จับทิศค่าเงินบาท-ดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้า11-15เม.ย.65

10 เม.ย. 2565 | 09:40 น.
อัปเดตล่าสุด :10 เม.ย. 2565 | 16:49 น.

จับตา ! สถานการณ์โควิด-19 ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศสัปดาห์ถัดไป (11-15 เม.ย.)

ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.30-34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯสัปดาห์ถัดไป (11-15 เม.ย.) บล,กสิกรไทย มอง ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,675 และ 1,660 จุด

 

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (11-15 เม.ย.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.30-34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย

 

และทิศทางเงินทุนต่างชาติ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. (เบื้องต้น) และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนและข้อมูลการส่งออกเดือนมี.ค.ของจีนด้วยเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม  เมื่อวันศุกร์ที่ 8 เม.ย. 2565   เงินบาทปิดตลาดที่ 33.59 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 33.46 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (1 เม.ย.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 4-8 เม.ย. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยรวม 1,860.51 ล้านบาท และมีสถานะเป็น NET INFLOW ในตลาดพันธบัตร  8,344 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 8,345 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 1 ล้านบาท)

 

จับทิศค่าเงินบาท-ดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้า11-15เม.ย.65

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด(บล.)มองว่า สัปดาห์ถัดไป (11-15 เม.ย.) ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,675 และ 1,660 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,700 และ 1,710 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่

สถานการณ์โควิด-19 ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม ECB ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมี.ค. ของญี่ปุ่น รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมี.ค. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต

จับทิศค่าเงินบาท-ดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้า11-15เม.ย.65

ที่ผ่านมาเมื่อวันศุกร์ (8 เม.ย.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,686.00 จุด ลดลง 0.90% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 75,586.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.56% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 2.19% มาปิดที่ 657.42 จุด