"เจ๊เกียว" พลิกเกม ลุยธุรกิจเช่าที่ดิน -ต่อตัวถังรถ ขายทิ้ง “เชิดชัยทัวร์”

09 พ.ค. 2565 | 19:02 น.
อัปเดตล่าสุด :10 พ.ค. 2565 | 02:10 น.
631

เจ๊เกียว พลิกเกม ลุยธุรกิจเช่าที่ดิน -ต่อตัวถังรถ หลังประกาศขายกิจการ “เชิดชัยทัวร์”ได้คลุกคลีกับกิจการเดินรถเชิดชัย มา65ปี  จนต้องปิดฉากลง

 

“ เจ๊เกียว “หรือนางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถร่วมโดยสาร บขส.เจ้าของอู่เชิดชัย และบริษัทเดินรถเชิดชัยทัวร์ได้คลุกคลีกับกิจการเดินรถเชิดชัย มา65ปี  แม้จะเสียดายธุรกิจที่ปลุกปั้นมากับมือ จนเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

 

เนื่องจากช่วงสถานการณ์โควิดและพฤติกรรมผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางเปลี่ยน มักเลือกเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวและสายการบินต้นทุนต่ำ   นั่นหมายความว่า เมื่อผู้ใช้บริการลดลง แต่กลับมีต้นทุนที่เพิ่มทั้งการปรับโฉมรถใหม่ๆ เพื่อการแข่งขัน การปรับเพิ่มของราคาพลังงาน

 

 ประเมินว่าหาก เปิดให้บริการเดินรถต่อไป คงต้องแบกต้นทุนที่มากขึ้นหลังจากที่ผ่านมา บริษัทประสบปัญหาขาดทุน มาโดยตลอด ตั้งแต่ปี2562

 

สอดรับกับ การที่ได้ปรึกษาลูกๆ ทั้ง4 คน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ควร เปิดให้บริการเดินรถต่อ ประกอบกับ อายุเข้าสู่ 85ปีแล้ว ดังนั้นธุรกิจที่ทำมากับมือในตั้งแต่วัยสาว ที่สร้างขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงจากการสะสมทองคำที่ดิน มาก่อร่างสร้างธุรกิจ มีอันต้องมีอันปิดฉากลง

 

 

จากคนชื่นชอบการสะสม ทองคำและที่ดินในราคาหลักสิบหลักร้อยบาทต่อตารางวา  จึงส่งผลดี มี ที่ดินในมือกว่า 1000ไร่ เกิดความงอกงามราคาที่ดินปรับสูง เจ๊เกียวเล่าว่าได้ตัดขายออกไปบ้างและที่เหลทอให้เช่าทำธุรกิจซึ่งธุรกิจที่เหลือนับจากนี้จะมีธุรกิจให้เช่าที่ดินและอู่ต่อรถ ที่มีความชำนาญเท่านั้น

เจ๊เกียว อธิบายว่า สำหรับ บริษัทเชิดชัยทัวร์ เดิมมีรถอยู่กว่า 200 คัน ปัจจุบันเหลือรถวิ่งอยู่แค่ 20-30% เท่านั้น อีกประมาณ 70% ต้องหยุดวิ่ง จอดรถทิ้งไว้ที่อู่มานานกว่า 2 ปีแล้ว เพราะประสบกับปัญหาขาดทุน เนื่องจากไม่มีผู้โดยสาร และค่าน้ำมันที่แพง วิ่งรถไม่คุ้มกับค่าโดยสาร

 

 

อย่างไรก็ตาม ในฐานะนายกสมาคมฯ วันที่ 12 พฤษภาคม จะยื่นหนังสือต่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ขอขึ้นค่าโดยสารรถประจำทางอีก 1 สตางค์ต่อกิโลเมตร จากปัจจุบันคิดค่าโดยสารในราคาน้ำมัน 27 บาทต่อลิตร

 

นอกจากนี้จะขอให้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถร่วม โดยลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าประกันภัย และค่า พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถเพื่อบรรเทาภาระในช่วงรายได้ลดลง

 

ส่วนแนวทางการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล ที่เดิมจะปรับขึ้นอีก 1 บาท / ลิตร ในวันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติคงราคาดีเซลไว้ไม่เกิน 32 บาทต่อลิตร ต่อไปอีก 1 สัปดาห์ หรือ 7 วัน คงราคาถึงวันที่ 15 พฤษภาคม จากนั้นจะพิจารณาสถานการณ์อีกครั้ง

 

โดยคาดว่าสาเหตุที่ กบน.จำเป็นต้องตรึงราคาและใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าอุดหนุนเพิ่มขึ้นเพื่อลดผลกระทบประชาชนเพราะต้นทุนดีเซลที่ปรับขึ้นทำให้ผู้ประกอบการใช้เป็นเหตุผลในการปรับราคาสินค้าต่างๆ กระทบค่าครองชีพประชาชนอย่างมาก