“สมคิด”โชว์กึ๋นพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ เหน็บปชป.ไม่ใช่เอาแต่ประกันราคา

15 ก.ย. 2565 | 18:29 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.ย. 2565 | 01:37 น.
666

"สมคิด"ร่ายยาวแสดงวิสัยทัศน์พัฒนาจังหวัดแถบอันดามัน เรียกร้องคนรุ่นใหม่กรอกใบสมัครเข้า“พรรคสร้างอนาคตไทย” ร่วมพัฒนาภาคใต้ เหน็บ ปชป. ไม่ใช่เอาแต่ประกันราคา หมูๆ ใครก็ทำได้

วันนี้(15 ก.ย.65)  ที่โรงแรมรามาดา พลาซ่า เจ้าฟ้า จ.ภูเก็ต พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) จัดสัมมนา “อันดามันรอด ประเทศไทยรุ่ง” นำโดย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และผู้บริหารพรรค โดยมีตัวแทนภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่จังหวัดอันดามัน เข้าร่วมฟังประมาณ 450 คน


นายอุตตม กล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคสร้างอนาคตไทยให้ความสำคัญกับพื้นที่ภาคใต้ จริงๆ แล้วให้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ แต่วันนี้ในสภาพการณ์ภาคใต้ถือเป็นพื้นที่หลักทางเศรษฐกิจที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศได้ เพราะเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ซึ่งรายได้ของภาคใต้ครึ่งต่อครึ่งเป็นภาคท่องเที่ยวกับภาคเกษตร 

ทั้งนี้ ตั้งแต่พรรคสร้างอนาคตไทยถือกำเนิดเมื่อต้นปี มีทั้งฝ่ายการเมือง ครูบาอาจารย์ ผู้บริหาร เราเห็นว่าบ้านเมืองเหนื่อย เราอาสามาทำงานให้ประชาชน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาปากท้อง เรื่องที่กำลังสร้างความเดือดร้อนให้คนไทย เราเดินหน้าทำงานลงพื้นที่กันตลอด จนกระทั่งถึงวันนี้พวกเราได้ยกระดับการทำงานของเราให้เข้มข้นขึ้น 

 

โดยการจัดวงเสวนาลักษณะนี้ และเลือกจัดที่พื้นที่อันดามัน เป็นแห่งแรก เราจะเดินสายทั่วประเทศเพื่อจัดเสวนาเช่นนี้ เพื่อรับฟังความเห็นที่หลากหลายได้ แลกเปลี่ยนความเห็น เพื่อเอาไปคิดต่อและตกผนึก เพื่อทำนโยบายให้ชัดเจน ตอบโจทย์คนพื้นที่

นายอุตตม กล่าวว่า วัตถุประสงค์เรายังมาขอโอกาส มาพบกับประชาชน ไม่ได้มาวันนี้แล้วจะหายไปเลย แต่จะเจอกันจนเบื่อหน้าในอนาคต เพราะเราจะมาอีก จะมาอาสาทำงานกับท่านอย่างใกล้ชิด 


วันนี้เป็นจุดสำคัญที่มาแชร์ความคิด ได้ยินสิ่งที่พวกท่านได้สะท้อนมา ตนขอพูดในนามพรรคว่า เราเห็นตรงกัน สิ่งที่พวกท่านสะท้อนมาเราเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ ขอสนับสนุนและขอตอบรับ พรรคจะรณรงค์ให้เป็นส่วนหนึ่งนโยบายของพรรค 

                            “สมคิด”โชว์กึ๋นพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ เหน็บปชป.ไม่ใช่เอาแต่ประกันราคา
อย่างไรก็ตาม เรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ วันนี้เป็นเวลาไม่ปกติ เป็นเวลาวิกฤต ถ้าใช้ความคิดเดิมๆ มาตรการเดิมๆ มันจะแก้ได้หรือไม่ ถ้าแก้ได้คงไม่ต้องมาคุยกันแบบนี้ เวลาวิกฤตต้องใช้มาตรการที่เหมาะสม ที่ไม่ใช่ธรรมดาเอามาแก้

 

ต่อมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า เกือบ 15 ปีแล้ว ที่เราวนอยู่ในอ่าง ทะเลาะเบาะแว้งกัน แบ่งค่าย แบ่งฝักแบ่งฝ่าย วันที่มีการเริ่มต้นของการแบ่งฝ่ายเราไม่ว่ากัน เหตุการณ์ขณะนั้นอาจเป็นอย่างนั้น แต่มันลากยาวจนเกินไปแล้ว ยาวจนกระทั่งประเทศชักจะไปไม่ไหว คนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาอีกเยอะ แล้วเราจะมาวนอยู่ในอ่างทำไม ไม่มีประโยชน์อะไรเลย 


ประเทศไทยเรามีทุกอย่างพร้อมจริงๆ ทรัพยากรมีมาก ศิลปวัฒนธรรมเรามีพร้อม เพียงแต่เราไม่มีโอกาสใช้มันได้เต็มศักยภาพ มีการเมืองระบอบประชาธิปไตย แต่เราไม่สามารถใช้มันให้เกิดผลเต็มที่ได้ เราไม่ควรแบ่งฝ่าย คิดต่างได้ แต่หาจุดลงตัว นั่นคือทางออก 


“มันคือเหตุผลที่ผมกลับมา ไม่ได้กลับมาอยากมีตำแหน่ง มันมีครบถ้วนเพียงพอแล้ว แต่ดูแล้วบ้านเมืองลำบากจริงๆ ผมดีใจที่ได้เห็นวันนี้ ทั้งหมดที่ผมฟังจากตัวแทนผู้ประกอบการที่เป็นคนรุ่นใหม่ เราต้องการภารกิจอยู่ 2 ข้อ 1.ขอให้มีการกอบกู้อันดามัน 2.ขอให้มีการสร้างอนาคตของอันดามัน แค่นี้เอง ที่เหลือเป็นรายละเอียดปลีกย่อย”


นายสมคิด กล่าวต่อว่า ในช่วงที่เกิดสึนามิที่เขาหลัก จ.พังงา เหลือแต่ซากก็ยังมีความช่วยเหลือลงมาได้ แต่ครั้งนี้เป็นสึนามิที่มองไม่เห็น และกำลังผลักดันทุกอย่างพังไปทีละราย ธนาคาร สถาบันการเงิน และ หน่วยงานของรัฐ จะนั่งรอดูให้ล้มไปทีละรายได้อย่างไร คนไทยทั้งนั้น 


“ตอนเกิดโควิด-19 ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะลากยาวขนาดนี้ ตอนมันเริ่มต้นคิดว่า 2-3 เดือนคงจบแล้ว ที่ไหนได้วัคซีนดีๆ ยังไม่มาสักที มันถึงลากยาวมาถึงวันนี้ สงครามยังมีแนวโน้มจะเกิดอีก เศรษฐกิจมืดมัวกว่านี้อีก จะปล่อยไว้ได้อย่างไร ภารกิจเหล่านี้เหล่ามอบพรรคสร้างอนาคตไทยมารับใช้ประชาชน”


นายสมคิด กล่าวอีกว่า จากที่ได้ฟังเสียงสะท้อนในการเสวนาครั้งนี้ ขอตั้งข้อสังเกต ประการแรก ดีใจที่เรียกอันดามันไม่ใช่ภูเก็ต เพราะในอนาคตข้างหน้าทุกแห่งในโลกจะแข่งด้วยท่องเที่ยว โลกทั้งโลกไม่ได้มีแค่ภูเก็ต ไม่ได้มีแค่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง สิ่งที่ต้องคิดคือ สิ่งที่มีของเราจะรักษามันไว้อย่างไร 


แต่สำคัญกว่าคือ จะระดมจุดแข็งทั้งหลายให้มีพลังได้อย่างไร เรามีไข่มุกเม็ดงามอยู่สามเม็ด ไม่ได้มีแค่เม็ดเดียว ได้แก่ ภูเก็ต พังงา และ กระบี่ ถ้ารู้จักร้อยไข่มุกเป็นสายสร้อยมุก จะได้สายสร้อยที่สวยงามมาก นำจุดเด่นของสามจังหวัดรวบรวมกันเข้ามาเป็นแพ็กเกจ ประสานงานร่วมมือกัน เป็นแพ็กเก็จส่งเสริมที่ยิ่งใหญ่และไม่มีใครเหมือน และสามารถเชื่อมโยงได้อีกสามเม็ด คือ ระนอง ตรัง และ สตูล สามารถเชื่อมโยงท่องเที่ยวกับภาคเกษตร ภาคประชาชน และอีกจำนวนมาก 


