เอนเอียงไปทางผู้ที่มีประสบการณ์ในวอลล์สตรีท

เขาเป็นผู้ก่อตั้ง Key Square Management ซึ่งเป็นกองทุนป้องกันความเสี่ยงที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารน้อยกว่า 600 ล้านดอลลาร์เมื่อสิ้นปีที่แล้ว และเคยทำงานให้กับ จอร์จ โซรอส ผู้บริจาคเงินรายใหญ่ของพรรคเดโมแครตมาหลายปีก่อนหน้านั้น

เขาบริจาคเงินประมาณ 3 ล้านดอลลาร์ให้กับทรัมป์และกลุ่มอื่นๆ ของพรรครีพับลิกันในช่วงการเลือกตั้งครั้งนี้

โดยเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สนับสนุนภาษีศุลกากร ซึ่งภาษีศุลกากรเป็นศูนย์กลางของนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ และเรียกภาษีนำเข้าว่าเป็น เครื่องมือในการเจรจาต่อรองกับคู่ค้าของเรา ในคอลัมน์ของ Fox News หากได้รับการยืนยัน เบสเซนท์ จะสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะสมาชิกคณะรัฐมนตรีของพรรครีพับลิกัน LGBTQ+ คนแรกที่ได้รับการรับรองจากวุฒิสภา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

ทรัมป์เสนอชื่ออดีต ส.ส. ฌอน ดัฟฟี่ จากพรรครีพับลิกัน รัฐวิสคอนซิน ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยยกย่องช่วงเวลาที่เขาอยู่ในสภาคองเกรสและบทบาทของเขาในฐานะสมาชิกคณะกรรมาธิการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎร

หลังจากที่ลาออกจากสภาคองเกรสในปี 2019 ดัฟฟี่ได้ลงทะเบียนเป็นผู้ล็อบบี้และใช้เงินหาเสียงเพื่อจองโรงแรมของทรัมป์ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ต่อไป โดยแคมเปญหาเสียงใช้เงินไปมากกว่า 22,000 ดอลลาร์ที่โรงแรมของทรัมป์ในกรุงวอชิงตัน ระหว่างปี 2017 ถึง 2020 โดย 17,000 ดอลลาร์ถูกใช้ไปในวันเดียวในเดือนกรกฎาคม 2019

ดัฟฟี่เป็นพิธีกรร่วมของรายการ “The Bottom Line” ทางช่อง Fox Business และมีส่วนสนับสนุนรายการ Fox News ตั้งแต่ปี 2020 แต่งงานกับราเชล คัมโปส-ดัฟฟี่ พิธีกรร่วมของรายการ “Fox & Friends Weekend”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

ส.ส. ลอรี ชาเวซ-เดอเรเมอร์ จากพรรครีพับลิกัน รัฐโอเรกอน ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของทรัมป์ เธอได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปี 2022 เพื่อเป็นตัวแทนของเขตเลือกตั้งที่ 5 ของรัฐโอเรกอน และเพิ่งแพ้การเลือกตั้งซ้ำเมื่อไม่นานนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและ 'ผู้มีอำนาจด้านพลังงาน'

ดัก เบอร์กัม วัย 68 ปี อดีตผู้บริหารบริษัทซอฟต์แวร์ผู้มั่งคั่ง แสดงให้เห็นตัวเองว่าเป็นคนอนุรักษ์นิยมที่ยึดมั่นในหลักการธุรกิจ เขาลงแข่งขันกับทรัมป์เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ก่อนจะลาออกและหันมาสนับสนุนทรัมป์แทน

กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่จัดการที่ดินสาธารณะและแร่ธาตุ อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า นอกจากนี้ กระทรวงยังดำเนินการตามหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ให้ความไว้วางใจต่อชนพื้นเมืองอเมริกันอีกด้วย

ในฐานะประธานสภาพลังงานแห่งชาติ ชุดใหม่ คาดว่าเบิร์กกัมจะประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ หลายแห่งเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันและก๊าซ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการขุดเจาะบนที่ดินของรัฐ การพิจารณายืนยันเบิร์กกัมมีกำหนดในวันพฤหัสบดี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

คริส ไรท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจบริการด้านแหล่งน้ำมัน Liberty Energy ได้รับการเสนอชื่อจากทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ไรท์โต้แย้งบทบาทของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในการก่อให้เกิดเหตุการณ์สภาพอากาศเลวร้าย

โดยกล่าวในวิดีโอที่โพสต์บน LinkedIn เมื่อปีที่แล้วว่า "ไม่มีวิกฤตสภาพอากาศ และเราไม่ได้อยู่ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเช่นกัน" ต่อมาเขาโต้แย้งว่าเขากำลัง ต่อสู้กับวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสภาพอากาศ แม้ว่าเขาจะบอกว่าคำกล่าวอ้างของเขานั้นถูกต้องก็ตาม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทหารเรือ

ทรัมป์เลือก จอห์น เฟแลน นักการเงิน เป็นผู้สมัครรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทหารเรือ เฟแลนก่อตั้ง MSD Capital เมื่อกว่าสองทศวรรษครึ่งที่แล้วเพื่อบริหารทรัพย์สินของ ไมเคิล เดลล์ มหาเศรษฐีพันล้าน ตามรายงานของเดอะฮิลล์ เฟแลนเป็นผู้บริจาคเงินรายสำคัญให้กับแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ในช่วงฤดูการเลือกตั้งครั้งนี้ และบริจาคเงิน 834,600 ดอลลาร์ให้กับคณะกรรมการระดมทุนร่วมของประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งก็คือ Trump 47

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์

ทรัมป์เสนอชื่อ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้ากระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ ถือเป็นการทำตามสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะให้เคนเนดีมีอำนาจตัดสินใจในเรื่องสาธารณสุขอย่างกว้างขวาง

เคนเนดีซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเดโมแครตในฐานะผู้สมัครอิสระก่อนจะถอนตัวและให้การสนับสนุนทรัมป์ เขาไม่เชื่อมั่นในประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับเด็กและวัคซีนป้องกันโควิด-19 นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้กำจัดฟลูออไรด์ออกจากน้ำประปา

ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ เคนเนดีจะกำกับดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข 13 แห่ง และแสดงแผนที่จะโค่นล้มหน่วยงานเหล่านี้หลายแห่ง โดยบอกกับผู้ฟังในงานประชุมเมื่อเดือนพฤศจิกายนว่า จะยุติการศึกษาวิจัยโรคติดเชื้อที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติ หากได้รับบทบาทในรัฐบาลทรัมป์

รองเลขาธิการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์

จิม โอนีล นักลงทุนจากซิลิคอนวัลเลย์ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของปีเตอร์ เธียล มหาเศรษฐีผู้สนับสนุนทรัมป์ ถูกเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์

ทรัมป์กล่าวว่า โอนีลจะทำงานร่วมกับโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีที่เขาเลือกให้ดำรงตำแหน่ง และ ดูแลการดำเนินงานทั้งหมด และปรับปรุงการบริหารจัดการ ความโปร่งใส และความรับผิดชอบ เพื่อให้ประเทศอเมริกากลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ โอนีลเคยดำรงตำแหน่งซีอีโอของมูลนิธิเธียล และได้รับการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการ FDA ในช่วงวาระแรกของทรัมป์ นอกจากนี้โอนีลยังเคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ในสมัยบริหารของจอร์จ ดับเบิลยู บุช นักลงทุนจากซิลิคอนวัลเลย์เรียกร้องให้มีการปฏิรูปครั้งใหญ่ที่ FDA ในอดีต และโต้แย้งว่าควรวัดประสิทธิผลของยาหลังจากได้รับอนุญาตให้นำออกสู่ตลาดแล้ว โอนีลกล่าวว่าหน่วยงานควรอนุมัติยาเมื่อพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัย

 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ทรัมป์เลือก ลินดา แม็กมาฮอน อดีตซีอีโอ WWE ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ แม็กมาฮอนเป็นรองประธานฝ่ายเปลี่ยนผ่านของทรัมป์ร่วมกับลุตนิค และดำรงตำแหน่งผู้บริหารสำนักงานบริหารธุรกิจขนาดเล็กตั้งแต่ปี 2017 ถึง 2019

การเสนอชื่อดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ลุตนิคได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์แทนแม็กมาฮอน

ปลัดกระทรวงการเติบโตทางเศรษฐกิจ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม

เจคอบ เฮลเบิร์ก ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ  เคยเป็นอดีตผู้บริจาคเงินให้กับพรรคเดโมแครตและผู้บริหารด้านเทคโนโลยีที่รู้จักกันในชื่อ Silicon Valley China hawks Helberg

เป็นที่ปรึกษาอาวุโสของประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่ Palantir Technologies ซึ่งดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการตรวจสอบเศรษฐกิจและความมั่นคงระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

มีบทบาทสำคัญในการล็อบบี้รัฐสภาเพื่อสนับสนุนการแบน TikTok ของสหรัฐฯ เขาแต่งงานกับนักลงทุนด้านเทคโนโลยีและผู้บริจาคเงินรายใหญ่ของพรรครีพับลิกันในปี 2018 ในพิธีที่จัดขึ้นโดย Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI

รองปลัดกระทรวงพลังงาน

ทรัมป์ประกาศแต่งตั้ง เจมส์ แดนลี่ อดีตกรรมาธิการ ประธาน และที่ปรึกษาทางกฎหมายของคณะกรรมการกำกับดูแลพลังงานกลาง ให้เป็นผู้ได้รับเลือกเป็นรองเลขาธิการกระทรวงพลังงาน

รองปลัดกระทรวงมหาดไทย

แคทเธอรีน แม็คเกรเกอร์ รองประธานฝ่ายบริการด้านสิ่งแวดล้อมของ NextEra Energy ได้รับเลือกให้เป็นรองผู้บริหารของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม

รองปลัดกระทรวงคมนาคม

ทรัมป์ได้แต่งตั้ง สตีเวน แบรดเบอรี อดีตที่ปรึกษาทั่วไปของกระทรวงคมนาคม และอดีตเสมียนของผู้พิพากษาศาลฎีกา คลาเรนซ์ โธมัส ให้ดำรงตำแหน่งรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนต่อไป

ผู้อำนวยการเอฟบีไอ

ทรัมป์ประกาศให้ กัช ปาเทล เเป็นผู้อำนวยการ FBI เขาดำรงตำแหน่งต่างๆ มากมายในรัฐบาลทรัมป์ชุดแรก รวมถึงช่วยนำคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรซึ่งควบคุมโดยพรรครีพับลิกันในการสืบสวนของ FBI เกี่ยวกับความเชื่อมโยงของรัสเซียกับแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ในปี 2016

ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพแห่งชาติ

เจย์ ภัฏฏาจารย์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและนักวิจารณ์การล็อกดาวน์จากโควิด-19 ในการประกาศแต่งตั้ง ทรัมป์กล่าวว่า จะฟื้นฟูมาตรฐานการวิจัยทางการแพทย์ของ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ NIH ให้กลับมาอยู่ในระดับสูงสุด โดยจะตรวจสอบสาเหตุเบื้องหลังและวิธีแก้ไขความท้าทายด้านสุขภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกา รวมถึงวิกฤตโรคเรื้อรังและโรคต่างๆ

ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ

ทรัมป์เลือก เควิน ฮัสเซ็ตต์ เป็นหัวหน้าสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ซึ่งจะทำให้มีอำนาจตัดสินใจด้านนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้า ภาษี และการยกเลิกกฎระเบียบ

ทรัมป์กล่าวว่าฮัสเซ็ตต์จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ครอบครัวชาวอเมริกันฟื้นตัวจากภาวะเงินเฟ้อที่รัฐบาลไบเดนปล่อยออกมา

ฮัสเซ็ตต์ซึ่งเป็นผู้นำสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรกของทรัมป์ ได้แสดงความไม่มั่นใจเกี่ยวกับข้อเสนอทางเศรษฐกิจบางส่วนของทรัมป์เมื่อไม่นานนี้ โดยบอกกับโกลด์แมนแซคส์เมื่อเดือนที่แล้วว่า ข้อเสนอของทรัมป์ในการลดอัตราภาษีนิติบุคคลลงเหลือ 15% นั้นไม่น่าจะสร้างผลกระทบเชิงพลวัต เช่นเดียวกับพระราชบัญญัติลดหย่อนภาษีและการจ้างงานปี 2017 และข้อเสนอภาษีศุลกากรของทรัมป์ก็อาจต้องมีการออกกฎหมาย Politico รายงาน

ฮัสเซ็ตต์ยังบอกกับโกลด์แมนด้วยว่าผู้นำของธนาคารกลางสหรัฐควรเป็นกลางจากฝ่ายบริหาร และกล่าวว่าความสงสัยเกี่ยวกับความปรารถนาของทรัมป์ในการประสานงานระหว่างเฟดและทำเนียบขาวในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยควรได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง

ผู้อำนวยการสภานโยบายภายในประเทศ

วินซ์ เฮลีย์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าสภานโยบายในประเทศ ทรัมป์กล่าวว่าเฮลีย์มีความคิดที่ยอดเยี่ยมสำหรับนโยบายที่ใช้ได้ผลสำหรับชาวอเมริกัน ทรัมป์ไม่ได้ระบุประเด็นเฉพาะเจาะจงใดๆ ที่เฮลีย์จะเน้นย้ำ

แต่ตามรายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัล สภาจะกำกับดูแลประเด็นสำคัญภายในประเทศหลายประเด็น รวมถึงการดูแลสุขภาพ การย้ายถิ่นฐาน และการศึกษา

เฮลีย์เคยร่วมงานกับอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันแห่งรัฐจอร์เจีย มานานหลายทศวรรษ และยังเคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2012

เฮลีย์ยังทำงานภายใต้ การดูแล ของสตีเฟน มิลเลอร์ ซึ่งทรัมป์แต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายของเขา ขณะที่เขียนคำปราศรัยของทรัมป์ในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรก

ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ

ทรัมป์ประกาศว่า ทัลซี แกบบาร์ด จะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ ซึ่งทำให้เธอเป็นหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ

แกบบาร์ดเป็นอดีตผู้แทนพรรคเดโมแครตจากฮาวาย และเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตในปี 2020 ซึ่งอาจเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากการโต้วาทีกับ กมลา แฮร์ริส บนเวทีดีเบตเมื่อปี 2019

เธอออกจากพรรคในปี 2022 และเป็นอิสระ ก่อนที่จะให้การสนับสนุนทรัมป์ในเดือนสิงหาคมและประกาศว่าเข้าร่วมพรรครีพับลิกัน

แกบบาร์ดซึ่งเป็น นักวิจารณ์การแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯ ได้รับความสนใจอย่างเข้มข้นสำหรับมุมมองด้านนโยบายต่างประเทศของเธอ รวมถึงการพบปะกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียในปี 2017

ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ

อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ จอห์น แรตคลิฟฟ์ จะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการซีไอเอ อดีตสมาชิกรัฐสภาเท็กซัส แรตคลิฟฟ์ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2021 และทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาหลักด้านข่าวกรองของทรัมป์ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนสุดท้าย

ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ แรตคลิฟฟ์ได้เปิดเผยข้อมูลข่าวกรองของรัสเซียที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ซึ่งอ้างว่า ฮิลลารี คลินตัน อนุมัติแผนการเชื่อมโยงทรัมป์กับรัสเซียและการโจมตีทางไซเบอร์ของคณะกรรมการแห่งชาติของพรรคเดโมแครตในปี 2016 พรรคเดโมแครตวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของแรตคลิฟฟ์ในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณะ โดยกล่าวหาว่าเขากำลังนำข้อมูลที่ไม่ได้รับการพิสูจน์มาเล่นการเมืองเพื่อช่วยเหลือทรัมป์

ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา

เจมีสัน กรีเออร์ ทนายความชาววอชิงตันคือผู้ได้รับเลือกจากทรัมป์ให้เป็นผู้นำการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรีเออร์ซึ่งเป็นอดีตทหารผ่านศึกและอดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์

กรีเออร์ มีบทบาทสำคัญในการกำหนดภาษีศุลกากรต่อจีนและประเทศอื่นๆ ในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรกของเขาเพื่อปราบปรามการค้าที่ไม่เป็นธรรม ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์

ประธานคณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐ

แอนดรูว์ เอ็น. เฟอร์กูสัน กรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางได้รับเลือกให้เป็นประธานของหน่วยงาน หากได้รับการยืนยัน เขาจะเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน ลินา ข่าน ซึ่งเป็นแกนนำในการปราบปรามการผูกขาดบริษัทขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ร้านขายของชำ และเภสัชกรรมมาเป็นเวลาหลายปี

เฟอร์กูสันเคยทำงานเป็นผู้ดำเนินคดีด้านการต่อต้านการผูกขาดและดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดของเวอร์จิเนียตั้งแต่ปี 2022 ถึง 2024

