วิกฤติขาดเเคลนน้ำกำลังเกิดขึ้นเสี่ยงกระทบ Big tech-AI

28 ก.พ. 2567 | 14:15 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.พ. 2567 | 14:15 น.

วิกฤติขาดเเคลนน้ำกำลังเกิดขึ้นกับบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ อย่าง TSMC​​​​​​​ ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับบรรดา Big tech และ AI

ในวงการอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ชิปสำหรับการประมวลผลในอุปกรณ์เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้น อย่าง บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ เช่น TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company ) ที่กำลังมีความเสี่ยงที่จะเกิดการขาดแคลนน้ำเนื่องจากเทคโนโลยีการประมวลผลก้าวหน้า S&P Global Ratings กล่าวในรายงาน

ชิปเซมิคอนดักเตอร์พบได้ในอุปกรณ์ทั่วไปตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงทีวี TSMC เป็นผู้ผลิตชิปตามสัญญาจ้างรายใหญ่ที่สุดในโลกและผลิตโปรเซสเซอร์ที่ทันสมัยที่สุดให้กับบริษัทต่างๆ เช่น Nvidia และแอปเปิ้ล

 

อุตสาหกรรมการผลิตชิปเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้นำปริมาณมหาศาล เนื่องจากโรงงานต่างๆ ต้องใช้น้ำทุกวันเพื่อทำให้เครื่องจักรเย็นลง และรับประกันว่าแผ่นเวเฟอร์ (Wafer fabrication) ปราศจากฝุ่นหรือเศษซาก 

ในกระบวรการผลิตโรงงานต่างๆ ต้องใช้น้ำบริสุทธิ์พิเศษ ซึ่งเป็นน้ำจืดที่ผ่านการแปรรูปให้มีความบริสุทธิ์สูงมาก เพื่อล้างเวเฟอร์ ยิ่งเซมิคอนดักเตอร์มีความก้าวหน้ามากขึ้น ขั้นตอนกระบวนการก็จะยิ่งใช้น้ำมากขึ้น รายงานระบุ 

ปริมาณการใช้น้ำของ TSMC ต่อหน่วยเพิ่มขึ้นมากกว่า 35% หลังจากที่ได้ผลิตชิป 16 นาโนเมตรในปี 2558 ข้อมูลจาก S&P เปิดเผย

วิกฤติขาดเเคลนน้ำกำลังเกิดขึ้นเสี่ยงกระทบ Big tech-AI

S&P เชื่อว่าสาเหตุหลักมาจากการโยกย้ายไปยังการผลิตขั้นสูง ซึ่งต้องใช้เวลาในกระบวนผลิตที่นานขึ้น เมื่อ TSMC ครองตลาดในการผลิตชิปขั้นสูง การหยุดชะงักของขั้นตอนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับน้ำอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีทั่วโลก

บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ระบุว่า หาก TSMC สามารถรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีไว้ได้ ผลกระทบต่อโปรไฟล์ธุรกิจของบริษัทและความสามารถในการทำกำไรจากความผันผวนของผลผลิตก็มีแนวโน้มที่จะจัดการได้

ปัจจุบันชิปยักษ์ใหญ่ของไต้หวันผลิตชิปขั้นสูงประมาณ 90% ของโลกที่ใช้สำหรับแอปพลิเคชัน AI และคอมพิวเตอร์ควอนตัม

รายงานระบุว่าปริมาณการใช้น้ำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 ในแต่ละปี โดยได้แรงหนุนจากการขยายกำลังการผลิตและความต้องการของเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ผู้ผลิตชิปทั่วโลกใช้น้ำมากพอๆ กับฮ่องกง ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากร 7.5 ล้านคน S&P กล่าว

วิกฤติขาดเเคลนน้ำกำลังเกิดขึ้นเสี่ยงกระทบ Big tech-AI

ความมั่นคงทางน้ำจะเป็นปัจจัยสำคัญมากขึ้นต่อสถานะเครดิตของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ การจัดการทรัพยากรน้ำอย่างไม่ถูกต้องอาจขัดขวางการดำเนินงานของบริษัท ส่งผลเสียต่อผลการดำเนินงานทางการเงิน และอาจกระทบต่อความสัมพันธ์กับลูกค้า

ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังเพิ่มอัตราสภาพอากาศที่รุนแรง ความถี่ของความแห้งแล้ง และความผันผวนของปริมาณน้ำฝน ซึ่งจำกัดความสามารถของผู้ผลิตชิปในการจัดการเสถียรภาพการผลิต