สถานทูตอเมริกาฯ กังวล พ.ร.ก.อาชญากรรมออนไลน์ หวั่นสะเทือนแพลตฟอร์มมะกัน

05 มี.ค. 2568 | 13:53 น.
อัปเดตล่าสุด :05 มี.ค. 2568 | 14:27 น.

“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เผย พ.ร.ก. ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม 2566 อาจประกาศล่าช้าภายในเดือนมีนาคม สถาบันการเงิน - ค่ายมือถือ - สถานทูตอเมริกา กังวล “ร่วมชดใช้” มิจฉาชีพ กระทบธุรกิจ

ความคืบหน้าหลังจากคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้อนุมัติ พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2566 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ล่าสุดวันนี้ 5 มีนาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี  เปิดเผยว่า การประกาศใช้พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566  ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.เป็นที่เรียบร้อย และ อยู่ระหว่างการตรวจสอบขั้นสุดท้ายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจากเดิมนั้นคาดว่าจะประกาศใช้ภายในเดือน กุมภาพันธ์ แต่อาจจะล่าช้าไปถึงสิ้นเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นขั้นตอนการตรวจสอบของสำนักงานกฤษฎีกา มิได้มีการแก้ไขสาระหรือมีการเตะถ่วง แต่ประการใด

อย่างไรก็ตาม เนื้อหาสาระ ในพระราชกำหนด ที่มีหลักการ ร่วมชดใช้ความเสียหาย ที่สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ แพลตฟอร์มดิจิทัล จะต้อง รับผิดชอบ หากมีการปล่อยให้มิจฉาชีพใช้ก่ออาชญากรรมออนไลน์ ก็ได้สร้างความกังวลขึ้น ในบรรดาบริษัทที่เกี่ยว

“เนื้อหาสาระของร่างพระราชกำหนดไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอาจมีแรงต้านมากจนกระทบกับความเร่งด่วนที่ต้องรีบประกาศใช้ แต่ยืนยันว่าตามหลักการของกฎหมาย ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุกิจ เป็นสิ่งที่บริษัทหรือผู้เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว อย่างการแลกเปลี่ยนข้อมูลอาชญากรรม บัญชีม้า และ อื่น ๆ หลังจากนี้จะมีการประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อออกแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องในรายละเอียดที่ต้องออกคู่กับ พ.ร.ก.”

ประเสริฐ จันทรรวงทอง

นายประเสริฐ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า  ไม่ใช่แค่สถาบันการเงินและผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แสดงความกังวลเท่านั้น  สถานทูตสหรัฐฯ ได้ส่งหนังสือแสดงความกังวล ว่าร่างพระราชกำหนดดังกล่าว จะกระทบการดำเนินธุรกิจของ แพลตฟอร์มดิจิทัลจากสหรัฐฯ ที่ให้บริการกับประชาชนในประเทศไทย

“สถานทูตอเมริกาส่งจดหมายมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2567 หลังจาก ครม. มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.ก.อาชญากรรมออนไลน์ แต่ยืนยันว่าไม่ได้กระทบอะไร และ ไม่จำเป็นต้องนำไปปรับแก้ไขร่างฯ ซึ่งเป็นอำนาจของรัฐบาลที่ต้องเร่งกำหนดมาตรการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาที่กระทบกับประชาชน”.