“เงินเฟ้อ ดอกเบี้ยสูง” กระทบผลประกอบการร้านฟาสต์ฟู้ด ทำลูกค้าหาย-ยอดขายหด

03 พ.ค. 2567 | 00:02 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ค. 2567 | 06:58 น.
612

ร้านฟาสต์ฟู้ดหลายแห่งได้รับผลกระทบจากปัญหาเงินเฟ้อและดอกเบี้ยสูงในปัจจุบัน โดยพิซซ่าฮัท (Pizza Hut) และเคเอฟซี (KFC) มียอดขายลดลง ส่วนแมคโดนัลด์ต้องงัดทุกกลยุทธ์เพื่อแย่งชิงลูกค้ามาให้ได้ แม้แต่เชนร้านกาแฟดัง “สตาร์บัคส์” ยอดขายไตรมาสแรกลดลงเช่นกัน

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ผลประกอบการไตรมาสแรก ของบรรดา เชนร้านอาหาร เหล่านี้ สอดรับกับมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดการณ์ว่า ผู้บริโภคจะลดค่าใช้จ่าย เพื่อรับมือวิกฤตของแพงและดอกเบี้ยสูง แต่แนวโน้มดังกล่าวก็ใช้เวลาสักพักหนึ่งกว่าจะส่งผลให้เชนร้านฟาสต์ฟู้ด มี ยอดขายลดลง อย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ดี ปัญหาของแพงไม่ได้เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ยอดขายลดลง โดยสตาร์บัคส์กล่าวว่า สภาพอากาศที่ย่ำแย่ทำให้ยอดขายลด ขณะที่บริษัทแม่ของพิซซ่าฮัท เคเอฟซี และทาโก้เบลล์ โทษว่าเป็นเพราะพายุหิมะในเดือนมกราคม ขณะที่ยอดขายไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา (2566) นั้นแข็งแกร่งเกินไปจนทำให้เปรียบเทียบได้ลำบากในปีนี้

ราคาขยับ-ลูกค้าลดการเข้าร้านจานด่วน 

สำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหารที่ร้านอาหารจานด่วนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าการรับประทานอาหารที่บ้าน โดยราคาของร้านอาหารที่ให้บริการอย่างจำกัด (limited-service restaurants) ปรับตัวขึ้น 5% ในช่วงเดือนมีนาคม เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ราคาของชำปรับตัวขึ้นในอัตราที่ช้ากว่า

บรรดาร้านจานด่วนกำลังดิ้นรนเพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่นับวันมีจำนวนน้อยลงเรื่อย ๆ หรือผู้ที่เข้าร้านอาหารไม่บ่อยนัก

นายเอียน บอร์เดน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของแมคโดนัลด์ ได้กล่าวเมื่อวันอังคาร (30 เม.ย.) ว่า ทางร้านเองก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจูงใจผู้บริโภคที่ประหยัดมากขึ้นและให้ความสำคัญกับราคาสินค้า มาเข้าร้านให้มากขึ้น

"เห็นได้ชัดว่าทุกคนกำลังดิ้นรนเพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่นับวันมีจำนวนน้อยลงเรื่อย ๆ หรือผู้บริโภคที่มาเข้าร้านอาหารไม่บ่อยนัก และเราต้องแน่ใจว่า เรามีความคิดอย่างนักสู้ข้างถนน (street fighter) ที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ ไม่ว่าสภาพโดยรอบของเราจะเป็นเช่นไร"

ยอมจ่ายแพงบางครั้งคราว ให้รางวัลชีวิต

อย่างไรก็ตาม ยังมีข่าวดีสำหรับร้านอาหารที่โดยปกติลูกค้าจะเข้าร้านด้วยความถี่น้อยกว่าร้านจานด่วนอยู่แล้ว แต่สามารถจำหน่ายอาหารได้ในราคาสูงกว่า เพราะท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อและผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น ปรากฏว่า ลูกค้ายังคงเข้าร้านอาหารประเภทนี้เป็นครั้งคราวและสั่งเมนูโปรด แม้ราคาอาหารจะขยับขึ้นสูงกว่าปีที่ผ่านมาก็ตาม

ยกตัวอย่างเชนร้านอาหารยอดนิยมอย่างวิงสต็อป (Wingstop) รายงานยอดขายในสหรัฐเพิ่มขึ้น 21.6% ในไตรมาสแรก เช่นเดียวกับชิโปตเล เม็กซิกัน กริลล์ (Chipotle Mexican Grill) ซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังทรัพย์มากกว่า มีรายได้เพิ่มขึ้น 5.4% ในไตรมาสแรก และร้านป็อปอายส์ (Popeyes) มียอดขายเพิ่มขึ้น 5.7%

เชนร้านอาหารยอดนิยมอย่างวิงสต็อป (Wingstop) รายงานยอดขายในสหรัฐเพิ่มขึ้น 21.6% ในไตรมาสแรก

ไมเคิล สกิปเวิร์ธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวิงสต็อปให้ความเห็นว่า เมื่อใดก็ตามที่ผู้บริโภคได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจ พวกเขามีแนวโน้มที่จะลดการเข้าร้านที่เคยเข้าถี่กว่าหรือบ่อยกว่า ซึ่งก็ได้แก่บรรดาร้านอาหารจานด่วน-ร้านฟาสต์ฟู้ดทั้งหลาย ขณะที่ลูกค้าร้านของเขานั้น โดยปกติแล้วจะเข้ามารับประทานอาหารที่ร้านเฉลี่ยเดือนละครั้ง เหมือนกับเป็นการมาให้รางวัลตัวเองด้วยอาหารที่แพงกว่าฟาสต์ฟู้ดขึ้นมาหน่อย แต่ไม่ต้องเข้าบ่อยๆ

นายคริส เคมป์ชินสกี ซีอีโอของแมคโดนัลด์ กล่าวกับนักวิเคราะห์ว่า ผู้บริโภคทั่วโลกยังคงการระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายในช่วงเวลานี้ ดังจะเห็นได้ว่า ยอดขายไตรมาสแรกในธุรกิจเชนร้านอาหารในหลายๆประเทศ ถ้าไม่ลดลงก็ไม่มีการเติบโต เช่นในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา เยอรมนี ญี่ปุ่น และอังกฤษ

อย่างไรก็ตาม เดวิด กิบส์ ซีอีโอของยัม (Yum) ซึ่งเป็นเจ้าของเชนร้านเคเอฟซี พิซซ่าฮัท และทาโก้เบลล์ มองในแง่บวกว่า ไตรมาสแรกจะเป็นช่วงเวลาที่ผลประกอบการเลวร้ายที่สุดของปีนี้ จากนั้นเชื่อว่ายอดขายในภาพรวมจะกระเตื้องขึ้น

 

ข้อมูลอ้างอิง