รองเลขาธิการกระทรวงกิจการทหารผ่านศึก

พอล ลอว์เรนซ์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงสวัสดิการทหารผ่านศึกฝ่ายสวัสดิการในช่วงวาระแรกของทรัมป์ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าฝ่ายกิจการทหารผ่านศึกภายใต้การนำของ ดั๊ก คอลลินส์

รองผู้บริหารฝ่ายบริหารธุรกิจขนาดย่อม

ทรัมป์เลือก บิล บริกส์ เป็นรองผู้บริหารของสำนักงานบริหารธุรกิจขนาดย่อม โดยอ้างถึงช่วงเวลาที่บริกส์ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้บริหารร่วมในสำนักงานเข้าถึงเงินทุนของหน่วยงานในช่วงวาระแรกของทรัมป์

 รองผู้แทนพิเศษประธานาธิบดีประจำตะวันออกกลาง

ทรัมป์ตำหนิ มอร์แกน ออร์ทากัส อดีตผู้สนับสนุนฟ็อกซ์นิวส์เมื่อประกาศแต่งตั้งเธอให้ดำรงตำแหน่งภายใต้สตีเวน วิทคอฟฟ์ ออร์ทากัสวิจารณ์ทรัมป์อย่างเปิดเผยระหว่างการรณรงค์หาเสียงในปี 2016  แต่กลับสนับสนุนทรัมป์หลังจากที่เขาชนะการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรครีพับลิกันและดำรงตำแหน่งโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเป็นเวลาสามปีภายใต้การนำของทรัมป์

รองเลขาธิการฝ่ายบริหารและทรัพยากร

ทรัมป์แต่งตั้ง ไมเคิล ริกาส ซึ่งเคยทำงานในสำนักงานบริหารงานบุคคลและสำนักงานบริหารและงบประมาณในช่วงวาระแรกของทรัมป์ ให้เป็นรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝ่ายบริหารและทรัพยากร

ที่ปรึกษาหลักด้านการสนับสนุนของสำนักงานบริหารธุรกิจขนาดเล็ก

ทรัมป์ได้เลือก เคซีย์ มัลลิแกน เป็นที่ปรึกษาหลักด้านการสนับสนุนของสำนักงานบริหารธุรกิจขนาดย่อม หลังจากมัลลิแกนดำรงตำแหน่งหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทรัมป์ในรัฐบาลชุดแรกของเขา

ประธานคณะที่ปรึกษาข่าวกรองของประธานาธิบดี

เดวิน นูเนส ซีอีโอของ Truth Social ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของทรัมป์ ได้รับการประกาศให้เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อจากทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาข่าวกรองของประธานาธิบดี ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่ให้คำแนะนำแก่ประธานาธิบดีในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข่าวกรองของสหรัฐฯ

นูเนสซึ่งเป็นพันธมิตรกับทรัมป์มายาวนาน ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะกรรมการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรในรัฐบาลชุดแรกของทรัมป์ ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะยังคงดำรงตำแหน่งซีอีโอของ Truth Social ต่อไปในระหว่างดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการดังกล่าว

เอกอัครราชทูตประจำเอสโตเนีย

ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ประกาศการแต่งตั้ง โรมัน ปิปโก ว่า มีประสบการณ์ในการติดต่อกับรัฐบาลต่างประเทศ โดยเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในธนาคารเพื่อการบูรณะและพัฒนาแห่งยุโรปและกองทุนวิสาหกิจรัสเซีย-อเมริกัน และยังระบุด้วยว่ายังเป็นตัวแทนบริษัทอเมริกันในการเจรจาข้อตกลงทางธุรกิจกับต่างประเทศอีกด้วย

เอกอัครราชทูตประจำเนเธอร์แลนด์

นักธุรกิจ โจ โปโปโล จะดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำเนเธอร์แลนด์ ทรัมป์ประกาศเมื่อเดือนมกราคม โปโปโลเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทการลงทุนส่วนตัว Charles & Potomac Capital, LLC

เอกอัครราชทูตประจำประเทศสเปน

เบนจามิน เลออน จูเนียร์ ผู้ก่อตั้ง Leon Medical Centers ในไมอามี เป็นผู้ประกอบการ นักขี่ม้า และผู้ใจบุญที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ประกาศการแต่งตั้งของเขา

เอกอัครราชทูตประจำปานามา

ทรัมป์เสนอชื่อ เควิน มาริโน คาเบรรา กรรมาธิการเขตไมอามี-เดด เป็นเอกอัครราชทูตประจำปานามา โดยทำสำเร็จเพียงไม่กี่วันหลังจากขู่ว่าจะเข้ายึดครองคลองปานามาคาเบรรา ซึ่งทำหน้าที่นำร่องการเสนอตัวของทรัมป์เพื่อเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2020 ในรัฐฟลอริดา เป็นตัวแทนของประชาชนในเขตไมอามี ไฮอาเลียห์ โคอรัลเกเบิลส์ และย่านอื่นๆ ในเขตไมอามี-เดด

ทรัมป์ได้โต้แย้งกับสิ่งที่เขาเรียกว่าค่าธรรมเนียมที่ไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง ที่ถูกเรียกเก็บสำหรับการใช้คลองปานามา และกล่าวกับผู้เข้าร่วมงาน Turning Point USA ในฟีนิกซ์ว่าสหรัฐฯ ถูกฉ้อโกง นอกจากนี้ ประธานาธิบดีคนใหม่ยังกล่าวหากองทัพจีนว่าดำเนินการคลองปานามาอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเสาหลักของการเดินทางและการค้าทางทะเล

เอกอัครราชทูตประจำอิตาลี

ทรัมป์เลือก ทิลแมน เฟอร์ทิตตา เจ้าของทีมฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ และบริษัทร้านอาหารและความบันเทิง Landry's ในเท็กซัส ให้เป็นเอกอัครราชทูตประจำอิตาลี ประมาณการว่าเฟอร์ทิตตา ผู้บริจาคเงินให้กับพรรครีพับลิกันมายาวนาน มีทรัพย์สินสุทธิ10,400 ล้านดอลลาร์

เอกอัครราชทูตประจำนครรัฐวาติกัน

ทรัมป์ประกาศแต่งตั้ง ไบรอัน เบิร์ช เป็นเอกอัครราชทูตประจำนครรัฐวาติกัน โดยยกย่องไบรอันว่าเป็นชาวคาธอลิกที่เคร่งศาสนา เป็นพ่อของลูกเก้าคน และเป็นประธานของ CatholicVote ซึ่งเป็นกลุ่มรณรงค์เพื่อชาวคาธอลิก

เบิร์ชเคยวิพากษ์วิจารณ์พระสันตปาปาฟรานซิสในอดีต และได้แชร์บทความของบรรดานักบวชฝ่ายขวาที่วิพากษ์วิจารณ์พระสันตปาปา ตามรายงานของ Politico ในโพสต์บน X เบิร์ชกล่าวว่าเขาจะทำงานเพื่อส่งเสริมศักดิ์ศรีของทุกคนและประโยชน์ส่วนรวม และขอบคุณทรัมป์สำหรับบทบาทนี้

เอกอัครราชทูตประจำบาฮามาส

ทรัมป์เลือก เฮอร์เชล วอล์กเกอร์ อดีตนักฟุตบอลให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำบาฮามาส ซึ่งต้องได้รับการยืนยันจากวุฒิสภา

วอล์กเกอร์เป็นรันนิ่งแบ็คของมหาวิทยาลัยจอร์เจียที่ได้รับรางวัล Heisman และ NFL เขาลงสมัครชิงที่นั่งในวุฒิสภาจอร์เจียในปี 2022 ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งจากพรรครีพับลิกันหลังจากได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์ แต่เขาแพ้การเลือกตั้งทั่วไปอย่างหวุดหวิดให้กับ ราฟาเอล วอร์น็อค วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตคนปัจจุบัน

หลังจากแคมเปญหาเสียงที่เต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาวซึ่งวอล์กเกอร์ถูกกล่าวหาว่าขู่อดีตภรรยาและจ่ายเงินให้ผู้หญิงทำแท้ง แม้ว่าเขาจะคัดค้านการทำแท้งอย่างแข็งขัน

ความสัมพันธ์ระหว่างวอล์กเกอร์กับประธานาธิบดีคนใหม่ย้อนกลับไปได้อย่างน้อยถึงช่วงทศวรรษ 1980 เมื่อเขาเล่น ให้กับทีม New Jersey Generals ซึ่งเป็นทีมในลีกฟุตบอลของสหรัฐฯ ที่มีอายุสั้นและถูกทรัมป์ซื้อไป

