เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) กำลังก้าวขึ้นมาเป็นแนวทางสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจโลกในปี 2025 โดยหลายประเทศให้ความสำคัญกับนโยบายพลังงานสะอาด เศรษฐกิจหมุนเวียน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านนี้ยังคงเผชิญอุปสรรคด้านเงินทุน นโยบาย และแรงต้านจากอุตสาหกรรมดั้งเดิม
เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ได้รับการผลักดันจากองค์การสหประชาชาติให้เป็นแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเน้นหลักการสำคัญ 3 ประการ ได้แก่...
นับตั้งแต่การลงนามในความตกลงปารีส (Paris Agreement) ในปี 2015 หลายประเทศได้ปรับเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะสหภาพยุโรปที่กำหนดมาตรการเข้มงวดด้านสิ่งแวดล้อม และจีนที่เร่งพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดเพื่อลดการพึ่งพาถ่านหิน
แม้เศรษฐกิจสีเขียวจะได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้น แต่หลายประเทศยังคงเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ซับซ้อน โดยเฉพาะในประเด็นต่อไปนี้
การขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวต้องการเงินทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา ปัจจุบัน "Green Bonds" และ "Sustainable Investment Funds" ได้กลายเป็นแหล่งทุนสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถลงทุนในโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงเงินทุนยังคงเป็นปัญหาสำหรับหลายประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีหนี้สาธารณะสูง ซึ่งต้องการการสนับสนุนจากองค์กรการเงินระหว่างประเทศและภาคเอกชน
ปี 2025 จะเป็นปีที่กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมเข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะในยุโรปที่มี "Corporate Sustainability Reporting Directive (CSRD)" ซึ่งบังคับให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อป้องกัน "Greenwashing" ขณะเดียวกัน หลายประเทศกำลังเร่งพัฒนา "Carbon Pricing" หรือระบบภาษีคาร์บอนเพื่อกระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียวไม่ใช่แค่ประเด็นภายในประเทศ แต่ยังส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ โดยแนวโน้มสำคัญที่อาจเกิดขึ้นในปี 2025 ได้แก่...
1. เศรษฐกิจหมุนเวียนจะเติบโตขึ้น ตลาดเศรษฐกิจหมุนเวียนคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2031 โดยเน้นไปที่การรีไซเคิล ซ่อมแซม และลดขยะ
2. การเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนสีเขียว
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 อาจมีผลต่อทิศทางของนโยบายด้านพลังงานสะอาด หากสหรัฐฯ ลดแรงสนับสนุนต่อข้อตกลงปารีสและพลังงานหมุนเวียน อาจทำให้กระแสการลงทุนสีเขียวชะลอตัว
3. เงินทุนเอกชนจะมีบทบาทมากขึ้น แม้จะมีความท้าทายด้านเงินทุน แต่ "Blended Finance" หรือการผสมผสานเงินทุนจากภาครัฐและเอกชนกำลังเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันโครงการสีเขียว
4. เทคโนโลยีสะอาดจะกลายเป็นธุรกิจหลัก พลังงานแสงอาทิตย์ แบตเตอรี่ และไฮโดรเจนสีเขียวจะเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ผลักดันเศรษฐกิจสีเขียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและจีน
แม้ Green Economy จะเป็นแนวทางที่หลายประเทศให้ความสำคัญ แต่ก็ยังมีคำถามว่าประเทศกำลังพัฒนาจะสามารถปรับตัวได้เร็วพอหรือไม่ หากแนวทางเศรษฐกิจสีเขียวได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสมจากภาครัฐ ธุรกิจ และภาคการเงิน เราอาจได้เห็นโลกที่มีเศรษฐกิจเติบโตไปพร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
เศรษฐกิจสีเขียวมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมหาศาล
การลงทุนและนโยบายที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ธุรกิจและประเทศต่างๆ เปลี่ยนผ่านได้ แต่ความท้าทายด้านเงินทุน นโยบาย และการปรับตัวของตลาดแรงงานยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ
Green Economy หรือ เศรษฐกิจสีเขียว จะเป็นจุดเปลี่ยนของเศรษฐกิจโลกหรือไม่? ปี 2025 จะเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับแนวทางนี้
อ้างอิง: earth.org, wef, economist impact, imd
ข่าวที่เกี่ยวข้อง