“ทำไมถึงไม่คิดที่จะทำ อาจเคยคิดในอดีตแต่ความสมานฉันท์ยังไม่มี วันนี้โอกาสดีแล้วที่จะสมานฉันท์ร่วมกัน ย้ำว่า การเชื่อมโยงสำคัญที่สุด หากมีระบบคมนาคมที่รวดเร็ว จะทำให้เสมือนว่าอยู่ที่เดียวกัน เช่น รถไฟรางเบาที่ทำได้โดยไม่กระทบสิ่งแวดล้อม เงินอยู่ในโลกก็ไปดึงเข้า มันอยู่ที่ผู้นำจะไปประมวลดึงการลงทุนทั้งไทยและเทศมาได้หรือไม่ ขออย่างเดียวทำให้เกิดได้ก็พอ”


ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวด้วยว่า รถไฟไทย-จีนกว่าจะคืบได้ ลาวเสร็จไปถึงคุนหมิงแล้ว เพราะมัวแต่ทะเลาะกัน วันนี้เราได้แต่นั่งมองลาวตราปริบๆ หากเป็นอย่างนี้จะลำบากมาก การเชื่อมโยงรถไฟและถนนต้องทำให้ได้ จากสงขลามาภูเก็ตล่อไป 7 ชั่วโมง 


“ภาคใต้มี ส.ส.มาตลอด ส.ส.ทำอะไร ผมนั่งอยู่ในครม.ไม่ได้ยินสักแอะเลย มีแต่ประกันรายได้ ประกันทั้งปีเลย ของหมูๆ อย่างนั้นใครๆ ก็ทำได้ ว่าจะไม่ว่าแล้วเชียว" 


นายสมคิด กล่าวต่อว่า ประการที่สอง ต้องใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการกระจายรายได้ ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับฐานราก สร้างความเท่าเทียมกัน อันดามันตอนพีคสูงสุดมีนักท่องเที่ยว 18 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่แถวชายหาด เราไม่มีไว้ให้ฝรั่งอาบแดดอย่างเดียว แต่เขาต้องการเห็นชีวิตวัฒนธรรม เห็นธรรมชาติ นี่คือแนวโน้มใหม่แน่นอน 


ชุมชนต้องได้รับการพัฒนา งบพัฒนาต้องไปให้ถึง ซึ่งในกองทุนสร้างอนาคตไทยมีส่วนหนึ่งที่ไว้สร้างอนาคต หมู่บ้านละสามแสนบาท จะลงไปเพื่อให้แต่ละหมู่บ้านมีสิทธิ์คิดว่า จะเอาไปพัฒนาอะไรบ้าง ไม่ใช่มาจากส่วนกลาง ตัดสินแต่รัฐมนตรี เพราะรัฐมนตรีจากพรรคไหนยังไม่รู้เลย เขารู้ได้อย่างไรว่าหมู่บ้านไหนต้องการอะไร 


เมืองไทยจริงๆ แล้วอะเมซิ่งมาก แต่มีกฎหมายที่ไหนเยอะเท่าเมืองไทย ระบบป้องกันคอร์รัปชันสร้างกฎหมายมาป้องกัน แต่กลายเป็นการมัดตราสังข์ เงินท้องถิ่นเงินของเขาแท้ๆ ทำอะไรไม่ได้ ต้องไปขอกระทรวงมหาดไทย มันอะไรกัน 


“ผมจึงอยากชวนให้สมัครเป็นสมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย เห็นหน่วยก้านแล้ว ยืนอยู่วงนอกทำไม คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศไทยโดยการนั่งข้างนอกและวิพากษ์วิจารณ์ เมืองไทยวิพากษ์เยอะแต่ไม่ยอมมาอยู่แถวหน้า แต่พอบอกให้ตำแหน่งกลับยอมมา แล้วจะเขยื้อนภูเขาได้อย่างไร การเมืองไม่มีอะไรน่ากลัว มายืนแถวหน้า ชนะแพ้ไม่สำคัญ แต่อย่างน้อยสามารถทำในสิ่งที่คุณฝันคุณคิดเป็นจริงได้”


นายสมคิด กล่าวว่า จะบอกให้ว่ากำลังเหนื่อยใจ เคี่ยวเข็ญคนรุ่นใหม่เข้าสู่การเมือง ถ้าไม่เข้ามา ส.ส.เต็มสภาจะมีคนใหม่ได้หรือไม่ จะเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน ไปบอกเขา เขาจะทำหรือไม่ทำก็ได้ น้องๆ คนรุ่นใหม่ถ้าต้องการเปลี่ยนอันดา ให้มากับตน ไม่มาพรรคสร้างอนาคตไทย ไม่เป็นไร แต่มาการเมืองที่เป็นการเมืองที่ดีมีเป้าหมาย ทำไมจะทำไม่ได้ 


