นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการร่วมกับบริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AVTผู้ผลิตผลิตภัณฑ์คลอร์-อัลคาไลผงพีวีซีและอีพิคลอโรไฮดริน เพื่อส่งมอบไนโตรเจนและออกซิเจนผ่านระบบท่อส่งก๊าซฯ (Pipeline Network) ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง
ทั้งนี้ เพื่อนำไปใช้ในกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์คลอร์-อัลคาไลและผงพีวีซี ที่เป็นวัตถุดิบของการผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเอจีซีวีนิไทยได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี พ.ศ. 2568
สำหรับความร่วมมือดังกล่าว จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป็นการประยุกต์ใช้ Climate Technology ของบีไอจี ซึ่งสามารถนำก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่ปัจจุบันทุกภาคส่วนให้ความสำคัญต่อการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยสอดรับกับเป้าหมายของประเทศไทยในการลดก๊าซเรือนกระจกที่ 30% ภายในปี พ.ศ. 2573 และเดินหน้าสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)ภายในปี พ.ศ. 2608
“การจัดหาก๊าซคาร์บอนต่ำผ่านระบบท่อส่งก๊าซ จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดต้นทุนในการขนส่ง และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้กับลูกค้า สอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ Generating a Cleaner Future ของบีไอจี ที่มุ่งเน้นการจัดหาก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้กับภาคการผลิตอุตสาหกรรม”
นายอภิชาติ กิจเจริญวิศาล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกิจการพิเศษ บริษัท เอจีซีวีนิไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการซากุระเป็นโครงการส่วนขยายกำลังการผลิตผงพีวีซีและวีซีเอ็ม ของเอจีซี วีนิไทย ที่เกิดจากการคาดการณ์ตลาดพีวีซีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน
ดังนั้น การนำก๊าซคาร์บอนต่ำมาใช้ในกระบวนการผลิตจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอน ที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง