จากรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศล่าสุด จากระบบเช็คฝุ่นของ GISDA วันนี้ (30ม.ค.68) ณ เวลา 09.00 น. พบว่าจังหวัดนครนายกมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สูงที่สุดในประเทศ วัดได้ 114.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามมาด้วยปราจีนบุรีและสมุทรสงคราม ที่วัดได้ 81.8 และ 77.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรตามลำดับ
โดยทั้งสามจังหวัดนี้อยู่ในเกณฑ์สีแดงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่าเขตหนองจอกและเขตมีนบุรีมีค่าฝุ่นสูงที่สุดเท่ากันที่ 79.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาคือเขตคลองสามวาและเขตคันนายาว ที่วัดได้ 76.7 และ 75.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรตามลำดับ โดยทั้งสี่เขตนี้มีค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดง
ทั้งนี้ ยังพบว่าจังหวัดในภาคกลางหลายแห่งมีค่าฝุ่นอยู่ในเกณฑ์สีส้ม ได้แก่ สุโขทัย สมุทรสาคร เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา สระบุรี ราชบุรี และตราด โดยมีค่าฝุ่นอยู่ระหว่าง 65-74 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วนในกรุงเทพมหานคร เขตลาดกระบัง สะพานสูง บึงกุ่ม สายไหม ประเวศ และบางนา ก็มีค่าฝุ่นอยู่ในเกณฑ์สีส้มเช่นกัน
10 จังหวัดที่มีค่าฝุ่นสูงสุด (ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร)
1. นครนายก (114.3) - พื้นที่สีแดง
2. ปราจีนบุรี (81.8) - พื้นที่สีแดง
3. สมุทรสงคราม (77.7) - พื้นที่สีแดง
4. สุโขทัย (73.8) - พื้นที่สีส้ม
5. สมุทรสาคร (72.8) - พื้นที่สีส้ม
6. เพชรบุรี (72.6) - พื้นที่สีส้ม
7. ฉะเชิงเทรา (68.1) - พื้นที่สีส้ม
8. สระบุรี (67.5) - พื้นที่สีส้ม
9. ราชบุรี (66.6) - พื้นที่สีส้ม
10. ตราด (65.1) - พื้นที่สีส้ม
10 เขต กทม.ที่มีค่าฝุ่นสูงสุด (ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร)
1. หนองจอก (79.8) - พื้นที่สีแดง
2. มีนบุรี (79.8) - พื้นที่สีแดง
3. คลองสามวา (76.7) - พื้นที่สีแดง
4. คันนายาว (75.2) - พื้นที่สีแดง
5. ลาดกระบัง (73.3) - พื้นที่สีส้ม
6. สะพานสูง (73.0) - พื้นที่สีส้ม
7. บึงกุ่ม (69.0) - พื้นที่สีส้ม
8. สายไหม (68.4) - พื้นที่สีส้ม
9. ประเวศ (66.7) - พื้นที่สีส้ม
10. บางนา (65.3) - พื้นที่สีส้ม
ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องออกนอกบ้าน และติดตามรายงานคุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง