การเมืองเกาหลีใต้เผชิญวิกฤตครั้งสำคัญอีกครั้ง พรรคฝ่ายค้านหลัก "พรรคประชาธิปไตย" (Democratic Party) เรียกร้องให้จับกุมประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล เพื่อดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับการประกาศใช้กฎอัยการศึกฉุกเฉินที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความตึงเครียดและวุ่นวายไปทั่วประเทศ เกิดการประท้วงจากประชาชนที่ไม่พอใจการกระทำดังกล่าว และทำให้เสถียรภาพทางการเมืองของประเทศสั่นคลอน
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่า คิม ยองฮยอน อดีตรัฐมนตรีกลาโหมซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้เสนอแนะให้ยุน ซอกยอลประกาศกฎอัยการศึก ได้ถูกจับกุมในข้อหามีส่วนร่วมในการก่อกบฏครั้งนี้ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า คิม ยองฮยอน แสดงบทบาทสำคัญในการแนะนำมาตรการดังกล่าวให้แก่ประธานาธิบดี แม้ว่ามาตรการนี้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตและละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ขณะเดียวกัน คิม มินซอก สมาชิกสภาจากพรรคประชาธิปไตย ได้แถลงย้ำว่าการจับกุมและสอบสวนยุน ซอกยอลเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อคืนความยุติธรรมให้แก่ประชาชน พร้อมทั้งเตือนว่าการบริหารงานของพรรครัฐบาลที่นำโดย ฮัน ดงฮุน มีแนวโน้มขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ในอีกด้านหนึ่ง พรรคฝ่ายค้านยังประกาศแผนที่จะยื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดีอีกครั้งในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ หลังจากความพยายามครั้งก่อนล้มเหลวเนื่องจากสมาชิกรัฐสภาฝ่ายรัฐบาลใช้วิธีเดินออกจากที่ประชุมเพื่อล้มกระบวนการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม พรรคฝ่ายค้านยังคงแสดงความมุ่งมั่นว่าจะไม่ยอมแพ้ พร้อมเร่งผลักดันให้ประธานาธิบดียุน ซอกยอลลาออกหรือถูกถอดถอนโดยเร็ว
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ร้อนแรง ยุน ซอกยอล ออกมากล่าวขอโทษต่อสาธารณชนในวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยยอมรับว่ามาตรการกฎอัยการศึกสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน พร้อมสัญญาว่าจะไม่ประกาศใช้มาตรการนี้อีก อย่างไรก็ตาม คะแนนนิยมของ ยุน ซอกยอล ยังคงอยู่ในระดับต่ำไม่ถึง 20% และถูกวิจารณ์ว่ามีแนวทางการบริหารงานที่แข็งกร้าว
การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ในรัฐสภา แต่ยังขยายวงกว้างสู่ท้องถนน โดยมีประชาชนนับแสนคนออกมาชุมนุมในกรุงโซล เรียกร้องให้ยุน ซอกยอลลาออก พร้อมประกาศว่าจะดำเนินการประท้วงต่อไปจนกว่าความยุติธรรมจะเกิดขึ้น
พรรครัฐบาลซึ่งนำโดย ฮัน ด็อกซู นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (PPP) ฮัน ดงฮุน ได้ออกมาแถลงตอบโต้ว่า ประธานาธิบดียุน ซอกยอลจะลาออกตามกำหนดการ และระหว่างนี้จะพักจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้นายกฯ ฮัน เข้ามารับหน้าที่บริหารประเทศชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านยังมองว่าคำแถลงดังกล่าวไม่เป็นที่ยอมรับ และถือเป็นเพียงการซื้อเวลาเท่านั้น อีแจ มยอง หัวหน้าพรรคประชาธิปไตย ยืนยันว่า การยื่นญัตติครั้งต่อไปจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ และขอเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาทุกคนร่วมรับผิดชอบต่ออนาคตของประเทศ
สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความไม่พอใจของประชาชนที่สะสมมายาวนานต่อการบริหารงานของยุน ซอกยอล รวมถึงความขัดแย้งระหว่างแนวคิดอนุรักษ์นิยมของพรรครัฐบาลและแนวทางเสรีนิยมของฝ่ายค้าน นักวิเคราะห์มองว่า ความตึงเครียดนี้อาจยืดเยื้อและสร้างผลกระทบเชิงลบต่อเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
สำหรับยุน ซอกยอล ผู้ซึ่งเคยได้รับการยอมรับจากผู้นำโลกตะวันตกในฐานะพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ และเป็นผู้นำในการต่อต้านระบอบเผด็จการในภูมิภาค ความท้าทายครั้งนี้นับว่าเป็นบททดสอบใหญ่ที่สุดในอาชีพการเมือง ทั้งนี้ฝ่ายค้านยังเตรียมเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่ เพื่อจัดตั้งที่ปรึกษาพิเศษสำหรับสอบสวน คิม กอนฮี ภรรยาของประธานาธิบดี ในข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริต โดยระบุว่ากระบวนการตรวจสอบจะเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชน