เมื่อเอ่ยถึงชื่อ “เมเจอร์” อาจจะเป็นที่รู้จักของผู้คนส่วนใหญ่ในฐานะเครือโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ ที่ครองใจผู้ชมทั่วประเทศ แต่ในอีกด้านหนึ่ง บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่โดดเด่นในตลาดไทย ด้วยการพัฒนาโครงการระดับลักชัวรีที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าผู้มีกำลังซื้อสูง เป็นรายแรกที่รู้จักในฐานะคอนโดมิเนียมสำหรับ Pet Family และยังเตรียมพร้อมที่จะขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ๆที่จะเข้ามารองรับเทรนด์ความต้องการด้านสุขภาพในอนาคต
ภายใต้การนำของ “นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ทายาทรุ่นที่สองของตระกูลพูลวรลักษณ์ ที่พลิกเส้นทางจากโรงหนังสู่การสร้างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเธอเต็มไปด้วยบทเรียน ความท้าทาย และเป้าหมาย พร้อมกับสร้างรากฐานใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์จนกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศในปัจจุบัน
นางสาวเพชรลดา ได้ให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังจากเรียนจบ ก็ได้เริ่มต้นจากการช่วยคุณพ่อดูแลธุรกิจโรงหนังประมาณ 4-5 ปีแต่ด้วยความที่อยากเริ่มสร้างสิ่งใหม่เป็นตัวเอง จึงเริ่มมองหาธุรกิจที่มีศักยภาพเพื่อทำร่วมกับน้องชาย และสุดท้ายอสังหาริมทรัพย์ก็กลายเป็นคำตอบ เนื่องจากเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ของของผู้บริโภคเมื่อตอนที่ริเริ่มมีความตั้งใจที่จะเป็นส่วนซัพพอร์ต แต่เมื่อผ่านสถานการณ์ต่างๆ มาหลายยุค ก็ได้เริ่มมาอยู่แถวหน้าจนกระทั่งปัจจุบันเป็น CEO ของ เมเจอร์ ดีเวลอปเม้นท์
“เก่งต้องมาพร้อมกับเฮง ก่อนเริ่มทําคอนโดมิเนียมเคยทําทาวน์โฮมขนาดเล็ก คือโครงการ การ์เด้นวิลล์ คลัสเตอร์ โฮม ปรากฎ ว่าได้รับผลตอบรับดี และขายดีมาก”
หลังจากเริ่มพัฒนาโครงการทาวน์โฮมในชื่อ “การ์เด้นวิลล์ คลัสเตอร์ โฮม” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง จึงเริ่มคิดถึงการต่อยอดอสังหาฯ ในโครงการต่อไป บริษัทจึงเริ่มขยายเข้าสู่ตลาดคอนโดมิเนียม โดยตั้งเป้าหมายในกลุ่มไฮเอนด์ ด้วยแนวคิดที่แตกต่าง เน้นสร้างจุดขายเฉพาะตัวที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ส่วนตัวเป็นคนรักสัตว์ทุกชนิด และนั่นจึงทำให้เมเจอร์เป็นผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแห่งแรกในประเทศไทยที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้
โครงการแรกของบริษัท “แฮมป์ตัน ทองหล่อ 10” สร้างมาตรฐานใหม่ในวงการ ด้วยการออกแบบที่รองรับการเลี้ยงสัตว์อย่างเหมาะสม สะท้อนถึงความรักที่ต่อสัตว์ และความตั้งใจที่มองว่าสัตว์เลี้ยงไม่ใช่เพียงส่วนหนึ่งของชีวิต แต่เป็นส่วนสำคัญของไลฟ์สไตล์ ปัจจุบันทุกโครงการของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ได้กลายเป็นพื้นที่ที่เอื้ออำนวยสำหรับเหล่า Pet Family
นางสาวเพชรลดา กล่าวถึงกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจว่า ในแต่ละปีองค์กรจะมีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ไปตามสถานการณ์ อย่างเช่นในช่วงโควิดก็จะมีการชะลอและมีความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะผ่านมากี่สถานการณ์ กลยุทธ์หลักที่ยังคงยึดมั่นเสมอคือ การเป็น Last Man Standing ที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะยังคงอยู่รอดได้
ซึ่งวิธีการที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นมี 3 กลยุทธ์ด้วยกัน ได้แก่
“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เริ่มต้นธุรกิจในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ทำให้การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างเข้มข้น จึงอยู่มาถึงทุกวันนี้ได้”
นางสาวเพชรลดากล่าว พร้อมเสริมว่าปี 2568 จะเป็นปีแห่งความท้าทายที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และถ้าหากพูดถึงกลยุทธ์หลักในปีหน้า จะมุ่งเน้นในสองด้านสำคัญ คือการเติบโต (Growth) และการรักษาเสถียรภาพ (Stability) เนื่องจากปัจจัยที่ไม่แน่นอนในโลกปัจจุบัน ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และเหตุการณ์ระดับโลก เช่น สงคราม เราจึงต้องสร้างสมดุลระหว่างการขยายตัวและความมั่นคงเพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน
การดำเนินงานของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ สะท้อนถึงความพยายามในการสร้างความแตกต่างในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการแข่งขันสูง ด้วยการจับกลุ่มตลาดเฉพาะและเน้นการพัฒนาที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ กลยุทธ์ที่บริษัทเลือกใช้นั้นชี้ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างแบรนด์ที่มีความชัดเจน
พร้อมทั้งปรับตัวตามความเปลี่ยนแปลงของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค การเดินหน้าครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งมั่นสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 4,052 วันที่ 12 - 14 ธันวาคม พ.ศ. 2567