โดยเทรนด์ของ AI ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้มีอะไรบ้าง “ฐานเศรษฐกิจ” ได้ทำการวิเคราะห์ให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น เทรนด์แรก ที่เห็นคือ AI จะถูกใส่ในอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ทั้งพีซี โน้ตบุ๊ก โดย AI ในยุคแรกๆ ทำให้พีซีมีความฉลาดมากขึ้น เรียนรู้สิ่งต่างๆ และรู้จักผู้ใช้งานมากขึ้น
แต่อนาคตอันใกล้นี้พีซีเป็นเสมือนพันธมิตรดิจิทัล โดยพีซี จะพัฒนาบทบาทไปไกลกว่าการขับเคลื่อนผลลัพธ์ในการทำงานของมนุษย์ แต่จะก้าวสู่การขับเคลื่อนความสามารถของมนุษย์ โดยต่อไปการสั่งการพีซีที่เดิมใช้คีย์บอร์ดหรือเมาส์สั่งการ ต่อไปสามารถสั่งการด้วยเสียง สั่งการผ่านรูปภาพ และท่าทาง
AI ยังถูกใส่เข้าไปในสมาร์ทโฟน อุปกรณ์สมาร์ทดีไวช์ เพื่อให้มีความอัจฉริยะมากขึ้น ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวผู้ใช้ได้ดีขึ้น รวมถึงถูกใส่ในซอฟต์แวร์ เพื่อให้มีการทำงานของซอฟต์แวร์ต่างๆ มีความสามารถเพิ่มขึ้น
เทรนด์ที่ 2 ที่จะได้เห็น คือ AI ที่มีความสามารถ ความฉลาดมากขึ้น และการประมวลที่รวดเร็วขึ้น จะทำให้ Generative AI สามารถสร้างเนื้อหาต่างๆ ได้มากกว่าข้อความ โดย Generative AI จะถูกนำมาสร้างคอนเท้นต์ที่เป็นวิดีโอ และเพลง รวมถึงเอฟเฟคต่างๆ มากขึ้น ผ่านการพิมพ์คำสั่ง หรือ prompt ช่วยให้การสร้าง}วิดีโอ หรือการตัดต่อวิดีโอง่าย และรวดเร็วขึ้น
เทรนด์ที่ 3 AI จะถูกมาใช้นำมาประยุกต์ใช้ทางธุรกิจมากขึ้น เช่น การวางกลยุทธ์องค์กร การให้ข้อมูลทางธุรกิจเชิงลึก คาดการณ์การซื้อสินค้าและบริการ การ ประเมินคุณสมบัติ และภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้โดนใจลูกค้ามากสุด นอกจากนี้ AI จะถูกนำมาทำงานรูทีน ที่ธุรกิจต้องทำซํ้าๆ ทำเป็นประจำ เช่น การคีย์ข้อมูลเอกสารเข้าระบบ การตอบคำถามลูกค้าเบื้องต้น การยืนยันตัวตนเพื่อเข้าใช้งานระบบ ซึ่งหากองค์กรใดไม่ได้มีการนำ AI Software มาใช้งาน พนักงานก็ต้องใช้เวลาในการจัดการหน้าที่งานที่ต้องทำวน ซํ้าไปมาเหล่านี้แบบแมนนวล ทำให้พนักงานเองอาจจะไม่มีเวลาโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์ หรืองานที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร นอกจากนี้ด้วยความสามารถของ AI เชื่อว่าจะถูกนำมาใช้แก้ปัญหาการทุจริตในองค์กร โดย AI สามารถนำมาประยุกต์เพื่อตรวจสอบข้อมูล ตรวจจับการทุจริตในองค์กรได้
เทรนด์ที่ 4 คือการนำ AI มาพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบหลังบ้านของออฟฟิศหรือสำนักงานแบบอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีของระบบหลังบ้านของสำนักงาน โดยใช้ AI เข้ามาช่วยในด้านต่างๆ เช่น การประมวลผลของข้อมูลที่มีปริมาณมาก การใช้ AI มาช่วยในการจัดกลุ่มประเภทของข้อมูลและการสรุปข้อมูลเนื้อหาต่างๆ ซึ่งเป็นงานสำคัญของระบบหลังบ้านในแต่ละออฟฟิศแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้สะดวก รวดเร็ว และแม่นยำขึ้น
และ เทรนด์ที่ 5 AI จะถูกนำมาใช้เพิ่มความสามารถของระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยจะเป็นการนำ AI มาช่วยพัฒนาด้านการออกแบบเทคโนโลยีของระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่ง AI จะถูกมาใช้พัฒนาเทคโนโลยีในส่วนที่ช่วยปกป้องข้อมูลต่างๆ ทั้งขององค์กร และของลูกค้า ให้มีความปลอดภัยทางไซเบอร์ และ ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ต่างๆ นั้นมักมีช่องโหว่ที่ทำให้แฮกเกอร์บุกเข้าโจมตี ดังนั้น AI จะเข้ามาช่วยคำนวณด้านการออกแบบโปรแกรมซอฟต์แวร์เหล่านี้ให้ปลอดภัยกว่าเดิม