หลายทศวรรษต่อมาวอล์กเกอร์ทำหน้าที่ในคณะที่ปรึกษาประธานาธิบดีด้านการออกกำลังกายและโภชนาการในช่วงวาระแรกของทรัมป์ และเขาได้รณรงค์หาเสียงให้ทรัมป์เมื่อต้นปีนี้

เอกอัครราชทูตประจำไอร์แลนด์

ทรัมป์เสนอชื่อ เอ็ดเวิร์ด ชาร์ป วอลช์ ประธานบริษัทก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ The Walsh Company ให้เป็นเอกอัครราชทูตประจำไอร์แลนด์ ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ว่า วอลช์เป็นผู้ใจบุญในชุมชนท้องถิ่น และเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการพัฒนาโรงเรียนแห่งรัฐนิวเจอร์ซี

เอกอัครราชทูตประจำเบลเยียม

ทรัมป์เลือก บิล ไวท์ อดีตประธานพิพิธภัณฑ์ Intrepid Sea-Air-Space Museum ให้เป็นเอกอัครราชทูตประจำเบลเยียม โดยประธานาธิบดีคนใหม่ระบุว่า ไวท์ระดมทุนได้มากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ

เอกอัครราชทูตประจำโคลอมเบีย

แดเนียล นิวลิน ทนายความเมืองออร์แลนโดซึ่งเป็นอดีตนักสืบของสำนักงานนายอำเภอเคาน์ตี้ออเรนจ์ คือผู้ที่ทรัมป์เลือกให้เป็นเอกอัครราชทูตประจำโคลอมเบีย

เอกอัครราชทูตอาร์เจนตินา

ทรัมป์ได้แต่งตั้ง ปีเตอร์ ลาเมลาส ผู้ก่อตั้ง MD Now Urgent Care ซึ่งเป็นระบบดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินที่ใหญ่ที่สุดในฟลอริดา ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำอาร์เจนตินา โดยเขียนในแถลงการณ์ว่า ปีเตอร์และครอบครัวหนีออกจากคิวบาที่เป็นคอมมิวนิสต์ และอพยพมายังสหรัฐอย่างถูกกฎหมาย โดยเริ่มต้นจากศูนย์ และบรรลุความฝันแบบอเมริกัน

เอกอัครราชทูตประจำองค์การรัฐอเมริกัน

ทรัมป์ได้แต่งตั้งให้ ลีอันโดร ริซซูโต จูเนียร์ บุตรชายของลีอันโดร ริซซูโต ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Conair ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีผู้ล่วงลับ และอดีตกงสุลใหญ่สหรัฐฯ ประจำเบอร์มิวดา เป็นเอกอัครราชทูตประจำองค์การรัฐอเมริกัน

เอกอัครราชทูตประจำเม็กซิโก

ทรัมป์แต่งตั้ง โรนัลด์ จอห์นสัน อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอและเอกอัครราชทูตประจำเอลซัลวาดอร์ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำเม็กซิโก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการดำเนินนโยบายตรวจคนเข้าเมืองของทรัมป์

จอห์นสันจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ เพื่อยุติการก่ออาชญากรรมต่อผู้อพยพและหยุดการไหลเข้าของเฟนทานิลและยาอันตรายอื่นๆ ที่ผิดกฎหมายในประเทศของเรา ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ ตำแหน่งดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา

เอกอัครราชทูตประจำกรีซ

คิมเบอร์ลี กิลฟอยล์ คู่หมั้นของ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรีซ กิลฟอยล์เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทางโทรทัศน์ อดีตอัยการ และนักระดมทุนชั้นนำให้กับประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งเรียกกิลฟอยล์ว่าเป็นเพื่อนสนิทและพันธมิตรที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แน่นแฟ้นกับกรีซ

ในปี 2022 กิลฟอยล์ได้รับหมายเรียกให้ให้การเป็นพยานโดยคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 6 มกราคม โดยสมาชิกคนหนึ่งอ้างว่าเธอได้รับเงิน 60,000 ดอลลาร์เพื่อพูดในการชุมนุมของทรัมป์ ซึ่งถูกสอบสวนว่าเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดการโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021

เอกอัครราชทูตประจำตุรกี

ทอม บาร์รัค นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในบริษัทไพรเวทอิควิตี้ได้รับการประกาศให้เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำตุรกี

บาร์รัคซึ่งอยู่ในรายชื่อมหาเศรษฐีของนิตยสารฟอร์บส์ในปี 2013 ได้ก่อตั้งบริษัทไพรเวทอิควิตี้ Colony Capital ขึ้นในปี 1991 และสร้างฐานะให้ตัวเองด้วยการซื้อทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ได้รับความนิยมในสถานที่ต่างๆ เช่น เยอรมนีและตะวันออกกลาง

เอกอัครราชทูตประจำประเทศจีน

อดีตวุฒิสมาชิก เดวิด เพอร์ดู จากพรรครีพับลิกันแห่งรัฐจอร์เจีย ได้รับการเสนอชื่อจากทรัมป์ให้เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำจีน ประธานาธิบดีคนใหม่กล่าวว่า เพอร์ดูจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินตามกลยุทธ์ในการรักษาสันติภาพในภูมิภาค และความสัมพันธ์ในการทำงานที่มีประสิทธิผลกับผู้นำจีน

เพอร์ดูได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ในปี 2014 แต่แพ้การเลือกตั้งซ้ำให้กับ จอน ออสซอฟ จากพรรคเดโมแครตในปี 2020 ก่อนที่จะประกอบอาชีพทางการเมือง

เพอร์ดูเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของบริษัทหลายแห่ง รวมถึง รีบ็อค ซาร่า ลี และดอลลาร์ เจเนอรัล ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญในการจ้างช่วงการผลิตไปยังจีน ฮ่องกง และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย

ในแถลงการณ์ เพอร์ดูเขียนว่า เคยอาศัยอยู่ในเอเชียมาแล้วสองครั้ง เข้าใจถึงความร้ายแรงของความรับผิดชอบนี้ และตั้งตารอที่จะนำกลยุทธ์ของประธานาธิบดีทรัมป์ไปใช้เพื่อทำให้โลกปลอดภัยอีกครั้ง และเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในจีน

เอกอัครราชทูตประจำอังกฤษ

ทรัมป์ได้เลือก วาร์เรน สตีเฟนส์ ซึ่งเป็นนายธนาคารเพื่อการลงทุนที่มีมูลค่าประมาณ 3.4 พันล้านดอลลาร์ ให้ดำรงตำแหน่งทูตประจำสหราชอาณาจักร ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาก่อน

เขาดำรงตำแหน่งผู้นำธนาคารเพื่อการลงทุน Stephens Inc. ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐอาร์คันซอ โดยก่อตั้งโดยลุงของเขาเมื่อกว่า 90 ปีที่แล้ว และเป็นที่รู้จักจากบทบาทในการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรกของวอลมาร์ตในปี 1970

นอกจากนี้ สตีเฟนส์ยังบริจาค เงินหลายล้านดอลลาร์ให้กับคณะกรรมการดำเนินการทางการเมืองที่สนับสนุนทรัมป์และพรรครีพับลิกัน ในโพสต์ของ Truth Socialทรัมป์เรียกสตีเฟนส์ว่า "หนึ่งในนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศ

เอกอัครราชทูตประจำฝรั่งเศส

ทรัมป์เสนอชื่อ ชาร์ลส์ คุชเนอร์ ผู้ก่อตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Kushner Companies และพ่อของจาเร็ด ลูกเขยของทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำฝรั่งเศส คุชเนอร์ได้รับการอภัยโทษจากทรัมป์ในปี 2020 หลังจากรับโทษจำคุกในข้อหาหลีกเลี่ยงภาษีและบริจาคเงินรณรงค์หาเสียงผิดกฎหมายของรัฐบาลกลาง เขาสารภาพผิดใน 18 กระทง รวมทั้งหลีกเลี่ยงภาษีและแทรกแซงพยาน

เอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ

ทรัมป์เสนอชื่อ เอลีส สเตฟานิก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ สเตฟานิกเป็นที่รู้จักในฐานะพันธมิตรที่มั่นคงของทรัมป์

เอกอัครราชทูตประจำนาโต

ทรัมป์ประกาศว่า แมทธิว ไวเทเกอร์ ทำหน้าที่เป็นผู้แทนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการต่อนาโต ไวเทเกอร์เป็นอดีตอัยการสูงสุดรักษาการที่ได้รับการแต่งตั้งหลังจากเจฟฟ์ เซสชั่นส์ อดีตอัยการสูงสุดลาออก และก่อนที่วิลเลียม บาร์ อดีตอัยการสูงสุดจะเข้ารับตำแหน่งในวาระแรกของทรัมป์

ไวเทเกอร์ทำหน้าที่ควบคุมดูแลกระทรวงยุติธรรมระหว่างการสอบสวนของโรเบิร์ต มูลเลอร์ อดีตอัยการพิเศษเกี่ยวกับการแทรกแซงของรัสเซียในช่วงการเลือกตั้งปี 2016 และถูกพรรคเดโมแครตตรวจสอบอย่างหนักว่าพยายามแทรกแซงการสอบสวนในนามของทรัมป์หรือไม่ ซึ่งข้อกล่าวหาดังกล่าวเขาปฏิเสธ

ไวเทเกอร์ปรากฏตัวทาง Fox News บ่อยครั้งในฐานะผู้สนับสนุนทรัมป์ โดยปกป้องการตัดสินใจเลือกเกตซ์เป็นอัยการสูงสุด และวิพากษ์วิจารณ์กระทรวงยุติธรรมอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการสอบสวนต่างๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมของทรัมป์

เอกอัครราชทูตประจำอิสราเอล

ทรัมป์ประกาศแต่งตั้ง ไมค์ ฮัคคาบี อดีตผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอเป็นทูตประจำอิสราเอล โดยยกย่องการรับราชการทหารของเขา เนื่องจากเขาเคยรับราชการในหน่วยรบพิเศษของกองทัพบกมาเป็นเวลา 27 ปี

ฮัคคาบีเป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลอย่างเหนียวแน่น และวิพากษ์วิจารณ์การเรียกร้องหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสของรัฐบาลไบเดน

ฮัคคาบีสนับสนุนให้อิสราเอลผนวกดินแดนบางส่วนของเวสต์แบงก์ ซึ่งอิสราเอลยึดครองไว้ในปี 2510 และ สนับสนุน ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอล ในพื้นที่ดังกล่าว

ทูตพิเศษประจำตะวันออกกลาง

ทรัมป์เลือก สตีเวน วิทคอฟฟ์ ผู้บริจาคเงินให้กับพรรครีพับลิกันและนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ให้เป็นทูตพิเศษประจำตะวันออกกลาง

วิทคอฟฟ์เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ของคณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยไมอามี และซีอีโอของวิทคอฟฟ์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้ก่อตั้งในปี 1997

นอกจากนี้เขายังเป็นเพื่อนเก่าแก่ของทรัมป์และเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนด้านกอล์ฟ วิทคอฟฟ์อยู่กับทรัมป์ระหว่างการพยายามลอบสังหารเขาครั้งที่สอง โดยบอกกับเอ็นบีซีว่าเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองได้พุ่งเข้าใส่ทรัมป์และช่วยเขาออกจากสนามกอล์ฟในฟลอริดาได้ภายในเวลาไม่ถึง 20 วินาที

ทูตพิเศษประจำยูเครนและรัสเซีย

ทรัมป์แต่งตั้งให้ คีธ เคลล็อกก์ อดีตพลโทและอดีตหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่สภาความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาว ในวาระแรกของทรัมป์เป็นทูตพิเศษด้านยูเครนและรัสเซีย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า เคลล็อกก์ได้เสนอแผนยุติสงครามและบังคับให้ยูเครนและรัสเซียเข้าร่วมโต๊ะเจรจากับทรัมป์

ทูตพิเศษประจำสหราชอาณาจักร

ทรัมป์เลือก มาร์ก เบอร์เน็ตต์ เป็นทูตพิเศษประจำสหราชอาณาจักร โดยระบุถึงอาชีพของเบอร์เน็ตต์ในฐานะโปรดิวเซอร์รายการต่างๆ เช่น “Survivor” “Shark Tank” “The Voice” และ “The Apprentice” ของทรัมป์ในการประกาศเลือกครั้งนี้ เบอร์เน็ตต์เป็นอดีตประธานของ MGM และผู้ชนะรางวัลเอ็มมี 13 ครั้ง

ทูตสำหรับภารกิจพิเศษ

ริค เกรเนลล์ อดีตเอกอัครราชทูตประจำเยอรมนีและพันธมิตรตัวฉกาจของทรัมป์เป็นผู้ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งทูตพิเศษประจำเยอรมนีที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ เกรเนลล์ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ เคยดำรงตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ และช่วยให้ทรัมป์ท้าทายผลการเลือกตั้งในรัฐเนวาดาในปี 2020

ผู้แทนพิเศษด้านกิจการตัวประกัน

ออดัม โบห์เลอร์ ผู้ก่อตั้งบริษัทลงทุนด้านการดูแลสุขภาพ Rubicon Founders และอดีตซีอีโอของบริษัท United States Development Finance Corporation จะทำหน้าที่เป็นทูตพิเศษด้านกิจการตัวประกัน ทรัมป์ประกาศบนเว็บไซต์ Truth Social

ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ

ทรัมป์เลือก สตีเฟน มิราน ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบายเศรษฐกิจในกระทรวงการคลัง และเป็นนักวิจัยที่สถาบันแมนฮัตตัน ซึ่งเป็นกลุ่มนักวิจัยแนวอนุรักษ์นิยม ให้เป็นหัวหน้าคณะกรรมาธิการ 3 คน แม้ว่าการแต่งตั้งเขาจะต้องได้รับการยืนยันจากวุฒิสภาเสียก่อน

ผู้บริหารฝ่ายบริหารการรถไฟกลาง

ทรัมป์เลือก เดวิด ฟิงค์ ซึ่งประธานาธิบดีคนใหม่เรียกว่าพนักงานรถไฟรุ่นที่ 5 ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหารการรถไฟของรัฐบาลกลาง ฟิงค์เป็นอดีตประธานบริษัท Pan Am Railways และเป็นบุตรชายของ เดวิด แอนดรูว์ ฟิงค์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานบริษัท Guilford Transportation ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Pan Am

หัวหน้าสำนักงานนโยบายกฎหมายกระทรวงยุติธรรม

แอรอน ไรซ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของวุฒิสมาชิกเท็ด ครูซ จากรัฐเท็กซัส พรรครีพับลิกัน ได้รับการเสนอชื่อจากทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานนโยบายกฎหมายของกระทรวงยุติธรรม

ไรซ์จะเป็นผู้นำสำนักงานเพื่อผลักดันวาระกฎหมายและระเบียบของทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่เขียนไว้ในเว็บไซต์ Truth Social ก่อนหน้านี้ ว่า ไรซ์เคยดำรงตำแหน่งรองอัยการสูงสุดของรัฐเท็กซัส

 หัวหน้าเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม

ทรัมป์เสนอชื่อ แชด มิเซลล์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาทางกฎหมายและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิในช่วงรัฐบาลชุดแรกของทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของกระทรวงยุติธรรม

หัวหน้าเจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารและงบประมาณ

ทรัมป์ประกาศว่า เอ็ด มาร์ติน ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของสำนักงานบริหารและงบประมาณ มาร์ตินเป็นอดีตประธานพรรครีพับลิกันแห่งรัฐมิสซูรีและเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของทรัมป์ที่กล่าวอ้างว่าเขาชนะการเลือกตั้งในปี 2020

มาร์ตินเป็นผู้ร่วมประพันธ์หนังสือเรื่อง "The Conservative Case for Trump" ซึ่งออกแบบมาเพื่อโน้มน้าวใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งฝ่ายอนุรักษ์นิยมให้สนับสนุนทรัมป์ในการเลือกตั้งปี 2016

ผู้กำกับ Voice Of America Kari Lake

ทรัมป์ประกาศว่าจะเลือก คารี เลค อดีตผู้ประกาศข่าวและผู้สนับสนุนทรัมป์ตัวยงที่แพ้การเลือกตั้งวุฒิสภารัฐแอริโซนาให้กับ รูเบน กัลเลโก จากพรรคเดโมแครต ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าว Voice of America ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ

ในโพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขา ทรัมป์เขียนว่าการแต่งตั้งจะทำให้ ค่านิยมของอเมริกาเกี่ยวกับเสรีภาพและเสรีภาพได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลกอย่างยุติธรรมและถูกต้อง ซึ่งแตกต่างจากคำโกหกที่แพร่กระจายโดยสื่อข่าวปลอม

