มหากาพย์ที่ดินอัลไพน์ ส่อเค้าปิดฉากลง หลังจาก นายชํานาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนาม(วันที่16 มกราคม 2568) เพิกถอนกรรมสิทธิ์ ที่ดินอัลไพน์ 924ไร่ซึ่งตั้งอยู่อำเภอคลองหลวงจังหวัดปทุมธานี (คลอง5) ซึ่งมีส่วนพัฒนาเป็นที่ดินบ้านจัดสรรและตัวสนามกอล์ฟ
กลับคืนให้แก่ วัดธรรมิการามวรวิหาร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และส่งมอบให้กับกรมที่ดินดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป พร้อมทั้งประเมินค่าเสียโอกาส 7,700 ล้านบาทที่คาดว่าจะต้องชดเชยค่าเสียโอกาส ซึ่งก่อนหน้านี้กรมที่ดินเคยประเมินค่าเสียหาย
ล่าสุด แหล่งข่าวจากกรรมการนิติบุคลหมู่บ้านราชธานี ( หมู่บ้านอัลไพน์เดิม )ให้สัมภาษณ์”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม กรมที่ดินออกหนังสือถึงลูกบ้านอัลไพน์ จำนวน 312แปลง ให้นำหลักฐานที่เป็นโฉนดที่ดินคืนกรมที่ดิน
โดยให้เหตุผลว่า โฉนดดังกล่าวถูกเพิกถอนเป็นที่ธรณีสงฆ์ไม่สามารถใช้ทำนิติกรรมใดๆตามกฎหมายได้ นอกจากนี้กรมที่ดินยังมีหนังสือแจ้งไปยังสถาบันการเงิน ฐานะเจ้าหนี้ เพื่อ ให้ทราบ และหยุดการผ่อนชำระโดยทั้งลูกบ้านและสถาบันการเงินจะได้รับการชดเชย จากรัฐอย่างเป็นธรรม ภายหลังจากลูกบ้าน หมู่บ้านราชธานีเดินทางไปยังกรมที่ดิน และทราบข่าวดีดังกล่าวกลับมา ในการนี้ นิติบุคลหมู่บ้าน ได้ตั้งคณะทำงาน เพื่อดำเนินการเยียวยา และมีความต้องการ หานักกฎหมายหรือทนายความ เพื่อ เป็นธุระแนะนำ ประเมินค่าเสียโอกาส บ้าน-ที่ดิน ทั้งระบบต่อไป
“คำสั่งให้เพิกถอนกรรมสิทธิ์และทำหนังสือแจกจ่ายโดยแจ้งให้ลูกบ้าน แต่ละราย ทราบว่า ให้นำหลักฐานโฉนดที่ดินคืนกรมที่ดิน เพราะใช้ประโยชน์ไม่ได้ตามกฎหมาย”
ขณะลูกบ้านต้องยอมรับว่าค่อยข้างพอใจ เพราะได้รับความชัดเจนจากทางราชการ รวมถึงค่าชดเชย หรือค่าเสียโอกาสที่จะได้รับ แต่ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับค่าชดเชย ต้องเป็นผู้ซื้อมาโดยสุจริต เท่านั้น
สำหรับ การชดเชย ข้อมูล ณ วันที่ 2 กันยายน 2567 พบว่า มูลค่าตามราคาตลาด โดยการประมาณ และทุนทรัพย์จำนองอยู่ที่ 7,700 ล้านบาท แบ่งเป็นทรัพย์ตามมูลค่าตลาดประมาณ 7,228 ล้านบาท และทุนทรัพย์จำนอง 439.05 ล้านบาท ปัจจุบัน เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินอัลไพน์ มีจำนวน 533 ราย และผู้รับจำนองอีก 30 ราย ขณะที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซื้อที่ดินมาปี 2540 ในราคาประมาณ 500 ล้านบาท ต่อจาก นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ และ นางอุไรวรรณ เทียนทอง ภรรยา นายเสนาะ เทียนทอง ขณะนั้นที่ซื้อมา 130 ล้านบาท จากวัดธรรมิการามวรวิหาร อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2512
ย้อนไปก่อนหน้านี้ ที่ดินหมู่บ้านราชธานี ไม่สามารถทำนิติกรรมใดๆได้ โดยกรมที่ดินสลักหลังโฉนดที่ดิน ห้ามจำหน่ายจ่ายโอน และระบุไม่ฟ้องร้องกรมที่ดิน หากเปลี่ยนแปลงนิติกรรมเป็นที่ ธรณีสงฆ์ สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ หมู่บ้านอัลไพน์ มีที่ดิน จำนวน312แปลง ขายพร้อมปลูกสร้างเป็นบ้านจัดสรรแล้วกว่า100แปลง ตั้งอยู่บริเวณ ถนนเลียบคลอง5 ( ถนนแยกมาจากรังสิต องครักษ์ คั่นกลาง โดยมีสนามกอล์ฟอัลไพน์ตั้งอยู่ ตรงข้าม
ก่อน หน้านี้ หมู่บ้านอัลไพน์ ดำเนินโดย บริษัทอัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่งบริษัทดังกล่าว ซื้อที่ดินต่อมาจากวัดธรรมิการามวรวิหาร หรือ วัดเขาช่องกระจก จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ จ.คีรีขันธ์ เป็นรายแรก ต่อมา นายแพทย์บุญ วนาสิน เจ้าของ บริษัท บ้านราชธานี จำกัด ซื้อต่อ หลังจาก ที่ลูกบ้านเข้าอยู่ (ปี2542) 10ปี และเปลี่ยนชื่อจาก หมู่บ้านอัลไพน์เป็น หมู่บ้านราชธานี
อธิบดีกรมที่ดินคนก่อน สั่งเพิกถอนครั้งแรก สมัยนาย ถาวร เสนเนียม เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (พรรคประชาธิปัตย์) สมัยนั้น เมื่อพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งยกเลิกคำสั่งเพิกถอน ของอธิบดีกรมที่ดินในครั้งนั้น
ทำให้ที่ดินอัลไพล์ กลับมาซื้อ-ขายได้ โดย ตระกูลชินวัตร ซื้อ ฝั่งสนามกอล์ฟ บริษัท อัลไพน์เรียลเอสเตท โดยมี นายเสนาะ เทียนทอง เป็นผู้ขาย
ในเวลาต่อมา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารบ้านเมือง โดยมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานคสช. ออกคำสั่งเพิกถอน และดำเนินคดี3ศาลจนถึงศาลฎีกา และสั่งเพิกถอนเป็นที่ธรณีสงฆ์ในปี 2562และล่าสุดวันที่16 มกราคม รองปลัดกระทรวงมหาดไทยลงนามถอนที่ดินอัลไพน์ กลับคืนเป็นที่ธรณีสงฆ์ ในปัจจุบัน
ลูกบ้านได้รับความชัดเจนแล้วและหลังจากนี้จะเช่าที่ดินต่อจากวัด ธรรมิการาม ในราคาตารางวาละ10บาทต่อปีดีกว่าต้องออกจากพื้นที่ เพราะไม่ทราบแน่ชัดจะไปอยู่ที่ไหน ขณะทางวัดยินดีให้ลูกบ้านอยู่ในพื้นที่ต่อ ส่วนค่าชดเชยทั้งตัวบ้าน ต้นไม้ ส่วนการต่อเติม และที่ดิน ต้องรอการชดเชยต่อไป ส่วนสนามกอล์ฟอัลไพน์ หากเช่าวัดในราคาถูกและดำเนินธุรกิจต่อไปมองว่าคุ้มค่า