“อุตตม”บุกภูเก็ตหวังปักธงภาคใต้เชื่อคนพรรคสร้างอนาคตไทยไม่มีแพ้ใคร

วันนี้(15 ก.ย.65) ที่โรงแรมรามาดา พลาซ่า เจ้าฟ้า จ.ภูเก็ต นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดเผยถึงการลงพื้นที่จ.ภูเก็ต หวังปักธงพื้นที่ภาคใต้อย่างไร ว่า เราทำงานในพื้นที่อย่างเข้มข้นทั้งภาคใต้และทุกภาค และมีทีมนโยบายที่จะฟอร์มชุดความคิดใหม่ ที่ต้องยึดโยงและรับฟังข้อเสนอแนะความคิดเห็นในพื้นที่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้จัดวงเสวนาใหญ่ เชื่อว่าภาคใต้เป็นหนึ่งในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ การที่จะทำให้ประเทศไทยฟื้นฟูได้อย่างพลิกเศรษฐกิจนั้น พรรคก็มีนโยบายที่จะมาแชร์ข้อมูลซึ่งได้การตอบรับที่ดี

 

ส่วนในเรื่องทางการเมืองภาคใต้นั้น พรรคได้ให้ความสำคัญอย่างมาก ซึ่งทีมงานพรรคหลายคนก็มีความคุ้นเคยในพื้นที่ โดยถือว่า ขณะนี้กระแสตอบรับของพรรคดีขึ้น โดยล่าสุดเมื่อได้เดินตามที่พูดไว้ว่า จะเชิญ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาร่วมงานซึ่งท่านก็ได้เข้ามาแล้วในตำแหน่งประธานพรรค และงานเสวนา “อันดามันรอด ประเทศไทยรุ่ง” เป็นเวทีแรกที่ ประธานพรรคมาร่วม และจะมีเวทีต่อไปในอนาคต นอกจากนี้กระแสตอบรับของพรรคในพื้นที่อื่นก็ดีขึ้นด้วยเช่นกัน

ส่วนในทางการเมืองที่มีการช่วงชิงกันอย่างเข้มข้นนั้น ไม่มีความกังวล เพราะเราได้เสนอชุดความคิดนโยบายที่ดี เรามีผู้เชี่ยวชาญเรื่องเศรษฐกิจที่มีประสบการณ์ ซึ่งภาคใต้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญที่การท่องเที่ยวไม่แพ้ใครในโลกนี้ แต่ต้องแก้ไขปัญหาที่เรากำลังเผชิญร่วมกัน และขับเคลื่อนการพัฒนาต่อไป เชื่อมั่นว่า เมื่อถึงเวลาคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมจะเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เราก็ไม่แพ้ใคร 

สำหรับยุทธศาสตร์ที่เจาะกลุ่มนักลงทุน กลุ่มธุรกิจ ก็เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพรรค แต่เมื่อพูดถึงพื้นที่นี้ ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวก็ให้ความสนใจ 

นอกจากนี้ภาคใต้ยังเป็นพื้นที่การเกษตร ซึ่งสัดส่วนรายได้ครึ่งหนึ่งของภาคใต้อยู่ที่การเกษตร เรื่องนี้พรรคก็ให้ความสำคัญเช่นกัน รวมถึงภาคส่วนอื่น เช่น การศึกษา การสร้างคน ในพื้นที่ภาคใต้พรรคก็ให้ความสำคัญเช่นกัน ยืนยันว่า เราปักธงการช่วงชิง ส.ส.ในทุกพื้นที่

 

ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น ไม่มีผลอะไรกับพรรคสร้างอนาคตไทย เพราะเรามียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนที่จะเดินหน้าต่อ ไม่ว่าผลการวินิจฉัยจะเป็นอย่างไรเราก็เดินตามเป้าหมายที่เราได้วางไว้

 

สำหรับกระแสเรื่องการปรับ ครม.ในวาระสุดท้าย เป็นเรื่องของรัฐบาล ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีการปรับ ครม.หรือไม่ และจะมีการปรับในช่วงเวลาใด หากมีการปรับเพื่อตอบโจทย์การทำงานของรัฐบาลและเพื่อประชาชนก็ควรปรับ เพื่อให้ผู้ประกอบการ สามารถเดินไปข้างหน้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งประชาชนก็ต้องดูว่าปรับเพื่ออะไร เพื่อประโยชน์ของประเทศ หรือ เพื่อผลของการเลือกตั้ง ส่วนจะมีการปรับ ครม. ที่ไปข้องเกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อความได้เปรียบเสียเปรียบกับผลของการเลือกตั้งหรือไม่นั้น ยังบอกไม่ได้ แต่เราไม่กังวลเพราะเราทำงานอย่างเข้มแข็งและเข้มข้น
 

 

ส่วนที่มีข่าวว่า นายสมคิด ได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งอาจมีการรวมพรรคเกิดขึ้นหรือไม่นั้น นายอุตตม กล่าวว่า หากจะมีการรวมพรรคในมุมมองของพรรคสร้างอนาคตไทยต้องพิจารณาว่าการรวมพรรคเป็นประโยชน์อย่างไร สามารถทำให้เราทำงานเพื่อประชาชนได้ดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งการรวมพรรคเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายต้องหาเรื่องกัน ไม่ใช่เป็นเรื่องของคนใดคนหนึ่งที่จะตัดสินใจ  

 

แต่สิ่งสำคัญที่พรรคสร้างอนาคตไทยยึดถือหากต้องมีการรวมพรรค ก็คือ อุดมการณ์ต้องสามารถไปด้วยกันได้ และต้องทำเพื่อประโยชน์ประชาชน 

 

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เปิดดีลพูดคุยรวมพรรคกับใครไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า หรือคุณหญิงสุดารัตน์ แต่มีการพบปะกันบ้างซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของวงการเมือง ซึ่งก็ยังมีเวลาในการพูดคุยเรื่องนี้อีก

 

หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้มีผู้ให้ความสนใจร่วมงานพรรคมาก จึงต้องมีการพิจารณาว่าใครเหมาะ และไม่กังวลว่าการเลือกบุคคลส่งเป็นผู้สมัครลงแต่ละพื้นที่จะทำให้คนที่พลาดกลายเป็นขัดแย้งพลิกขั้วพลิกฝั่ง

 

นายอุตตม ยังระบุว่า พรรคได้จัดทำโพลในพื้นที่ ซึ่งกระแสในภาพรวมการรับรู้ของพรรคนั้นดีขึ้น ความนิยมของพรรคดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดตัวของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เข้ามาเป็นประธานพรรค ส่วนจะแลนด์สไดล์หรือไม่นั้น ตนไม่รู้ แต่ทำงานอย่างเต็มที่

หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ยังระบุถึงการพูดคุยกับ ส.ส.พรรคอื่น ที่จะเข้ามาร่วมงานกับพรรค รวมถึงการทาบทามอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นางสาววทันยา บุนนาค โดยขอให้ไปถามเจ้าตัว ส่วนเคมีตรงกันหรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่าเคมีตรงกัน เพราะเคยทำงานด้วยกันมา จึงพูดได้ว่าเคมีตรงกัน
 

ทั้งนี้ไม่กลัวใช่หรือไม่ว่า หลายคนมองนางสาววทันยา เป็นเด็กดื้อหัวรั้น นายอุตตม กล่าวว่า ตนไม่เคยเห็นนางสาววทันยา ดื้อเลย เห็นเพียงเขามีจุดยืนในสิ่งที่เขาเชื่อ และกล้าพูดในสิ่งที่เชื่อ ซึ่งน่าจะต้องชื่นชมด้วยซ้ำ

 

ส่วนกระแสข่าวที่ นางสาววทันยา จะไปอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ นายอุตตม ระบุว่า ไม่ทราบ เคมีคงตรงกันหลายพรรค ซึ่งฝากไปถามนางสาววทันยาด้วย

 

เมื่อถามต่อว่าทำไมไม่ชวนมาร่วมลงพื้นที่ครั้งนี้ด้วย นายอุตตม กล่าวว่า ยังมีเวลา มีอีกหลายพื้นที่ รวมถึงใน กทม. ก็ยังมี

รวมถึงมีบิ๊กเนมคนอื่น ทั้งคนการเมืองและอื่นๆ มาร่วมงานกับพรรค ที่จะมาช่วยกันเป็นทีมเศรษฐกิจ และมั่นใจว่าสู้พรรคอื่นได้แน่นอน