หากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 20 ปีก่อนในปี 2548 บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้นเพียง 1 ล้านบาท จากนั้นบริษัทได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การนำของ นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) ในปัจจุบัน
จนบริษัทสามารถแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ในปี 2563 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในปี 2564 และเติบโตอย่างต่อเนื่องจนมีโครงการหลากหลายครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงขยายไปยังหัวเมืองใหญ่ เช่น ภูเก็ต ชลบุรี เป็นต้น
“เราค่อยๆ ขยับการเติบโตทีละเล็กน้อยตั้งแต่แรกเริ่ม เราเน้นเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% ซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้เป็นปีแรกที่เราจะตั้งเป้าหมายรายได้แตะหมื่นล้านบาท” นายกรมเชษฐ์ กล่าวถึงการเติบโตของบริษัทตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา
ในปี 2567 ที่ผ่านมา แอสเซทไวส์ตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 19,500 ล้านบาท โดย บริษัทสามารถทำยอดขายรวม 9 เดือน 19,330 ล้านบาท และปัจจุบันสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ยังมี Backlog ที่รอรับรู้รายได้รวมกันกว่า 25,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น Backlog ที่จะรับรู้ในปี 2568 นี้ประมาณ 11,600 ล้านบาท และอีก 13,600 ล้านบาท สำหรับปี 2569-2570
นายณัฐพล ลัคนลาวัณย์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2567 ที่ 8,700 ล้านบาท และใน 9 เดือนที่ผ่านมา สามารถทำรายได้ไปแล้วกว่า 7,800 ล้านบาท จึงมีโอกาสสูงที่จะบรรลุเป้าหมายตามแผน
สำหรับปีนี้จะยังคงตั้งเป้าการเติบโตที่ 20% เช่นเดิม และจะเป็นปีแรกที่รายได้ของบริษัทจะทะลุ 10,500 ล้านบาท โดยในปี 2568 บริษัทยังเผยแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมด 10 โครงการ มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาท
ซึ่งแบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่ารวม 20,500 ล้านบาท ซึ่งจะพัฒนาภายใต้แบรนด์หลักอย่าง KAVE, ATMOZ และ Modiz จะตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูเก็ต เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในหลากหลายกลุ่ม
นางสาวพชร ประพันธ์วัฒนะ กรรมการผู้จัดการอาวุโสกลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในทำเลสำคัญ และยังคงเน้นจุดเด่นความเป็นแคมปัสคอนโดมิเนียม
เช่น Kave Ally ซึ่งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเกริกและราชภัฏ ใกล้รถไฟฟ้า 2 สายคือสีเขียวและสีชมพู คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาส 2 และ Kave Carnival Rangsit ใกล้มหาวิทยาลัยรังสิต โดยจะเน้น facility ที่ตอบโจทย์นักศึกษา คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาส 3 เป็นต้น
“เรามองว่าโครงการคอนโดที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่รังสิตและบริเวณรอบๆ มหาวิทยาลัยสำคัญๆ” นางสาวพชรกล่าว
ในขณะเดียวกัน บริษัทได้ขยายการลงทุนไปยังจังหวัดภูเก็ต โดยได้เข้าซื้อกิจการบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่รู้จักภายใต้แบรนด์ “เดอะ ไทเทิล” ในปีที่ผ่านมา นำโดยนายเกรียงศักดิ์ เหี้ยมโท้ กรรมการผู้จัดการอาวุโสกลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวและเดอะ ไทเทิล โดยในปี 2568 มีแผนเปิดโครงการใหม่ในภูเก็ตถึง 5 โครงการ ครอบคลุมทั้งคอนโดมิเนียม และเป็นครั้งแรกของการพัฒนาวิลล่าหรู ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ตลาดชาวต่างชาติที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายกรมเชษฐ์กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้สภาวะเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ แต่ตลาดที่อยู่อาศัยยังคงมีดีมานด์ โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนและกลุ่มที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการอยู่อาศัยจริง
นอกจากนี้ แอสเซทไวส์ยังมีบริษัทย่อยในเครือเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการต่างๆ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า
Community Mall, ธุรกิจสุขภาพและความงาม, ธุรกิจบันเทิง และธุรกิจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
นายกรมเชษฐ์ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายถึงกลยุทธ์ที่ทำให้บริษัทเติบโตมาเป็นระยะเวลา 20 ปีจนถึงทุกวันนี้ว่า กลยุทธ์ของเราคือการปรับตัวให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์ บริษัทจึงผ่านพ้นจากแต่ละวิกฤตต่างๆมาได้ ไม่ว่าจะเป็นนํ้าท่วมในปี 2554 หรือโควิด-19 ที่ผ่านมา
แอสเซทไวส์ยังเน้นการพัฒนาโครงการ Low Rise ที่สามารถปรับเปลี่ยนและพัฒนาให้เข้าถึงได้ มุ่งเน้นในการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริงและคุ้มค่ากับราคา เพื่อให้สามารถเป็นตัวเลือกแรกสำหรับลูกค้า
อีกทั้งยังปรับตัวตามดีมานด์และซัพพลายในแต่ละทำเล เพื่อให้เข้าถึงตลาดได้อย่างเหมาะสม พร้อมกับการพัฒนาโครงการที่ตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และให้ความสำคัญกับการลงทุนในทำเลที่มีศักยภาพ ซึ่งการเติบโตของบริษัท 20 ปีที่ผ่านมาก็ส่งผลต่อการรับรู้ของผู้บริโภค ให้แบรนด์แอสเซทไวส์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพและกลยุทธ์ดังกล่าว แอสเซทไวส์ยังคงเดินหน้าสู่หมุดหมายใหม่ของการเติบโตเป็นบริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศราฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 4,070 วันที่ 13 - 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568