นายไทเลอร์ ชิว ผู้จัดการประจำประเทศไทย อาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ เปิดเผยว่า ผลสำรวจ “The Next- Generation Cloud Strategy in Asia” ซึ่งเป็นงานวิจัยอิสระที่อาลีบาบา คลาวด์ จัดทำขึ้น พบว่า ในภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทยเป็นผู้นำในการส่งเสริมการใช้คลาวด์ โดยธุรกิจไทยส่วนใหญ่ (95%) คาดว่าจะลงทุนด้านคลาวด์เพิ่มขึ้นอย่างมาก รั้ง ตำแหน่งผู้นำในตลาดอาเซียนที่ทำการสำรวจทั้ง 8 แห่ง ซึ่งรวมถึงอินโดนีเซีย (94%) ฟิลิปปินส์ (91%), เขตปกครองพิเศษฮ่องกง (83%) และสิงคโปร์ (83%)
ผลสำรวจระบุว่า ธุรกิจจำนวนมากเลือกใช้พับลิคคลาวด์ โดยพิจารณาจากการสนับสนุนในท้องถิ่นที่เชื่อถือได้ และชื่อเสียงด้านความปลอดภัยที่รัดกุม เห็นได้ชัดเจนว่า ธุรกิจต่างเห็นประโยชน์ของการย้ายไปทำงานบนพับลิคคลาวด์ ว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย และมีความปลอดภัยมากขึ้น ข้อได้เปรียบเหล่านี้ยังช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่ตั้งไว้
ผลสำรวจระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลโดยตรงทำให้ 54% ของธุรกิจในเอเชียใช้ซอฟต์แวร์ที่โฮสต์บนคลาวด์เพิ่มขึ้น ธุรกิจไทยลงทุนด้าน คลาวด์ประเภทต่างๆ เพิ่มขึ้น ผลสำรวจพบว่ามีองค์กร 59% ลงทุนด้านคลาวด์ที่เกี่ยวกับระบบอัตโนมัติ ในขณะที่ 53% ลงทุนด้านคลาวด์ที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์
แม้ว่าไพรเวทคลาวด์จะเป็นรูปแบบการใช้งานที่ได้รับการเลือกใช้มากที่สุดก็ตาม (36%) แต่ธุรกิจไทยกำลังใช้งานพับลิคคลาวด์ (23%) และไฮบริดคลาวด์ (29%) เพิ่มมากขึ้น มีการคาดการณ์ ว่า คลาวด์จะมีบทบาทมากขึ้นในตลาดไทย โดยประมาณครึ่งหนึ่งของธุรกิจไทยที่ตอบแบบสอบถามวางแผนที่จะลงทุนด้านพับลิค คลาวด์ (49%) และไฮบริดคลาวด์ (55%) เพิ่มขึ้นในปี 2566 นี้
องค์กรไทยกว่า 60% ที่ตอบแบบสำรวจได้ใช้บริการคลาวด์มาแล้วอย่างน้อยสามปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องของการใช้คลาวด์ในทุกธุรกิจ นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่าอุตสาหกรรมไทยที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการปรับเปลี่ยนกระบวน การทำงานเป็นดิจิทัล ได้แก่ บริการทางการเงินและการธนาคารการค้าปลีก การศึกษา สื่อและเกม เป็นต้น
แม้ว่าการใช้คลาวด์คอมพิวติ้งจะมีประโยชน์หลายประการ ผลสำรวจพบว่ายังมีอุปสรรคที่ธุรกิจไทยต้องเผชิญ เช่น การฝึกอบรมพนักงานที่ไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดในการใช้ทั้งพับลิคและไพรเวทคลาวด์ ส่วนอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดต่อการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานเป็นดิจิทัลและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ คือ ค่าใช้จ่ายสูง (36%) และขาดการสนับสนุน ด้านเทคนิคเฉพาะทางของแต่ละอุตสาหกรรม (42%) แต่หากธุรกิจไทยก้าวข้ามความท้าทายเหล่านี้ได้ การโยกย้ายการดำเนินงานไปยังคลาวด์ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มผลิตภาพเร่งการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน และก้าวลํ้านำหน้าคู่แข่งได้
บริการคลาวด์ที่ใช้อย่างแพร่หลายได้พลิกโฉมรูปแบบการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ประโยชน์อันน่าทึ่งของคลาวด์คอมพิวติ้ง เช่น ความสามารถในการปรับตัว การปรับขนาดการทำงานร่วมกัน ความปลอดภัย ตลอดจนความเร็ว ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) รวมทั้งการปฏิบัติตามข้อกำหนดและความเรียบง่ายในการนำไปใช้ที่เพิ่มมากขึ้น ล้วนทำให้คลาวด์ได้รับความนิยมและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการขยายธุรกิจและสร้างนวัตกรรม ก่อนที่จะเริ่มต้นเส้นทางการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล สิ่งสำคัญที่สุดคือ ธุรกิจจะต้องประเมินความต้องการขององค์กร พร้อมขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านคลาวด์ และสร้างกลยุทธ์ในการใช้คลาวด์ที่แข็งแกร่งที่ปรับให้เข้ากับเป้าหมายเฉพาะขององค์กร
สิ่งสำคัญคือพึงระลึกไว้เสมอว่า คลาวด์ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการเชื่อมต่อกับลูกค้า การเปิดรับและเก็บเกี่ยวความสามารถต่างๆ ของคลาวด์ เป็นหนึ่งในเครื่องมือขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่จะผลักดันให้ธุรกิจไทยก้าวสู่จุดสูงสุดใหม่ๆ และปูทางสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน