ครม. ทุ่ม 24,400 ล้านบาท เคลื่อนงานวิจัย-พัฒนานวัตกรรม มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

22 ม.ค. 2564 | 09:35 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ม.ค. 2564 | 09:36 น.

ครม. อนุมัติ 24,400 ล้านบาท ขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน-ขจัดความยากจน-ลดความเหลื่อมล้ำ-พัฒนาทักษะทรัพยากรมนุษย์ของไทย

22 มกราคม 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 24,400 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย งบสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Fund) สำหรับการทำวิจัยที่เน้นตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ จำนวน 14,640 ล้านบาท และงบสนับสนุนงานพื้นฐาน (Fundamental Fund) สนับสนุนงานวิจัยพื้นฐาน (Basic Research Fund) และ Functional-based Research Fund  เน้นสร้างความเข้มแข็งของหน่วยงานจำนวน 9,760 ล้านบาท

 

มีเป้าหมาย 4 แพลตฟอร์ม 17 โปรแกรมที่ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนากำลังคนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาเชิงพื้นที่และลดความเหลื่อมล้ำ การปฏิรูประบบการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ไปจนถึงการแก้ไขปัญหาวิกฤติเร่งด่วนของประเทศ

 

ทั้งนี้ แนวทางการจัดสรรงบประมาณ เป็นแบบวงเงินรวม (Block grant) และการจัดสรรงบประมาณต่อเนื่องแบบหลายปี (Multi-year budgeting) มีการกระจายอำนาจให้หน่วยงานในระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหน่วยบริหารและจัดการทุน (Program Management Unit: PMU) เพื่อให้เกิดความคล่องตัว ยืดหยุ่นและดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง เน้นขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของประเทศด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย การแพทย์และสาธารณสุข เทคโนโลยีระบบคมนาคมแห่งอนาคต อุตสาหกรรม 4.0

 

รวมถึงการขจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ การพัฒนาทักษะของทรัพยากรมนุษย์ของไทย การยกระดับผู้ประกอบการ SMEs การขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว BCG และการวิจัยด้านสังคม ทั้งยังสอดรับกับแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ พ.ศ. 2563-2565 ฉบับปรับปรุงด้วย 

“ผลสำเร็จในปี 2563 ที่ผ่านมา งบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถูกนำไปใช้เพื่อตอบโจทย์การพัฒนากำลังคน เศรษฐกิจ สังคม สาธารณสุข ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในภาวะที่ประเทศเผชิญกับวิกฤติโควิด-19  อาทิ ผลงานการพัฒนาหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตและตรวจสอบคุณภาพหน้ากากอนามัย การผลิตชุดตรวจเชื้อโควิด-19 โดยวิธี Real-Time RT-PCR จากน้ำลาย เป็นต้น” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต.ยันกลางสภาไม่เลื่อน“เลือกตั้งเทศบาล”

จับพิรุธ “นาฬิกาโจ้ – ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” เอามาจากไหน?

ตั้ง 3 อนุกรรมการ "ตร.-มท.-ดีเอสไอ" สแกนบ่อนทั่วปท. เน้นพื้นที่โควิด-19 ระบาด

“ธนาธร”โต้รัฐบาลยันวิจารณ์วัคซีนโควิดตรวจสอบภาษีประชาชน

"ภราดร ปริศนานันทกุล"จวก "ธนาธร" เลอะเทอะโยงวัคซีนพระราชทาน