อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกปี 68 รายได้พุ่งแตะ 24 ล้านล้านบาท โต 14%

29 พ.ย. 2567 | 10:49 น.
อัปเดตล่าสุด :29 พ.ย. 2567 | 11:00 น.

การ์ทเนอร์ คาดรายได้ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกในปี 2568 จะเติบโตขึ้น 14% คิดเป็นมูลค่ารวมอยู่ที่ 717 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 24 ล้านล้านบาท สำหรับปีนี้ คาดการณ์ตลาดจะเติบโตที่ 19% โดยจะมีมูลค่าแตะ 630 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 21.4 ล้านล้านบาท

นายราจีฟ ราชบุตร นักวิเคราะห์อาวุโสของการ์ทเนอร์ กล่าวว่าหลังจากตลาดถดถอยในปี 2566 รายได้ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังฟื้นตัวและคาดว่าจะกลับมาเติบโตระดับเลข 2 หลักในปีนี้และปีหน้า (ดูตารางที่ 1)   โดยการเติบโตนี้มาจากปัจจัยความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของเซมิคอนดักเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับ AI และการฟื้นตัวในภาคการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ความต้องการภาคยานยนต์และภาคอุตสาหกรรมยังคงอ่อนแอ"

อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกปี 68 รายได้พุ่งแตะ 24 ล้านล้านบาท โต 14%

ในระยะสั้นตลาดหน่วยความจำ (Memory) และหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) จะเป็นปัจจัยกระตุ้นรายได้ให้กับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก

ตารางที่ 1: คาดการณ์รายได้เซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกระหว่างปี 2566-2568 (หน่วย: พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

 

2566

2567

2568

รายได้

530.0

629.8

716.7

การเติบโต (%)

-11.7

18.8

13.8

ที่มา: การ์ทเนอร์ (ตุลาคม 2567)

 

คาดการณ์ว่าตลาด Memory ทั่วโลกจะมีรายได้เติบโต 20.5% ในปี 2568 คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 196.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ   หรือ ประมาณ 6.6 ล้านล้านบาท โดยปัญหาการขาดแคลนอุปทานอย่างต่อเนื่องในปีนี้ จะส่งผลให้ราคาหน่วยความจำประเภท NAND เพิ่มขึ้น 60% ในปีนี้ แต่คาดว่าราคาในปีหน้ามีแนวโน้มลดลง 3% เนื่องจากอุปทานและราคาที่ลดลงในปี 2568 คาดว่ารายได้หน่วยความจำแฟลช NAND จะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 75.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  หรือ ประมาณ 2.56 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปี 2567

อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกปี 68 รายได้พุ่งแตะ 24 ล้านล้านบาท โต 14%

ปัญหาการขาดแคลนอุปทานที่ปรับตัวดีขึ้นทำให้อุปสงค์และอุปทานของชิป DRAM กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยการผลิตหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูงหรือ High-Bandwidth Memory (HBM) ที่สูงเป็นประวัติการณ์ ผนวกกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น และราคา Double Data Rate 5 หรือ DDR5 ที่สูงขึ้น คาดว่าภาพรวมรายได้ชิป DRAM ในปี 2568 จะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 115.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  หรือประมาณ  3.93 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 90.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 3.06 ล้านล้านบาท จากในปีนี้

ผลกระทบ AI กับตลาดเซมิคอนดักเตอร์

ตั้งแต่ปี 2566 ชิป GPU มีส่วนสำคัญต่อการใช้ฝึกฝนและพัฒนาโมเดล AI ต่าง ๆ โดยคาดว่าตลาดนี้จะมีรายได้รวมที่ 51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  หรือ ประมาณ 1.73 ล้านล้านบาท และเพิ่มขึ้น 27% ในปี 2568

อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกปี 68 รายได้พุ่งแตะ 24 ล้านล้านบาท โต 14%

นายจอร์จ บร็อคเคิลเฮิร์สต์ รองประธานนักวิเคราะห์ การ์ทเนอร์ เผยว่า อย่างไรก็ตาม ตลาดนี้กำลังเปลี่ยนไปสู่ระยะที่มุ่งหวังผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ซึ่งต้องการเห็นรายได้เติบโตเป็นหลายเท่าจากเม็ดเงินที่ลงทุนไปกับการฝึกฝนนั่นเอง"

หนึ่งในนั้นคือการเพิ่มขึ้นอย่างมากของความต้องการชิป HBM ซึ่งเป็นโซลูชันหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูงของเซิร์ฟเวอร์ AI

"ผู้ผลิตกำลังลงทุนกับการผลิตและบรรจุภัณฑ์ของชิป HBM อย่างมาก เพื่อให้สอดรับความต้องการของชิป GPU และชิป AI Accelerator รุ่นใหม่ ๆ" บร็อคเคิลเฮิร์สต์ กล่าวเพิ่มเติม

การ์ทเนอร์คาดว่ารายได้ชิป HBM ในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 284% และเพิ่ม 70% ในปี 2568 โดยคิดเป็นมูลค่า 12.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  หรือประมาณ 4.18 แสนล้านบาท และ 21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  หรือ ประมาณ 7.14 แสนล้านบาท ตามลำดับ

นักวิเคราะห์การ์ทเนอร์คาดว่าภายในปี 2569 ชิป HBM กว่า 40% จะรองรับการประมวลผล AI แบบอนุมาน เทียบกับในปัจจุบันที่มีน้อยกว่า 30% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการใช้งานการอนุมานที่เพิ่มขึ้นและข้อจำกัดในการนำชิป GPU สำหรับการฝึกฝนมาใช้ใหม่