วันนี้ (5 มี.ค .68) ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น บุรีรัมย์” ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมลงบันทึกประจำวัน ขอให้ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่มหนึ่ง ที่อาจเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย โดยใช้เวทีของสภาผิดวัตถุประสงค์มาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทนายอั๋น กล่าวว่า สว.มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในฐานะตัวแทนประชาชน แต่กลับพบว่า มีการใช้เวทีอภิปรายเพื่อ “ฟอกขาว” ตัวเอง และอาจมีการแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้อาจเข้าข่ายความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นอกจากนี้ ทนายอั๋น ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่ม สว. ลงชื่อสนับสนุนให้มีการดำเนินคดีทางกฎหมายกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยตั้งข้อสังเกตว่า สว. กลุ่มนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1.กลุ่มที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 2.กลุ่มที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน
“สามารถเห็นได้ชัดเจนในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินงาน สภา ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเบี้ยเลี้ยง ควรถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่กลับถูกใช้ไปกับการเปิดแอร์เย็น ๆ เพื่อให้พวกเขามานั่งซักฟอกตัวเอง เหมือนเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมที่ควรถูกตรวจสอบ”
นอกจากนี้ ทนายอั๋นยั งตั้งคำถามถึง สว. ที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับกรณี “โพยหลุด” กว่า 1,000 รายชื่อว่า ทำไมจึงไม่ออกมาชี้แจงความบริสุทธิ์ของตนเอง แต่กลับพยายามหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การเข้าสู่ตำแหน่ง สว. ของบุคคลเหล่านี้ อาจมีการ “ฮั้ว” กันมาตั้งแต่ระดับอำเภอ เพื่อปูทางให้พวกพ้องของตนเองได้เข้าสู่สภา
“นี่คือสิ่งที่พวกคุณต้องแก้ต่าง ไม่ใช่การข่มขู่ หรือบังคับเพื่อหลีกเลี่ยงกระบวนการตรวจสอบ หากพฤติกรรมเช่นนี้ยังดำเนินต่อไป สว.ชุดนี้ ควรถึงเวลาแล้วที่จะต้องกลับบ้านไปเลี้ยงหลาน”
ทั้งนี้ ยังมี สว.รายหนึ่ง ที่มีบทบาทในการออกกฎระเบียบเพิ่มเติม เช่น การห้ามหาเสียง ห้ามประชาสัมพันธ์ และ การออกระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อรองรับการเลือกตั้ง สว. โดยระบุว่า พฤติกรรมดังกล่าวอาจเข้าข่าย “อั้งยี่ซ่องโจร” ซึ่งเป็นกระบวนการวางแผนเพื่อรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มตนเอง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบ และหากพบว่า มีการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย โดยเฉพาะมาตรา 157 อาจนำไปสู่การดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป