อสังหาฯ มหาชน ปี 67 ต่างหดตัว! แสนสิริทำรายได้สูงสุด ศุภาลัยโกยกำไรแชมป์

04 มี.ค. 2568 | 15:25 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มี.ค. 2568 | 15:28 น.

บริษัทอสังหาฯ มหาชน ปี 67 เผชิญแรงกดดัน รายได้-กำไรลดลงหลายราย แสนสิริกวาดรายได้สูงสุด 3.9 หมื่นล้าน ขณะที่ศุภาลัยครองแชมป์กำไร 6.1 พันล้าน โตสวนกระแส

ผลประกอบการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ปี 2567 สะท้อนภาวะตลาดที่ชะลอตัว โดยหลายรายมีรายได้และกำไรลดลงจากปีก่อนหน้า ท่ามกลางปัจจัยลบรอบด้าน ทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา อัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่ยังสูง และกำลังซื้อที่ลดลง ส่งผลให้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั้งปีลดลง 6.3% จากปี 2566 ตามข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์

สุรเชษฐ กองชีพ

นายสุรเชษฐ กองชีพ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย ชี้ว่า รายได้ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ลดลงกว่า 15% เมื่อเทียบกับปี 2566 สะท้อนภาวะตลาดที่ยังเปราะบาง อย่างไรก็ตาม บางรายสามารถรักษารายได้ใกล้เคียงปีก่อนหน้า หรือแม้แต่เติบโตสวนกระแส แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเข้าถึงกำลังซื้อที่ยังมีอยู่ในตลาด

สำหรับบริษัทที่ทำรายได้สูงสุด 5 อันดับแรกในปี 2567 ได้แก่ แสนสิริ ซึ่งครองแชมป์รายได้สูงสุดที่ 39,205 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% ตามมาด้วยเอพี ไทยแลนด์ อยู่ที่ 37,460 ล้านบาท และศุภาลัยที่ 31,985 ล้านบาท ขณะที่แลนด์แอนด์เฮ้าส์และพฤกษา ทำรายได้ 28,151 ล้านบาท และ 20,996 ล้านบาท ตามลำดับ

อสังหาฯ มหาชน ปี 67 ต่างหดตัว! แสนสิริทำรายได้สูงสุด ศุภาลัยโกยกำไรแชมป์

สำหรับด้านกำไรสุทธิ ศุภาลัยเป็นรายเดียวในกลุ่มท็อป 5 ที่มีกำไรเติบโตขึ้น 3.3% แตะ 6,190 ล้านบาท ตามมาด้วยแลนด์แอนด์เฮ้าส์ที่แม้กำไรลดลง 26.6% แต่คงยังแตะ 5,491 ล้านบาทมาเป็นอันดับสอง ขณะที่แสนสิริและเอพี ทำกำไรที่ 5,253 ล้านบาทและ 5,020 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งลดลงจากปีก่อน 13.3% และ 17.1% ตามลำดับ ส่วนพฤกษา เป็นบริษัทได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยกำไรหดตัว 79.3% เหลือ 4,561 ล้านบาท

สำหรับปี 2568 ผู้ประกอบการรายใหญ่เตรียมรุกตลาดด้วยแผนเปิดโครงการใหม่มากกว่าปีที่ผ่านมา เอพี (ไทยแลนด์) วางแผนเปิดตัว 42 โครงการ มูลค่ารวม 65,000 ล้านบาท ส่วนแสนสิริแม้จะเปิดขายเพียง 29 โครงการ แต่เน้นตลาดลักชัวรี ทำให้มูลค่าโครงการเฉลี่ยสูงกว่าคู่แข่งที่ 52,000 ล้านบาท ศุภาลัยตั้งเป้าเปิด 36 โครงการ มูลค่ารวม 46,000 ล้านบาท

อสังหาฯ มหาชน ปี 67 ต่างหดตัว! แสนสิริทำรายได้สูงสุด ศุภาลัยโกยกำไรแชมป์

แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 2% แต่ตลาดที่อยู่อาศัยยังคงเผชิญแรงกดดันจากมาตรการสินเชื่อที่เข้มงวด ซึ่งผู้ประกอบการยังคงผลักดันให้มีการผ่อนปรนเกณฑ์ LTV ชั่วคราว เพื่อดึงกำลังซื้อกลับเข้าสู่ตลาด อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้ปี 2568 ยังคงเป็นอีกปีที่ตลาดที่อยู่อาศัยต้องเผชิญความท้าทายในการฟื้นตัวจากภาวะชะลอตัวต่อเนื่อง