ไมโครซอฟท์ โชว์ศักยภาพ AI Copilot หนุนก้าวสู่องค์กรยุคใหม่

21 พ.ย. 2566 | 15:54 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ย. 2566 | 16:06 น.

ไมโครซอฟท์ โชว์ศักยภาพ AI Copilot ในงาน AI Summit ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ภายใต้แนวคิด “Leading the Era of AI” เผยองค์กรไทยตื่นตัวนำ AI มาใช้ เอไอเอส ธนาคารไทยพาณิชย์ และ ปตท.สผ. นำร่องทดลองใช้งาน Copilot for Microsoft 365

นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่าไมโครซอฟท์ ได้งาน Microsoft AI Summit ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ภายใต้แนวคิด “Leading the Era of AI” เพื่อนำเสนอศักยภาพของ AI ที่มีการพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดในระดับโลก  โดยที่ผ่านมาองค์กรในไทย ทั้งภาครัฐ เอกชน  ขนาดใหญ่ และเอสเอ็มอี ตื่นตัวให้ความสนใจในการนำ AI มาใช้งาน   

ไมโครซอฟท์ โชว์ศักยภาพ AI Copilot หนุนก้าวสู่องค์กรยุคใหม่

ซึ่งในงานดังกล่าวนั้นไมโครซอฟท์ ได้นำองค์กรธุรกิจชั้นนำของประเทศ อาทิ  เอไอเอส ธนาคารไทยพาณิชย์ และ ปตท.สผ. ที่ได้เข้าร่วมโปรแกรม Copilot for Microsoft 365 Early Access Program (EAP) เพื่อให้เห็นถึงแนวทางความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในการนำ AI มาใช้พลิกโฉมการดำเนินงาน ขณะที่ Buzzebees, InnovestX และ PTT Global Chemical (GC) ก็นำบริการ Azure OpenAI Service มาสร้างสรรค์นวัตกรรมต่อยอดบริการที่มีอยู่ด้วยพลังจาก AI

AI นับเป็นจุดเปลี่ยนทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในยุคนี้ เราจึงมุ่งมั่นวิจัยและพัฒนา AI ที่ผสมผสานเข้ากับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของเราอย่างลงตัว มีบทบาทเป็น Copilot พร้อมช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ใช้และองค์กรธุรกิจในทุกระดับให้สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น มากขึ้น เร็วขึ้น และเสียงตอบรับจากองค์กรที่นำ Copilot เข้าไปใช้งานจริงก็นับเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีถึงศักยภาพและความพร้อมของ AI ทั้งใน ทั้งในสถานที่ทำงาน โฮมออฟฟิศ สถาบันการศึกษา ห้องปฏิบัติการวิจัย และโรงงานผลิตทั่วโลก”

ไมโครซอฟท์ โชว์ศักยภาพ AI Copilot หนุนก้าวสู่องค์กรยุคใหม่

จากการสำรวจความคิดเห็นและแนวทางการใช้งาน Copilot ของลูกค้าองค์กรใน 41 ประเทศทั่วโลก  พบว่า

•             ผู้ใช้ Copilot ถึง 70% ระบุว่าพวกเขาสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ 68% รู้สึกว่าผลงานมีคุณภาพมากขึ้น

•             โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ใช้ Copilot สามารถทำงานประเภทการค้นหาข้อมูล งานเขียน และการสรุปเนื้อหาต่างๆ ได้เร็วขึ้น 29%

•             ผู้ใช้ Copilot สามารถติดตามเนื้อหาและประเด็นสำคัญในการประชุมที่ตนเองไม่ได้เข้าร่วมได้เร็วขึ้นถึง 4 เท่าตัว

•             ผู้ใช้ราว 64% เผยว่าพวกเขาใช้เวลาน้อยลงในการจัดการกับอีเมล ขณะที่ 85% สามารถเขียนงานดราฟท์แรกออกมาได้เร็วขึ้น และ 75% ค้นหาเอกสารที่ต้องการได้เร็วขึ้น

•             ผู้ใช้ Copilot 77% ต้องการใช้งานต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ บริการ Copilot for Microsoft 365 ได้เปิดให้ลูกค้าองค์กรเริ่มใช้งานทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นมา โดยทำงานผสานกับแอปพลิเคชันที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันและการทำงานของผู้คนนับล้านอย่าง Word, Excel, PowerPoint, Outlook และ Teams พร้อมทั้งเพิ่มความสามารถใหม่ๆ มากมาย โดยมีฟีเจอร์เด่น อาทิ

•             Outlook มาพร้อมฟีเจอร์ช่วยสรุปอีเมลที่ต่อเนื่องกัน การร่างข้อความตามรูปแบบที่ต้องการ และติดตามการประชุมผ่าน Teams ได้อย่างสะดวก

•             Word ช่วยสรุปเนื้อหาในเอกสาร ร่างเนื้อหาในการเขียนเอกสารใหม่ และการจัดรูปแบบย่อหน้า

•             Excel สามารถวิเคราะห์ข้อมูล แนะนำสูตรการคำนวณ สร้างกราฟ เป็นต้น

•             PowerPoint สามารถออกแบบสไลด์จากหัวข้อและเนื้อหาที่ต้องการได้

•             OneNote ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น และสรุปบันทึกย่อได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม

•             Teams ช่วยสรุปเนื้อหาสำคัญจากการประชุม

•             Stream ช่วยค้นหาข้อมูลเชิงลึกจากวิดีโอบนแพลตฟอร์มได้ดีขึ้น

•             OneDrive ช่วยเหลือผู้ใช้ในการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องภายในคลังไฟล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

Copilot for Microsoft 365 ยังโดดเด่นด้วยระบบที่พัฒนามาเพื่อองค์กรโดยเฉพาะ ทั้งด้านการรักษาความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการกำกับดูแล รวมถึงด้านจริยธรรม ผ่านการร่วมเรียนรู้และสังเกตการณ์การใช้งานจริงกับลูกค้าองค์กรทั่วโลก รวมถึงองค์กรอย่าง Visa, General Motors, KPMG และ Lumen Technologies

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้แนะนำลูกค้าองค์กรในประเทศไทยให้รู้จักกับคุณสมบัติในด้านอื่นๆ อีกมากมายของ Copilot นับตั้งแต่ Microsoft Security Copilot ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการทำงานของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ไปจนถึงการพัฒนา AI Copilot ที่ตอบโจทย์เฉพาะทางขององค์กรด้วย Azure OpenAI Service และ Copilot Studio