อย่างไรก็ตาม ภาวะอย่างนี้เป็นภาวะที่ไม่ปกติ สภาวะผู้นำจำเป็นมาก ต้องกล้าคิดกล้าทำ ต้องเสียสละ ไม่ใช่รอให้ข้าราชการชมไปวันๆ เพราะการเมือง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ทำให้ข้าราชการไม่กล้าคิดไม่กล้าทำ กลัวติดตะราง กลัวถูกย้าย สมัยนี้ข้าราชการที่ไหนกล้าคิดจริงๆ บ้าง มันน่าเศร้า ระบบข้าราชการไทย เคยได้ชื่อว่าเป็นกระดูกสันหลัง วันนี้หลังแอ่นเลย ยืดหลังได้ไม่ตรง ฉะนั้น หลังหารือวันนี้เอาใบสมัครให้คนรุ่นใหม่กรอกเลย


ส่วนเรื่องโอท็อปต้องยกเครดิตให้นายกฯ สมัยนั้น ที่ให้อำนาจตนทำ ตอนนี้ก็อยากทำต่อ ถ้าคุมกระทรวงมหาดไทยได้เมื่อไหร่สำเร็จแน่นอน ตนต้องการทำหมู่บ้านโอท็อป ไม่ได้ต้องการให้นักท่องเที่ยวไปซื้อเสื้อที่ร้าน แต่ให้ไปซื้อที่หมู่บ้าน 


“ผมมีทีมงานอยู่แล้วที่จะทำ เป็นทีมที่ทำตั้งแต่โอท็อป ผมเตรียมทีมงานไว้แล้ว ทีมงานสมคิดไม่ได้มีสองคน ทุกๆ คนที่เคยทำงานกับผม มีความสามารถ สุจริต นอกพรรค หรือ ในพรรค ไม่ว่าในการเมือง หรือ นอกการเมือง ผมจะเอามาช่วยให้หมด ผมต้องการเอามา เชื่อว่าทุกคนอยากจะมาช่วยด้วย จะเอาคนเหล่านี้มาร่วมกับคนในพรรค เพราะเราไม่ได้เป็นพรรคปิด แต่เปิดเชื่อมโยงกับประชาชนและทุกคน ไม่คิดเป็นศัตรูกับใคร การสร้างการท่องเที่ยวชุมชนจึงสำคัญมาก และต้องมีคนไปช่วยโดยเฉพาะเอกชน แต่ถ้าหัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย”

                                       “สมคิด”โชว์กึ๋นพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ เหน็บปชป.ไม่ใช่เอาแต่ประกันราคา
นายสมคิด กล่าวว่า ตนมี 3 เสาที่จำเป็นในการพัฒนาพื้นที่อันดามัน หนึ่ง คือ การเกษตรสมัยใหม่ที่มีมูลค่า ที่ต้องทำให้เป็นอาหารแห่งอนาคตและมีคุณภาพ สอง คือ การท่องเที่ยวด้านสุขภาพ โดยต้องมีความสามารถเชื่อมโยงทุกภาคส่วน ทั้งโรงพยาบาล แพทย์ และแหล่งท่องเที่ยว ที่จะแผ่อานิสงค์ได้มาก และสาม คือ ดิจิทัลฮับ ปัจจุบันบริษัทหรือองค์กรใหญ่สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ หากดึงมาตั้งศูนย์ที่ไทยได้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของสตาร์ทอัพ และแหล่งเงินสมัยใหม่ 


“สิ่งเหล่านี้ ผมเชื่อว่าไม่สามารถเกิดใต้อำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดได้ หากเราได้เข้าไปเป็นรัฐบาลได้ เราทำได้เลย เพราะไม่ใช่ของยาก หากอยากให้เขยื้อน ต้องกระจายอำนาจและงบประมาณจากส่วนกลางสู่ท้องถิ่น ทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม เพราะส่วนกลางไม่รู้ว่าอะไรจำเป็นหรือไม่จำเป็น ภาคใต้ผมมองไปถึงด้ามขวานทั้งด้าม จึงต้องทำให้เกิดเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงกัน ปัญหา คือ กลไกการเมือง อย่าไปโทษนายกฯ อย่างเดียว นายกฯ ต้องชี้นำ และทุบโต๊ะ โดยต้องมีทีมงานสนับสนุน”


