แม้ปี 2567 ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเผชิญกับความท้าทายจากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัว ส่งผลให้ยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ยังไม่กระเตื้องขึ้น แต่ปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในเดือนเมษายน และการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในเดือนตุลาคม ได้ช่วยสร้างความหวังให้ตลาดที่อยู่อาศัยมีโอกาสฟื้นตัวในระยะยาว
จากข้อมูลของ DDproperty แพลตฟอร์มอสังหาฯ ที่ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 62% ของไทย ระบุว่าว่า “กรุงเทพฯ” ยังคงเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของผู้ค้นหาที่อยู่อาศัยทั่วประเทศในปี 2567 ขณะที่ "เชียงใหม่" ขยับขึ้นเป็นอันดับ 2 จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ตามมาด้วย "นนทบุรี," "ภูเก็ต," และ "ชลบุรี" ในอันดับ 3-5 ตามลำดับ
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันความนิยมในทำเลที่อยู่อาศัย โดย BTS อ่อนนุช ยังคงเป็นทำเลรถไฟฟ้ายอดนิยมอันดับ 1 ด้วยศักยภาพทั้งด้านการเดินทางสะดวกสบาย ราคาที่อยู่อาศัยที่ยังจับต้องได้ และความครบครันของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
และทำเลอื่นๆ ที่ติดอันดับรถไฟฟ้ายอดนิยม ได้แก่
จากการสำรวจพบว่า 7 ใน 10 ทำเลรถไฟฟ้ายอดฮิตอยู่ในเส้นทาง BTS สายสีเขียว ซึ่งมีปริมาณผู้ใช้บริการสูงสุดในปี 2567 สะท้อนถึงศักยภาพและโอกาสการเติบโตในเชิงธุรกิจ
เขตวัฒนา ยังคงครองตำแหน่งทำเลทองอันดับ 1 ของกรุงเทพฯ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้งสำหรับการซื้อและเช่า ด้วยปัจจัยสนับสนุนด้านการเดินทาง ระบบสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
และยังมีทำเลอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ซื้อ ได้แก่ เขตจตุจักร, ห้วยขวาง, คลองเตย และประเวศ ในขณะที่เขตคลองเตย, ห้วยขวาง และราชเทวี ติดอันดับต้นๆ สำหรับการเช่า
อีกหนึ่งเทรนด์ที่เติบโตต่อเนื่องคือการพัฒนา แคมปัสคอนโด (Campus Condo) ใกล้สถานศึกษา โดยเฉพาะย่านจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มนักศึกษาและผู้ปกครองที่มองหาที่อยู่อาศัยใกล้แหล่งเรียนรู้ ทำเลนี้ยังตอบโจทย์การลงทุนระยะยาว ด้วยการปล่อยเช่าที่สม่ำเสมอและมูลค่าอสังหาฯ ที่เพิ่มขึ้น
แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 จะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ทำเลศักยภาพอย่างกรุงเทพฯ และแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว รวมถึงเขตเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ยังคงสร้างความคึกคักให้ตลาด ที่น่าจับตามองต่อไปคือการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบรับเทรนด์ความต้องการที่หลากหลายทั้งในปัจจุบันและอนาคต