KEY
POINTS
การนำ AI มาใช้สำหรับธุรกิจยังไม่สอดคล้องกับกระแสนิยมในเทคโนโลยี เพราะมาตรการข้อมูลส่วนบุคคคล กฎระเบียบ และโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการใช้งานอย่างแพร่หลาย ตามการการสำรวจทั่วโลกของผู้นำธุรกิจมากกว่า 300 ราย จัดทำโดย MIT Technology Review Insights และบริษัทโทรคมนาคมในออสเตรเลีย Telstra เปิดเผยว่า มีเพียง 9% เท่านั้นที่ใช้ AI อย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ผู้นำส่วนใหญ่มองในแง่ดีเกี่ยวกับ ศักยภาพของ AI และคาดว่าจะขยายการใช้งานให้กว้างขึ้น แต่ในปัจจุบันแม้แต่กลุ่มแรกที่นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ยังปรับใช้เทคโนโลยีนี้ในพื้นที่ธุรกิจที่จำกัด สาเหตุมาจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความง่ายในการใช้งาน AI สำหรับองค์กร การนำไปใช้อาจทำให้บริษัทต้องปรับปรุงคุณภาพและความสามารถของข้อมูล มาตรการความเป็นส่วนตัว ทักษะด้าน AI และดำเนินการกำกับดูแล AI ที่ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบทั่วทั้งองค์กร นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบอื่น เช่น การออกแบบแอปฯ การเชื่อมต่อกับข้อมูลและกระบวนการทางธุรกิจ นโยบายองค์กร ฯลฯ
ถึงอย่างนั้นผู้นำธุรกิจส่วนใหญ่ก็คาดหวังว่า ฟังก์ชันทางธุรกิจหรือวัตถุประสงค์ทั่วไปที่จะใช้งาน Generative AI จะเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าภายในปี 2567
ในปี 2566 ผู้ตอบแบบสอบถามมากถึง 85% คาดหวังว่าจะใช้ AI สำหรับงานที่มีมูลค่าต่ำภายในปี 2567 โดย 77% คาดว่าจะนำไปใช้ในการบริการลูกค้า และ 74% สำหรับการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ โลจิสติกส์ในห่วงโซ่อุปทาน และการขายเป็นด้านอื่นๆ
รายงานกล่าวถึงอุปสรรคหลายประการที่ธุรกิจจะนำ Generative AI ไปใช้ โดยเฉพาะทรัพยากรและความสามารถด้านไอที
สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เทคโนโลยี AI เริ่มมีชื่อเสียงในปลายปี 2565 หลังจากการเปิดตัว Open AI ChatGPT ยอดนิยม นำไปสู่การฟ้องร้องมากมายที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์ บริษัทใหญ่ๆ ยังประสบปัญหาการรั่วไหลของข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและปัญหาด้านความปลอดภัยเนื่องมาจากการใช้งาน
ข้อเสนอในรายงานระบุว่า การจัดการความเสี่ยงเหล่านี้จะต้องมีการวางโครงสร้างการกำกับดูแลและข้อกำหนดหรือข้อตกลงความปลอดภัยที่มั่นคงสำหรับโมเดล AI ซึ่งความสามารถในการจัดการกับความเสี่ยงเหล่านี้ยังขึ้นอยู่กับบริษัทต่างๆ ที่ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ภายในที่แข็งแกร่ง ซึ่งตามรายงาน ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ กล่าวว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ของบริษัทมีความสามารถในระดับปานกลาง
อุปสรรคอื่นๆ ในการนำ Gen AI มาใช้ตามที่ผู้ตอบแบบสำรวจระบุ ได้แก่ การขาดทักษะด้าน AI เชิงสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้อง บริษัทต่างๆ กังวลว่าไม่มีบุคลากรที่มีความสามารถที่เหมาะสมภายในองค์กร
อย่างไรก็ตาม การสำรวจสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกเชิงบวกโดยรวมเกี่ยวกับบทบาทในอนาคตของ Generative AI ในธุรกิจ ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถาม 6 ใน 10 ราย คาดหวังว่าโมเดล AI นี้จะสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมของตนเองในอีก 5 ปีข้างหน้า ส่วน 78% มองว่าเป็นโอกาสในการแข่งขัน และประมาณ 8% มองว่าเป็นภัยคุกคาม
ตามรายงานจาก McKinsey ที่เผยแพร่เมื่อปีที่แล้ว Generative AI คาดว่าจะมีผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดต่อการขาย การตลาด การดำเนินงานของผู้บริโภค การพัฒนาซอฟต์แวร์ และภาคการวิจัยและพัฒนา และสามารถเพิ่มมูลค่าประมาณ 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปีให้กับเศรษฐกิจโลก
ที่มา
The economic potential of generative AI: The next productivity frontier