อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ แม้แต่หน้าจอที่คุณกำลังอ่านบทความนี้ก็ต้องใช้ชิป ส่วนประกอบสำคัญนี้ผลิตโดยบริษัทเพียงไม่กี่บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออก
"ไต้หวัน" เพียงประเทศเดียวผลิตเซมิคอนดักเตอร์ประมาณ 70% ของโลก และมากกว่า 90 % ของ เซมิคอนดักเตอร์ ระดับสูงสุด
ชิป คือ แผงวงจรไฟฟ้าขนาดเล็กทำหน้าที่ประมวลผล เก็บข้อมูล และส่งข้อมูล เปรียบเสมือนสมองของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยุคใหม่ เช่น ชิปประมวลผลคอมพิวเตอร์ หรือ CPU ชิปประมวลผลกราฟิกการ์ดจอ หรือ GPU ชิปประมวลผลบนสมาร์ทโฟน
บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน (TSMC) ยืนหยัดในความสามารถในการบรรจุชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กหลายล้านชิ้นที่เรียกว่าทรานซิสเตอร์ ไว้บนพื้นแผงวงจรไฟฟ้าหรือเวเฟอร์
หกทศวรรษที่แล้ว เมื่อมีการประดิษฐ์ชิปตัวแรกของโลก ชิปดังกล่าวมีทรานซิสเตอร์เพียงสี่ตัว เเต่ปัจจุบัน โปรเซสเซอร์ที่ผลิตโดย TSMC ซึ่งใช้ใน iPhone รุ่นล่าสุดของ Apple มีทรานซิสเตอร์มากกว่า 16 พันล้านตัว
เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทชิปยักษ์ใหญ่รายนี้ยังได้ผลิตสิ่งที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นชิปที่ทรงพลังที่สุดในโลก นั่นคือ Blackwell 200 ของ Nvidia ซึ่งมีทรานซิสเตอร์จำนวนมหาศาลถึง 208 พันล้านตัว
ฐานะผู้นำของ TSMC ในการผลิตชิปขั้นสูง การเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และการตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ทางการเมือง จึงทำให้บริษัทนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจและการแข่งขันทางเทคโนโลยีของโลก เเต่ระดับความเสี่ยงที่ต้องเผชิญก็เช่นกัน ทั้ง สหรัฐฯและจีน สองมหาอำนาจต่างแข่งขันกันเพื่อควบคุมองค์ประกอบที่สำคัญนี้ให้มากขึ้น
มีเสียงวิพากวิจารณ์ว่าไต้หวันไปพัวพันกับการแย่งชิงอำนาจของมหาอำนาจทั้งสองมากขึ้นเรื่อยๆ และมีความเสี่ยงที่จะเป็นเบี้ยในการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์นำมาซึ่งการพูดถึง ความอยู่รอดของ TSMC ผู้ผลิตชิปตามสัญญารายใหญ่ที่สุดของโลก อย่างกว้างขวางในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศต่างๆ เริ่มมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความขัดแย้งทางทหารในช่องแคบไต้หวัน
การขยายธุรกิจในต่างประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ของ TSMC ยังทำให้เกิดความกังวลว่าบริษัทจะย้ายการผลิตหลักไปที่อื่นหรือไม่
ผู้สังเกตการณ์บางคน กล่าวว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นมีแนวโน้มที่จะเร่งแผนการขยายธุรกิจทั่วโลกของ TSMC แต่เจ้าหน้าที่ของบริษัทได้ปฏิเสธการคาดการณ์ดังกล่าว
บริษัทให้คำมั่นว่าจะรักษาการผลิตอย่างน้อย 80-90 % ในไต้หวัน และรักษาฐานการวิจัยและการพัฒนาที่นั่น
ผู้สังเกตการณ์บอกว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ถือเป็นเรื่องปกติที่บริษัทขนาดใหญ่อย่าง TSMC จะต้องกระจายสถานที่ตั้งและตั้งสำนักงานในประเทศต่างๆ ก็เป็นเรื่องดีที่ TSMC ออกไปเรียนรู้และดำเนินงานในประเทศและวัฒนธรรมต่างๆ นี่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเติบโต
TSMC กำลังเผชิญกับข้อจำกัดมากมายในการเติบโตภายในไต้หวัน การย้าย การดำเนินงานบางส่วน ไปต่างประเทศไม่ได้หมายถึงการลดความมุ่งมั่นต่อไต้หวัน ตราบใดที่สำนักงานใหญ่และสิ่งอำนวยความสะดวกหลักยังคงอยู่ในไต้หวัน
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังเร่งเพิ่มผลผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ โดยได้ลงนามในกฎหมาย CHIPS และวิทยาศาสตร์เป็นกฎหมายในปี 2022 เพื่อสนับสนุนการวิจัย การพัฒนา และการผลิต
นักวิเคราะห์บางคน เชื่อว่า หากสหรัฐฯ สร้างระบบนิเวศและลดการพึ่งพาชิปของไต้หวัน ก็มีแรงจูงใจน้อยลงที่จะเข้ามาปกป้องไต้หวันหากจีนโจมตี
TSMC หรือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company เป็นบริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมากในหลายด้าน
ที่มา