อดีตผู้ประกาศข่าวและผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐแอริโซนาในปี 2022 ยอมรับข้ออ้างอันเป็นเท็จของทรัมป์เกี่ยวกับการเลือกตั้งในปี 2020 หลังจากแพ้การเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐแอริโซนาให้กับ เคธี่ ฮ็อบส์ จากพรรคเดโมแครตในปี 2022 เธอปฏิเสธที่จะยอมรับและพยายามท้าทายผลการเลือกตั้งหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ

เลคตอบต่อการประกาศดังกล่าวโดยขอบคุณทรัมป์ใน X และกล่าวว่า VOA เป็น สื่อต่างประเทศที่สำคัญที่อุทิศตนเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของเธอ เลคกล่าวว่า VOA จะโดดเด่นในการบันทึกความสำเร็จของอเมริกาไปทั่วโลก

รองผู้อำนวยการฝ่ายงบประมาณสำนักงานบริหารและงบประมาณ

ทรัมป์เสนอชื่อ ส.ส. แดน บิชอป วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายงบประมาณของสำนักงานบริหารจัดการและงบประมาณ โดยไว้วางใจให้บิชอปดำเนินการตามแผนงานลดต้นทุนและยกเลิกกฎระเบียบของเขาในทุกหน่วยงาน

บิชอปเพิ่งแพ้การเลือกตั้งอัยการสูงสุดของรัฐนอร์ทแคโรไลนา และเป็นสมาชิกของกลุ่มHouse Freedom Caucus ซึ่งเป็นกลุ่มขวาจัด เขาดำรงตำแหน่งในสภาคองเกรสตั้งแต่ปี 2019

อัยการสูงสุด

แพม บอนดี ทรัมป์เลือกอดีตอัยการสูงสุดแห่งรัฐฟลอริดา ในวันที่ตัวเลือกก่อนหน้านี้ของเขาคือ แมตต์ เกตซ์ ถอนตัวจากการพิจารณา เนื่องจากเผชิญกับการคัดค้านจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา จากข้อกล่าวหาเรื่องความประพฤติมิชอบทางเพศและการใช้ยาเสพติดผิดกฎหมาย

บอนดี วัย 59 ปี เป็นเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายระดับสูงของรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ตั้งแต่ปี 2011 ถึง 2019 เธอเคยดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการปราบปรามฝิ่นและยาเสพติดของทรัมป์ในช่วงรัฐบาลชุดแรกของเขา

วงในของทรัมป์ได้กล่าวถึงอัยการสูงสุดว่าเป็นสมาชิกที่สำคัญที่สุดของรัฐบาล รองจากทรัมป์เอง ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในแผนการเนรเทศหมู่ ให้อภัยโทษผู้ก่อจลาจลเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 และแสวงหาการแก้แค้นผู้ที่ฟ้องร้องเขาในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา

บอนดีเป็นผู้ปกป้องข้อกล่าวหาอันเป็นเท็จของทรัมป์ที่ว่าเขาแพ้การเลือกตั้งในปี 2020 เนื่องมาจากการทุจริตการเลือกตั้งอย่างแพร่หลาย การพิจารณายืนยันตำแหน่งครั้งแรกจากสองครั้งที่กำหนดไว้สำหรับบอนดีจะเริ่มขึ้นในวันพุธ

อัยการสูงสุดเพื่อสิทธิพลเมือง

ทรัมป์เสนอชื่อ ฮาร์มีต ดิลลอน อดีตรองประธานพรรครีพับลิกันแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้เป็นหัวหน้าสำนักงานสิทธิพลเมืองของกระทรวงยุติธรรม โดยยกย่องผลงานของเธอในการยื่นฟ้องคดีเกี่ยวกับเสรีภาพในการพูดและการท้าทายข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด-19 ในแถลงการณ์

ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนนโยบายกระทรวงการต่างประเทศ

ทรัมป์แต่งตั้ง ไมเคิล แอนตัน ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งโฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรก ให้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศ

 เดวิด แซ็กส์ ผู้ครองตำแหน่ง Ai & Crypto

ทรัมป์ ซึ่งยกย่องตัวเองว่าเป็นประธานาธิบดีด้านคริปโตก่อนการเลือกตั้ง ทรัมป์กล่าวในโพสต์ของ Truth Social ว่า ผู้ประกอบการและนักลงทุนด้านเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตจะเป็นผู้กำหนดนโยบายสำหรับฝ่ายบริหารในสองภาคส่วนที่กำลังเติบโต

แซ็กส์เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์ Yammer ซึ่งถูกซื้อกิจการโดย Microsoft ในปี 2012 ด้วยมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังก่อตั้งบริษัทเงินทุนเสี่ยง Craft Ventures และเคยเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ PayPal

ทรัมป์กล่าวว่า แซ็กส์จะเป็นผู้นำคณะที่ปรึกษาประธานาธิบดีด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วย

กรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลาง

มาร์ค มีเดอร์ อดีตเจ้าหน้าที่ของวุฒิสมาชิก ไมค์ ลี จากพรรครีพับลิกันในรัฐยูทาห์ ได้รับเลือกให้เป็นกรรมาธิการของคณะกรรมการการค้าแห่งสหพันธรัฐ ก่อนหน้านี้มีเดอร์ เคยทำงานใน FTC โดยเน้นที่คดีต่อต้านการผูกขาด และในแผนกต่อต้านการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรม

กรรมาธิการศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ

ทรัมป์เลือก ร็อดนีย์ สก็อตต์ อดีตหัวหน้าหน่วยตรวจชายแดนสหรัฐฯเป็นกรรมาธิการกรมศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ

ทรัมป์ยกย่องระยะเวลาดำรงตำแหน่งของสก็อตต์ในฐานะหัวหน้าหน่วยตรวจชายแดน โดยกล่าวว่าเขา มีอัตราการเข้าเมืองผิดกฎหมายต่ำเป็นประวัติการณ์สก็อตต์ดำรงตำแหน่งดังกล่าวเป็นเวลา 19 เดือนระหว่างปี 2020 ถึง 2021 และกำกับดูแลการบังคับใช้นโยบายสำคัญหลายประการ รวมถึงนโยบายอยู่ในเม็กซิโก และ Title 42

 กรรมาธิการสำนักงานประกันสังคม

ทรัมป์เลือก แฟรงค์ บิซิญญาโน ประธานและซีอีโอของบริษัทบริการทางการเงิน Fiserv ให้ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการของสำนักงานประกันสังคม บนเว็บไซต์ Truth Social ทรัมป์กล่าวว่า บิซิญญาโนเป็นผู้นำทางธุรกิจที่มีประวัติอันยอดเยี่ยมในการเปลี่ยนแปลงองค์กรขนาดใหญ่และจะรับผิดชอบในการส่งมอบความมุ่งมั่นของหน่วยงานที่มีต่อประชาชนชาวอเมริกัน

ในปี 2017 เมื่อเขาเป็นซีอีโอของ First Data Corporation ซึ่งถูกซื้อกิจการโดย Fiserv ในปี 2019 บิซิญญาโนอยู่ในอันดับที่สองในรายชื่อซีอีโอที่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุดของ New York Times โดยมีค่าตอบแทนรวม 102.2 ล้านดอลลาร์ (ส่วนใหญ่เป็นหุ้น)

กรรมาธิการกรมสรรพากร

ทรัมป์เลือกอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บิลลี่ ลอง จากพรรครีพับลิกัน รัฐมิสซูรี เป็นกรรมาธิการกรมสรรพากรคนที่ 51 โดยระบุว่า รู้จักอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนนี้มาตั้งแต่ปี 2011

หากวุฒิสภาอนุมัติ การที่ลองเข้ามาดำรงตำแหน่งดังกล่าว อาจทำให้ แดนนี่ เวอร์เฟล กรรมาธิการกรมสรรพากรต้องยุติวาระการดำรงตำแหน่งก่อนกำหนด (วาระการดำรงตำแหน่งของเขามีกำหนดสิ้นสุดในปี 2027)

ลองเคยเป็นอดีตผู้ดำเนินการประมูลและทำงานเป็นที่ปรึกษาธุรกิจและภาษีตั้งแต่ลาออกจากรัฐสภาในปี 2022

ที่ปรึกษาทำเนียบขาว

ทรัมป์ประกาศแต่งตั้ง เดวิด วอร์ริงตัน ที่ปรึกษาทั่วไปฝ่ายหาเสียงซึ่งเป็นตัวแทนเขาในการสอบสวนของคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 6 มกราคม ให้ดำรงตำแหน่งทนายความประจำทำเนียบขาวแทน วิลเลียม แม็กกินลีย์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อในตอนแรก ซึ่งทรัมป์กล่าวว่าเขาจะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของกรมประสิทธิภาพรัฐบาลที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่