นายสมคิด กล่าวต่อไปว่า คนใต้คอการเมือง อนาคตการเมืองภาคใต้เปลี่ยนแปลงแน่ ช่วยกันเปลี่ยนแปลง ส่งคนรุ่นใหม่มาการเมือง เรารู้ว่าทางใต้มีศรัทธาและผูกพันกับพรรคการเมืองบางพรรค หรือหลายๆ พรรค ลองคิดดูสิว่า 10 ปีที่ผ่านมาภาคใต้ของคุณเปลี่ยนแปลงไปเยอะมั้ย ถนนหนทางของคุณสู้เหนือได้มั้ย สู้อีสานได้มั้ย 


ฉะนั้น ตนจะบอกให้ว่าจะรักใคร ชอบใครไม่มีใครเขาว่า แต่ในยามอย่างนี้ จุดพลิกผันของประเทศต้องขอพักเขาไว้บนหิ้งก่อน วันนี้นำทีมของ “สร้างอนาคตไทย”มาเยี่ยมอันดามัน ไม่ได้มีเจตนาคุยโวโอ้อวด แต่อยากนำผู้บริหารให้มารับฟังปัญหาท่าน ไปกลั่นกรองสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับท่าน นี่คือความต้องการ ให้เขาเป็นทางเลือกใหม่ที่ท่านพึ่งหวังได้ ที่จะมาสร้างอนาคตให้รุ่นหลังได้ทำ ไม่ใช่สัญญาไปวันแล้วเลือกตั้งใหม่


"ผมเคยหาเสียงทางใต้ โอ้โห เขามีความผูกพันจริง แต่ต้องเข้าใจที่มาความศรัทธานั้นมาจากไหน มันมาจากการเมืองของเขา ทำตามสัญญา เขามุ่งมั่น พรรคของเขาควบคุมวินัยของนักการเมืองได้ จนเกิดเป็นความศรัทธาที่ผูกพัน และส่งมอบกันมารุ่นต่อรุ่น 


รุ่นแรกเขาบอกว่า แม้แต่ส่งเสาไฟฟ้ายังได้รับเลือกเลย อันนี้ไม่เถียงเลย ผมก็ศรัทธาผู้ใหญ่ในพรรคนั้นหลายคน บางคนเป็นรุ่นพี่ผม ผมเคารพนับถือ แต่พอส่งมารุ่นต่อรุ่น รุ่นหลังบางทีอาจจะเข้าใจไม่ถูกต้องที่ว่าส่งเสาไฟฟ้านั้นจะได้อะไร มันไม่ใช่ มันมีที่มาที่ไป มันมีศรัทธา มันมีการผูกมัดทางใจ ทำตามสัญญา เวลาเดือดร้อนมาช่วยเหลือกัน แล้วดูสิว่ามีมั้ย หรือว่าเข้าใจผิด ตกลงเป็น ส.ส.หรือเสาไฟฟ้า


นายสมคิด กล่าวอีกว่า ตนอายุมากแล้ว ฝากน้องๆ ไว้ และถ้าน้องๆ มีความคิดความอ่านติดต่อผู้นำพรรคสร้างอนาคตไทยได้ทุกเมื่อ สนใจเข้ามาเลย ไม่ต้องอาย ไม่ต้องเขิน ให้คนรุ่นใหม่เข้ามา ตนรอดู เห็นหน่วยก้านแต่ละคนถ้ามีอยู่ในสภาสามารถไปได้ไกล 


“อย่าคิดมากเหมือนคนรุ่นเก่า ลงแล้วคุ้มหรือไม่คุ้ม ลงแล้วเสียหายหรือไม่ มันไม่ใช่ การเมืองมันคือภารกิจและหน้าที่ ถ้าคุณพร้อมแล้ว มีเงินทองแล้ว ดูแลครอบครัวได้ดีแล้ว ที่เหลือต้องคืนให้สังคม มอสโต้ของผมคือ คุณค่าของคนไม่ได้วัดที่รวย ยศศักดิ์ หรือตำแหน่ง แต่อยู่ที่ว่าสามารถสร้างคุณค่าให้บ้านเมืองแค่ไหน” ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ระบุ