ภัยคุกคามจาก AI นำโด่ง WEF เตือน “10 ความเสี่ยงใหญ่สุด” ที่โลกต้องเผชิญ

11 ม.ค. 2567 | 09:24 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ม.ค. 2567 | 11:20 น.
839

รายงานจาก World Economic Forum เตือนภัยที่มาในรูป “10 ความเสี่ยงใหญ่” ที่โลกต้องเผชิญทั้งในระยะสั้น-ระยะยาว ชี้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นดาบสองคมที่จะสร้างความปั่นป่วนเป็นอับดับหนึ่งท่ามกลางกระแสข้อมูลเท็จและข่าวลวงในปีนี้

 

รายงานความเสี่ยงโลกประจำปี 2024 หรือ Global Risks Report 2024 ที่จัดทำโดย เวิลด์ อิโคโนมิค ฟอรัม (WEF) เผยแพร่วานนี้ (10 ม.ค.) ชี้ว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เป็นดาบสองคมที่จะสร้างผลกระทบและความเสี่ยงให้แก่โลกมากที่สุดในปีนี้ เนื่องจากเป็นปีแห่งการเลือกตั้งในหลายประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ช่วงปลายปีจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่การนำ AI มาใช้เพื่อสร้างข้อมูลเท็จ ชี้นำและบิดเบือนข้อเท็จจริงจนส่งผลปั่นป่วนผลการเลือกตั้งคือสิ่งที่เชื่อว่าจะเป็นความเสี่ยงสำคัญที่สุด 

รายงานระบุว่า ในระยะสั้นหรือภายในระยะ 2 ปีข้างหน้า ภัยคุกคามจาก AI ที่จะทำให้ผู้คนได้รับข้อมูลข่าวสารผิดๆ และข้อมูลที่ตั้งใจบิดเบือน (misinformation and disinformation) และผลของมันที่อาจทำให้เกิดการแบ่งขั้ว แบ่งฝักฝ่ายขึ้นในสังคม นี่คือความกังวลและเป็นความเสี่ยงอันดับ1 เหนือเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก สงคราม หรือความตกต่ำทางเศรษฐกิจ

แคโรไลนา คลินท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ บริษัทที่ปรึกษา มาร์ช แมคเลนแนน ประจำภาคพื้นยุโรป ซึ่งร่วมจัดทำรายงานชิ้นนี้ เปิดเผยว่า AI สามารถสร้างแบบจำลองที่มีอิทธิพลต่อความคิดของคนหมู่มากที่เป็นผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้อย่างที่เราอาจจะไม่เคยพบเห็นมาก่อน “ซึ่งมันจะส่งผลออกมาอย่างไรเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องจับตามองกันให้ดี”

ภัยคุกคามจาก AI นำโด่ง WEF เตือน “10 ความเสี่ยงใหญ่สุด” ที่โลกต้องเผชิญ

10 ความเสี่ยงใหญ่สุดในระยะ 2 ปีข้างหน้า

นอกเหนือจากอิทธิพลของ AI ที่จะทำเกิดข้อมูลข่าวสารผิดๆ หรือข้อมูลเท็จ รวมทั้งข้อมูลที่ตั้งใจบิดเบือนเพื่อผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว รายงานของ WEF ยังระบุถึงความเสี่ยงอื่นๆที่สำคัญที่โลกจะต้องเผชิญในระยะ 2 ปีข้างหน้า เรียงลำดับตามความสำคัญได้ ดังนี้

  1. การได้รับข้อมูลข่าวสารผิดๆ และตั้งใจบิดเบือนด้วยเทคโนโลยี AI 
  2. สภาพอากาศที่รุนแรงแบบสุดขั้ว
  3. การแบ่งขั้ว/ฝักฝ่าย ทางสังคม
  4. ความไม่ปลอดภัยทางไซเบอร์
  5. ความขัดแย้งระหว่างประเทศระดับที่ใช้กำลังทหาร
  6. สถานะที่ไม่มีโอกาสทางเศรษฐกิจ
  7. เงินเฟ้อ
  8. การถูกบังคับโยกย้ายถิ่นฐาน
  9. การตกต่ำทางเศรษฐกิจ
  10. มลภาวะ

ผู้จัดทำรายงานกล่าวว่า ความก้าวล้ำของเทคโนโลยี AI เป็นภัยต่อความพยายามของบรรดาหน่วยงานและองค์กรต่างๆในการรับมือกับคลื่นข่าวสารที่เป็นเท็จ หรือข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นแบบจงใจบิดเบือน ซึ่งจะทำให้เกิดการคำนวณหรือคาดคะเนยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาดไปได้ ขณะเดียวกัน บรรดาบริษัทเอกชนก็ต้องหาทางรับมือกับความซับซ้อนยุ่งยากที่เกิดขึ้นในห่วงโซ่อุปทานอันเป็นผลพวงจากความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มมิจฉาชีพที่พยายามสร้างภัยคุกคามทางไซเบอร์ โลกต้องเผชิญกับความเสี่ยงหลากหลายด้านภายในระยะ 2 ปีข้างหน้า และนี่คือความเสี่ยงใหญ่ 10 อันดับแรก

“ต้องมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องไม่หยุดยั้งเพื่อสร้างแนวทางรับมือ ทั้งในระดับองค์กร ระดับประเทศ และระดับนานาประเทศ ต้องมีความร่วมมือที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นระหว่างภาครัฐและเอกชนในการตรวจจับและจัดการกับปัจจัยความเสี่ยงต่างๆที่ก่อตัวขึ้นมา” ผู้จัดทำรายงานระบุ

ทั้งนี้ การเผยแพร่รายงานดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่การประชุมสุดยอด World Economic Forum ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กำลังจะมีขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า เชื่อว่าในปีนี้ หัวข้อหรือประเด็นการหารือจะครอบคลุมประเด็นความขัดแย้งที่ยังร้อนแรงทั้งในยุโรปและตะวันออกกลาง รวมทั้งประเด็นสำคัญทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ภายใต้ธีมงานในปีนี้ คือ “Rebuilding Trust” หรือการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันขึ้นมาอีกครั้ง   

เมื่อ AI กลายเป็นดาบสองคมและเป็นภัยคุกคามอันดับหนึ่ง โลกต้องรับมืออย่างไร

 

โลกต้องอาศัยความเชื่อใจและความร่วมมือ

เมื่อมองแนวโน้มแบบคาดการณ์ไปในอนาคตข้างหน้าในระยะยาว รายงานของ WEF ระบุว่า ความเสี่ยงดังกล่าวจะแตกต่างออกไป โดยในระยะ 10 ปีข้างหน้า เรื่องของสภาพอากาศของโลกที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นและการเปลี่ยนแปลงต่างๆเกี่ยวกับระเบียบโลกด้านภูมิรัฐศาสตร์ จะได้รับน้ำหนักความสำคัญมากขึ้น เมื่อเทียบกับความเสี่ยงในระยะสองปี โดย 2 ใน 3 ของผู้ตอบคำถามการสำรวจกล่าวว่า พวกเขาเชื่อว่าจะได้เห็นโลกที่แบ่งขั้วใหม่เป็นหลายขั้วและมีความแตกแยกมากขึ้นในทศวรรษหน้า

รายงานของ WEF ชิ้นนี้ จัดทำขึ้นโดยความร่วมมือกับบริษัทซูริค อินชัวรันซ์ กรุ๊ป มีการสอบถามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านความเสี่ยงโลก นักการเมือง ผู้วางนโยบาย และผู้นำในอุตสาหกรรมต่างๆ จำนวนมากกว่า 1,400 คนในเดือนกันยายน 2566 โดยคำถามหลักก็คือ พวกเขาเห็นว่าอะไรคือสิ่งที่น่ากังวลมากที่สุด หรือเห็นว่าเป็นความเสี่ยงมากที่สุดในโลกของเรา ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ผลการสำรวจสะท้อนความเสี่ยงที่หลากหลายครอบคลุมความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี สังคม สิ่งแวดล้อม ภูมิรัฐศาสตร์ ฯลฯ ซึ่งท้าทายความสามารถของโลกในการปรับตัวและรับมืออย่างถึงที่สุด นั่นหมายความว่า บรรดาผู้นำรัฐบาลประเทศต่างๆ จำเป็นจะต้องร่วมมือกัน สร้างแนวป้องกันและรับมือกับภัยคุกคามจากความเสี่ยงนานัปการที่กำลังก่อตัวขึ้น

“เรากำลังเผชิญกับระเบียบโลกที่ไร้เสถียรภาพ ซึ่งมีลักษณะที่ชัดเจนคือการแบ่งฝักฝ่ายเป็นขั้วต่างๆ และสภาวะที่ไม่มั่นคง ซ้ำเติมด้วยสภาพอากาศที่รุนแรงสุดขั้วมากยิ่งขึ้น ตลอดจนความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจที่ยิ่งกลายเป็นตัวเร่งให้เกิดความเสี่ยงต่างๆ เร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งการนำ AI มาใช้เพื่อสร้างข้อมูลเท็จ และบิดเบือนข้อมูลเพื่อชักจูงใจหรือล่อลวงผู้คน” ซาเดีย ซาฮิดี กรรมการผู้จัดการ WEF กล่าวในการแถลงรายงานเมื่อวันพุธ (10 ม.ค.) พร้อมเรียกร้องให้บรรดาผู้นำโลกหันมาร่วมมือกันจัดการกับความเสี่ยงในระยะสั้น และวางรากฐานที่ยืดหยุ่น ยั่งยืน และคำนึงถึงประโยชน์ของทุกภาคส่วนในการรับมือกับความเสี่ยงในอนาคตระยะยาวด้วย     

ข้อมูลอ้างอิง