ที่ปรึกษาฝ่ายประสิทธิภาพของรัฐบาล

วิลเลียม แม็กกินลีย์ ทรัมป์กล่าวว่าในสิ่งที่อาจมองได้ว่าเป็นการลดตำแหน่งจากที่ปรึกษากฎหมายของทำเนียบขาวนั้น เขาจะทำหน้าที่เป็นทนายความหัวหน้าสำหรับ Department of Government Efficiency" หรือ DOGE ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่แทน

แม้ว่าบัญชี "War Room" ใน X ของทีมงานเปลี่ยนผ่านของทรัมป์จะโต้แย้งแนวคิดดังกล่าวโดยยืนกรานว่า DOGE ต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และมั่นคงอย่างบิล แม็กกินลีย์

ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการค้าและการผลิต

ทรัมป์เลือก ปีเตอร์ นาวาร์โร ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการค้าระดับสูง โดยประกาศแต่งตั้งเขาใน Truth Social และเขียนว่า นาวาร์โรได้รับการปฏิบัติอย่างเลวร้ายจากกลุ่ม Deep State หรืออะไรก็ตามที่อยากจะเรียก โดยอ้างอิงถึงการตัดสินลงโทษนาวาร์โรเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้เขาเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ต้องรับโทษจำคุกฐานดูหมิ่นรัฐสภา

ที่ปรึกษาอาวุโสด้านกิจการอาหรับและตะวันออกกลาง

ทรัมป์เลือก มัสซาด บูลอส พ่อของไมเคิล บูลอส ซึ่งแต่งงานกับ ทิฟฟานี ทรัมป์ ลูกสาวของทรัมป์

เป็นซีอีโอของบริษัทผลิตรถยนต์ของไนจีเรีย ได้ทำการติดต่อไปยังผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับ สำหรับทรัมป์ระหว่างการหาเสียงในปี 2024 ทรัมป์ประกาศว่า เขาเป็นตัวเลือกสำหรับบทบาทนี้ในโพสต์บน Truth Social โดยเรียกเขาว่าทรัพย์สินที่มีค่าสำหรับแคมเปญหาเสียงซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างพันธมิตรใหม่ที่ยอดเยี่ยมกับชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับ

ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและรองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบาย

ทรัมป์ประกาศแต่งตั้ง สตีเฟน มิลเลอร์ เป็นรองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายของทำเนียบขาว รวมถึงรับหน้าที่เพิ่มเติมในฐานะที่ปรึกษาด้านความมั่นคงภายในประเทศ มิลเลอร์เป็นที่ปรึกษาอาวุโสของทรัมป์ในช่วงรัฐบาลชุดแรกของเขา และเป็นหนึ่งในผู้วางแผนนโยบายการย้ายถิ่นฐานที่สร้างความขัดแย้งมากที่สุดของเขา รวมถึงโครงการแยกครอบครัวด้วย

ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ

ทรัมป์แต่งตั้ง ไมค์ วอลท์ซ ส.ส. จากพรรครีพับลิกันแห่งรัฐฟลอริดา ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา วอลท์ซอดีตหน่วยเบเรต์เขียวของกองทัพบก ได้วิพากษ์วิจารณ์จีนอยู่บ่อยครั้ง เรียกร้องให้สมาชิกนาโตจ่ายเงินด้านการป้องกันประเทศมากขึ้น และกล่าวว่าเขาคาดหวังว่าทรัมป์จะผลักดันให้ยูเครนและรัสเซียยุติสงครามในยูเครนโดยการเจรจา

ที่ปรึกษาทั่วไปของสำนักงานบริหารและงบประมาณ

ทรัมป์ประกาศว่า มาร์ก เปาเล็ตตา จะกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมของเขาในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรกของทรัมป์ และจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับกรมประสิทธิภาพรัฐบาลที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งนำโดย อีลอน มัสก์และวิเวก รามาสวามี

ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ทรัมป์เลือก พอล แอตกินส์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ควบคุมการเงินระดับสูง โดยประกาศการตัดสินใจของเขาในโพสต์บนเว็บไซต์ Truth Social แอตกินส์เคยดำรงตำแหน่งกรรมาธิการ SEC ตั้งแต่ปี 2002 ถึง 2008 ในสมัยรัฐบาลของจอร์จ ดับเบิลยู บุช

ทรัมป์เขียนว่า แอตกินส์ตระหนักดีว่าสินทรัพย์ดิจิทัลและนวัตกรรมอื่นๆ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำให้ประเทศอเมริกายิ่งใหญ่กว่าที่เคยเป็นมา โดยพยักหน้าให้กับชุมชนคริปโตที่สนับสนุนแอตกินส์ ซึ่งจะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธาน SEC ต่อจาก แกรี่ เจนสเลอร์ ผู้ไม่เห็นด้วยกับคริปโต

ผู้ดูแลสำนักงานปราบปรามยาเสพติด

แชด โครนิสเตอร์ แห่งเทศมณฑลฮิลส์โบโร (ฟลอริดา) เป็นตัวเลือกแรกของทรัมป์ในการดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงานปราบปรามยาเสพติด แต่โครนิสเตอร์โพสต์ใน X ว่าเขาตัดสินใจถอนตัว

โพสต์ดังกล่าวมีผู้แสดงความคิดเห็นชื่นชมการถอนตัวและล้อเลียนการตัดสินใจในอดีต แต่ในวันรุ่งขึ้น ทรัมป์ก็ออกมายอมรับความดีความชอบที่โครนิสเตอร์ลาออก

ผู้ดูแลระบบการบริหารธุรกิจขนาดเล็ก

อดีตวุฒิสมาชิก เคลลี เลิฟเลอร์ จากพรรครีพับลิกัน รัฐจอร์เจีย ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้บริหารของสำนักงานบริหารธุรกิจขนาดย่อม โดยทรัมป์กล่าวว่าเลิฟเลอร์จะปราบปราม การฉ้อโกง และการใช้อำนาจเกินขอบเขตของกฎระเบียบ

ในบทบาทใหม่ของอดีตวุฒิสมาชิกรายนี้ระดมทุนให้ทรัมป์ก่อนการเลือกตั้ง ระดมทุนได้ 7 ล้านดอลลาร์สำหรับการรณรงค์หาเสียงของเขา

ตามรายงานของCNNในฐานะผู้บริหารสำนักงานบริหารธุรกิจขนาดย่อม เลิฟเลอร์จะรับผิดชอบในการดูแลสินเชื่อมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์และความช่วยเหลือด้านภัยพิบัติสำหรับธุรกิจขนาดย่อม

ผู้ดูแลศูนย์บริการ Medicare และ Medicaid

เมห์เมต ออซ แพทย์ชื่อดังที่แพ้การชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เมื่อปี 2022 ให้กับวุฒิสมาชิกจอห์น เฟตเตอร์แมน จากพรรคเดโมแครต รัฐเพนซิลเวเนีย จะเข้ามารับตำแหน่งแทน

ออซจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ซึ่งทรัมป์ประกาศว่าจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์

ชื่อเสียงของออซส่วนใหญ่มาจากการปรากฏตัวบ่อยครั้งในรายการของ โอปราห์ วินฟรีย์ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 และรายการทอล์กโชว์ช่วงกลางวันของเขาเอง

เขาถูกกล่าวหาว่าอ้างคุณสมบัติทางการแพทย์ที่น่าสงสัย รวมถึงส่งเสริมทฤษฎีที่ถูกหักล้างแล้วว่ายาต้านมาเลเรียไฮดรอกซีคลอโรควินสามารถรักษาโควิด-19 ได้ และผลักดันผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก

ทรัมป์สนับสนุนออซในการหาเสียงชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เมื่อปี 2022

ผู้บริหารนาซา

ทรัมป์เลือกมหาเศรษฐี จาเร็ด ไอแซกแมน ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทประมวลผลการชำระเงิน Shift4 ให้เป็นผู้บริหารขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (National Aeronautics and Space Administration) โดยเรียกว่าผู้นำทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ นักการกุศล นักบิน และนักบินอวกาศ ในโพสต์ บน Truth Social

 เลขาธิการกองทัพบก

ทรัมป์ประกาศว่า แดเนียล ดริสคอลล์ ที่ปรึกษาอาวุโสของรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ จะทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายพลเรือนของกระทรวงกลาโหม ดริสคอลล์ ซึ่งเป็นทหารผ่านศึกจากกองทัพ จะทำหน้าที่เป็น “ผู้ก่อกวนและตัวแทนแห่งการเปลี่ยนแปลง” ทรัมป์เขียนบนTruth Social

หัวหน้าเจ้าหน้าที่

ทรัมป์แต่งตั้ง ซูซี ไวลส์ ผู้จัดการร่วมฝ่ายหาเสียงของเขาเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่สองวันหลังจากที่ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นการเลือกผู้บริหารระดับสูงครั้งแรกของเขา ไวลส์จะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งนี้

กรมประสิทธิภาพของรัฐบาล

ทรัมป์ประกาศว่า อีลอน มัสก์ บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก จะบริหารแผนกประสิทธิภาพรัฐบาล (หรือ “DOGE”) ร่วมกับนักลงทุนและอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีพรรครีพับลิกัน วิเวก รามาสวามี

ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ว่า แผนกดังกล่าวซึ่งยังไม่ได้ถูกจัดตั้งขึ้นจะเสนอคำแนะนำและแนวทางจากภายนอกรัฐบาลและมุ่งเน้นที่การเปลี่ยนแปลงระบบราชการของรัฐบาลกลางโดยคำนึงถึงประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้จ่ายและการลดกฎระเบียบ

มัสก์ผู้สนับสนุนทรัมป์อย่างเปิดเผยซึ่งบริจาคเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์ให้กับซูเปอร์แพคที่สนับสนุนทรัมป์ เคยเสนอชื่อแผนกดังกล่าวมาก่อน

 ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและงบประมาณ

ทรัมป์เสนอชื่อ รัสเซลล์ วอตต์ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานงบประมาณและการจัดการ ซึ่งอาจเป็นครั้งที่สองที่เขาดำรงตำแหน่งนี้

วอตต์ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2021 หลังจากดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการและรักษาการผู้อำนวยการ วอตต์เป็นผู้เขียนบทในวาระนโยบาย Project 2025 ที่มีประเด็นโต้เถียงเกี่ยวกับสำนักงานบริหารของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา และจะรับผิดชอบดูแลงบประมาณของทำเนียบขาว และการนำนโยบายของทรัมป์ไปปฏิบัติทั่วทั้งฝ่ายบริหาร คาดว่าวอตต์จะผลักดันการปรับโครงสร้างนโยบายที่จะให้ประธานาธิบดีมีอำนาจมากขึ้น

ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC)

ทรัมป์ประกาศแต่งตั้งอดีต ส.ส. เดฟ เวลดอน จากพรรครีพับลิกัน รัฐฟลอริดา ซึ่งดำรงตำแหน่งในสภาคองเกรสตั้งแต่ปี 1995 ถึง 2009 ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) และแต่งตั้งมาร์ตี มาคารีผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้คัดค้านคำสั่งให้ฉีดวัคซีนในช่วงการระบาดของโควิด-19 ให้ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการ FDA นอกจากนี้ เขายังแต่งตั้งจาเน็ตต์ เนเชวัต อดีต ผู้สนับสนุนฟ็อกซ์นิวส์ให้ดำรงตำแหน่งศัลยแพทย์ใหญ่

 ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายต่อต้านการก่อการร้าย

เซบาสเตียน กอร์กา ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้ช่วยประธานาธิบดีและผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายต่อต้านการก่อการร้าย ก่อนหน้านี้เขาเคยดำรงตำแหน่งนักยุทธศาสตร์ให้กับประธานาธิบดีในรัฐบาลทรัมป์ชุดแรก และยังเป็นพิธีกรรายการวิทยุของตัวเองชื่อ “America First with Sebastian Gorka”

ผู้ควบคุมชายแดน

ทรัมป์แต่งตั้ง ทอม โฮแมน อดีตผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรให้ดำรงตำแหน่งใหม่ โดยประกาศดังกล่าวเนื่องจากทรัมป์มีแผนเนรเทศผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารจำนวนมากในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของเขา

รัฐมนตรีกระทรวงการเคหะและพัฒนาเมือง

สก็อตต์ เทิร์นเนอร์ อดีตผู้เล่น NFL ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการเคหะและพัฒนาเมือง เทิร์นเนอร์ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการบริหารของสภาโอกาสและการฟื้นฟูทำเนียบขาวในรัฐบาลทรัมป์ชุดแรก

เลขาธิการกระทรวงกิจการทหารผ่านศึก

ทรัมป์เลือกอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดัก คอลลินส์ จากพรรครีพับลิกัน รัฐจอร์เจีย เป็นเลขานุการฝ่ายกิจการทหารผ่านศึก

คอลลินส์ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่ปี 2013 ถึง 2021 และเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สนับสนุนทรัมป์ในสภาระหว่างการบริหารชุดแรกของเขา

คอลลินส์ให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงและลดระเบียบข้อบังคับในกองบัญชาการสำรองกองทัพอากาศ กำจัดการทุจริต และให้แน่ใจว่าทหารผ่านศึกทุกคนจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่พวกเขาสมควรได้รับ

อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นี้ถูกส่งไปอิรักในปี 2008 ในฐานะสมาชิกของกองบินลำเลียงทางอากาศที่ 94 ของกองทัพอากาศ

 ผู้ดูแลสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม

ทรัมป์แต่งตั้งอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ลี เซลดิน แห่งพรรครีพับลิกัน ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (EPA) โดยอ้างถึงภูมิหลังทางกฎหมายที่แข็งแกร่งมากของเขา และกล่าวในแถลงการณ์ว่าเป็นนักสู้ตัวจริงเพื่อนโยบายอเมริกาต้องมาก่อน

เซลดิน ซึ่งเป็นพันธมิตรของทรัมป์ที่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กเมื่อ 2 ปีก่อน จะยกเลิกกฎระเบียบที่ยุติธรรมและรวดเร็ว ซึ่งจะดำเนินการในลักษณะที่จะปลดปล่อยพลังของธุรกิจอเมริกัน ขณะเดียวกันก็รักษามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมสูงสุดไว้ แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ

ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการสื่อสารกลาง FCC

ทรัมป์แต่งตั้ง เบรนแดน คาร์ เป็นประธานคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการสื่อสารกลาง คาร์ดำรงตำแหน่งหนึ่งในห้าคณะกรรมาธิการของ FCC ตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งเป็นปีแรกที่ทรัมป์แต่งตั้งให้เขาดำรงตำแหน่งนี้ เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักวิจารณ์บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่

โดยเขียนบทหนึ่งใน วาระการประชุม Project 2025 ที่ก่อให้เกิด ความขัดแย้งซึ่งทรัมป์ปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่า FCC ควรจำกัดสิทธิคุ้มครองที่แพลตฟอร์มเทคโนโลยีได้รับ และกำหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องมีความโปร่งใสเกี่ยวกับการตัดสินใจกลั่นกรองเนื้อหาของตน นอกจากนี้เขายังใช้แพลตฟอร์มของเขาที่ FCC เพื่อสนับสนุนมัสก์

เขาจะเข้ารับตำแหน่ง FCC ในขณะที่ทรัมป์กดดันให้ FCC เพิกถอนใบอนุญาตของสถานีโทรทัศน์ที่มีการออกอากาศซึ่งอ้างว่าการรายงานข่าวไม่ยุติธรรม แม้ว่าในทางปฏิบัติอาจเป็นเรื่องยากมากก็ตาม

โฆษกทำเนียบขาว

แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกประจำแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ จะดำรงตำแหน่งโฆษกประจำทำเนียบขาวเมื่อประธานาธิบดีคนใหม่เข้ารับตำแหน่ง

ลีวิตต์ วัย 27 ปี เคยเป็นผู้ช่วยโฆษกประจำแคมเปญหาเสียงในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรก

นอกจากนี้เธอยังชนะการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรครีพับลิกันในเขตเลือกตั้งที่ 1 ของรัฐนิวแฮมป์เชียร์ในปี 2022 ทำให้เธอกลายเป็นผู้สมัครคนที่สองในกลุ่มเจน Z ที่ได้รับเลือกให้ ดำรงตำแหน่งใน การเลือกตั้งขั้นต้นของสภาผู้แทนราษฎร

 ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารทำเนียบขาว

ทรัมป์เลือก สตีเวน เชียง โฆษกแคมเปญหาเสียงให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารที่ทำเนียบขาว เชียงเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2024 และเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายตอบสนองเชิงกลยุทธ์ในช่วงวาระสุดท้ายของทรัมป์ หลังจากเคยทำงานด้านสื่อสารให้กับ Ultimate Fighting Championship มาก่อน