นาฬิกาวันสิ้นโลก (Doomsday Clock) ขยับเข้าใกล้จุดจบของมนุษยชาติอีกครั้ง ในปี 2025 คณะกรรมการวิทยาศาสตร์และความมั่นคง (Science and Security Board) แห่ง Bulletin of the Atomic Scientists ได้ประกาศ เลื่อนเข็มนาฬิกาวันสิ้นโลกจาก 90 วินาทีเป็น 89 วินาทีสู่เที่ยงคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ใกล้หายนะที่สุดในประวัติศาสตร์ นาฬิกานี้เป็นสัญลักษณ์ของภัยคุกคามที่มนุษยชาติต้องเผชิญจากเทคโนโลยีที่เราสร้างขึ้นเอง ทั้งอาวุธนิวเคลียร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์ที่อาจถูกใช้ในทางที่ผิด
สงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อมาถึงปีที่สามยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้โลกเข้าสู่ความเสี่ยงจากอาวุธนิวเคลียร์มากขึ้น รัสเซียประกาศระงับสนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ และได้ติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในเบลารุส ขณะที่จีนเพิ่มจำนวนหัวรบนิวเคลียร์ของตนเป็น 600 ลูก พร้อมขยายศักยภาพในการโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยไกล
ในตะวันออกกลาง อิหร่านเร่งเสริมสมรรถนะยูเรเนียมและถูกคาดการณ์ว่าสามารถสร้างอาวุธนิวเคลียร์ได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ หากการเจรจาระหว่างประเทศล้มเหลว ความเสี่ยงของสงครามที่ลุกลามไปถึงระดับนิวเคลียร์จะยิ่งสูงขึ้น ขณะเดียวกัน เกาหลีเหนือก็ยังคงขยายขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ของตนต่อไปอย่างต่อเนื่อง
ปี 2024 เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ อุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้นถึง 1.54 องศาเซลเซียสจากระดับก่อนอุตสาหกรรม ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติในหลายพื้นที่ ทั้งคลื่นความร้อนในยุโรปและเอเชียใต้ อุทกภัยในบราซิลและแอฟริกา และภัยแล้งในอเมริกาเหนือ
แม้ว่าพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่หลายประเทศยังคงลงทุนในเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยเฉพาะจีน อินเดีย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพนำไปสู่ความเสี่ยงที่อาจเกิดโรคระบาดครั้งใหม่ เช่น ไข้หวัดนกสายพันธุ์ HPAI ที่เริ่มแพร่กระจายสู่มนุษย์อย่างน่ากังวล ในขณะเดียวกัน ห้องปฏิบัติการชีวภาพระดับสูงยังคงเพิ่มขึ้นทั่วโลกโดยไม่มีมาตรการกำกับดูแลที่เพียงพอ
ด้านปัญญาประดิษฐ์ หลายประเทศเริ่มผสาน AI เข้ากับระบบอาวุธ ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจทางการทหารโดยเครื่องจักรที่อาจขยายความขัดแย้งโดยไร้การควบคุม นอกจากนี้ Deepfake และการใช้ AI ในการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทำให้เกิดการบิดเบือนความจริงในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
สหรัฐฯ จีน และรัสเซียคือสามประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดในการกำหนดชะตากรรมของโลก หากผู้นำของพวกเขายังไม่จริงจังกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โลกอาจเดินไปสู่จุดที่ไม่มีวันหวนกลับได้ การเจรจาลดอาวุธนิวเคลียร์ การเร่งลงทุนในพลังงานสะอาด และการกำกับดูแลเทคโนโลยีชีวภาพและปัญญาประดิษฐ์เป็นมาตรการเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการโดยไม่มีข้อแม้
นาฬิกาวันสิ้นโลกถูกตั้งขึ้นเมื่อปี 1947 เพื่อเตือนภัยเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์และภัยคุกคามที่มนุษย์สร้างขึ้นเอง ในอดีต มีช่วงเวลาที่เข็มนาฬิกาถอยห่างจากเที่ยงคืน แต่ปี 2025 กลับเป็นปีที่โลกเข้าใกล้หายนะมากที่สุด
อ้างอิง: Bulletin of the Atomic Scientists, 2025 Doomsday Clock Statement
ข่าวที่เกี่ยวข้อง