พื้นที่ค้าปลีกกรุงเทพฯ ขยายตัว ศูนย์การค้าโตต่อ โครงการใหม่ทะลักปี 68
พื้นที่ค้าปลีกกรุงเทพฯ แตะ 6.69 ล้าน ตร.ม. ปี 2567 ศูนย์การค้าขยายต่อเนื่อง ค่าเช่าขยับ 3.4% จับตาปี 2568 โครงการใหม่ทะลัก 224,000 ตร.ม.
ตลาดพื้นที่ค้าปลีกในกรุงเทพมหานครยังคงขยายตัว แม้จะชะลอไปช่วงปี 2563-2564 แต่กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยนายสุรเชษฐ กองชีพ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ณ สิ้นปี 2567 อุปทานพื้นที่ค้าปลีกสะสมในกรุงเทพฯ มีประมาณ 6.69 ล้านตารางเมตร
โดยมีพื้นที่ใหม่เปิดให้บริการรวม 179,500 ตารางเมตร ศูนย์การค้าเป็นผู้นำตลาดด้วยสัดส่วนสูงถึง 68% หรือ 125,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นปีที่มีการเพิ่มพื้นที่ใหม่เกิน 150,000 ตารางเมตรต่อเนื่องจากปี 2566 อย่างไรก็ตาม ปี 2568 จะเป็นปีที่มีพื้นที่ค้าปลีกเปิดใหม่มากที่สุดในรอบหลายปี รวมกว่า 224,000 ตารางเมตร โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่อย่าง วัน แบงค็อก และดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค
นายสุรเชษฐยังระบุว่า ศูนย์การค้าเป็นรูปแบบพื้นที่ค้าปลีกที่เติบโตต่อเนื่องตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ต่างจากคอมมูนิตี้มอลล์ที่เริ่มลดลงอย่างชัดเจนหลังปี 2560 แม้จะยังมีโครงการใหม่เกิดขึ้น แต่จำนวนลดลงอย่างมาก ส่วนพื้นที่ค้าปลีกประเภทอื่นๆ หลายประเภทไม่มีโครงการใหม่มานานนับ 10 ปีแล้ว
ด้านอุปสงค์และค่าเช่า ณ สิ้นปี 2567 ค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีกปรับขึ้นราว 3.4% เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะที่อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยลดลงประมาณ 1% เนื่องจากมีพื้นที่เปิดใหม่มากขึ้น และบางโครงการยังมีพื้นที่ว่าง ผู้เช่าหลักยังคงเป็นแบรนด์ต่างชาติที่ขยายพื้นที่ต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
สำหรับแนวโน้มปี 2568 ตลาดพื้นที่ค้าปลีกอาจยังไม่เติบโตมากนัก แม้จะมีโครงการขนาดใหญ่เปิดให้บริการ แต่ความต้องการพื้นที่ใหม่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก ผู้เช่าหลักยังเป็นกลุ่มเดิมที่ขยายตัวต่อ ค่าเช่ามีแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากไม่มีปัจจัยสนับสนุนให้ปรับเพิ่มสูงขึ้น
การพัฒนาโครงการใหม่จะมุ่งไปที่มิกซ์-ยูส มากกว่าพื้นที่ค้าปลีกเดี่ยว เพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าหลากหลาย โครงการขนาดเล็กที่ไม่มีการปรับปรุงอาจลดลง ในทางกลับกัน พื้นที่ค้าปลีกในสถานีบริการน้ำมันและตลาดสมัยใหม่กลับได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มร้านอาหารที่ต้องการเข้าถึงลูกค้าโดยตรง แม้จะเป็นกลุ่มเล็ก แต่ตอบโจทย์ความต้องการได้มากกว่า