จากกรณี ดราม่า มวยไทย Vs กุนขเเมร์ ใครกันแน่เป็นต้นตำรับ หลังจากเจ้าภาพซีเกมส์ 2023 อย่างกัมพูชา ใช้สิทธิ์การเป็นเจ้าภาพ นำกุนขเเมร์ บรรจุในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 แทนที่มวยไทย โดยอ้างว่า กุนขเเมร์ เป็นเจ้าของวัฒนธรรมของศิลปะการป้องกันตัว และเป็นต้นกำเนิดของกีฬามวยไทย
นำมาสู่การสวนกลับอย่างทันควัน โดยสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ นายจรัญ ลิ้มวัฒนะ เลขาธิการ สมาคมฯ เปิดเผยว่า ไทยจะไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันในกีฬาดังกล่าว เช่นเดียวกับ การแถลงข่าวโดยคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะมนตรีซีเกมส์ ว่า จะไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกุนขแมร์ในซีเกมส์ครั้งนี้ เนื่องจาก เป็นกีฬาที่ไม่มีการการรับรอง ทั้งจาก คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) หรือสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) และองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาด้า)
ล่าสุด บัวขาว บัญชาเมฆ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ทวงค่าตัวจำนวน 2,200,000 บาท จากผู้จัดการแข่งขัน รายการ Worldfight tournament ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 โดยในการแข่งขันดังกล่าว บัวขาว ได้ชนะคะแนน ดิมิทรี วารัตส์ นักชกจากเบลารุส
พร้อมระบุด้วยว่า ตนเองไม่มีปัญหากับกุนแขมร์ แต่อยากขอความอนุเคราะห์ ให้ผู้ใหญ่วงการมวยติดตามค่าตัวของตนให้ด้วย พร้อมยืนยันอีกครั้งว่า ตนเองเป็นคนไทยแท้ เชื้อสายกูย ไม่ใช่คนกัมพูชาแต่อย่างใด และไม่เคยอับอายเรื่องชาติพันธุ์ พร้อมทิ้งท้ายด้วยว่า ช่วยแปลเป็นภาษากัมพูชาให้คนกัมพูชาเข้าใจด้วย
โดยก่อนหน้า นาย ไต๋ศรี จันทน รองประธานกิตติมศักดิ์สหพันธ์มวยกัมพูชา ประกาศให้รางวัลกับนักชกเขมร ที่สามารถเอาชนะ บัวขาว บัญชาเมฆ ได้ จะให้บ้านพัก รถ และ เงิน 10 ปี พร้อมระบุว่า ให้เป็นนี่กําลังใจแก่นักชกเขมรสู้เพื่อแผ่นดินเกิดของเรา