กรณีที่มีผู้เรียกตัวเองว่า "เครือข่ายนักรบไซเบอร์เพื่อประชาธิปไตย หรือ Cyber 3 Fingers" ประกาศจะโจมตีเว็บไซต์ระบบสารสนเทศของรัฐ เพื่อตอบโต้การใช้กำลังกับเยาวชนและนิสิต-นักศึกษา รวมถึงกดดันให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยในประกาศมีสัญลักษณ์ของ สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กองทัพบกและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีมีกลุ่มที่ใช้ชื่อว่านักรบไซเบอร์ ประกาศโจมตีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของหน่วยงานภาครัฐ ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายชักชวนให้ประชาชนกระทำความผิดกฎหมายอาญา และกฎหมายเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และอาจเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับกฎหมายด้านความมั่นคง ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลในเรื่องนี้
ขณะที่มีรายงานข่าวจากสำนักงาน กสทช. ว่า กสทช. รับทราบประกาศดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการกำชับให้ดูแลระบบสารสนเทศ ตรวจสอบข้อมูลที่ปรากฏว่าเป็นความจริงหรือไม่ เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข่าวลวง ที่กำลังมีความพยายามสร้างข่าวลือในด้านต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะในสื่อโซเชียล อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบความผิดปกติใด ๆ
ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีมีกลุ่มผู้เรียกตัวเองว่ากลุ่มไซเบอร์ทรีฟิงเกอร์ประกาศจะโจมตีเว็บไซต์สารสนเทศภาครัฐว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้วตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ไม่ได้มีความห่วงกังวลกับประกาศดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้ประมาทหรือนิ่งนอนใจ จึงได้แจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่ถูกระบุว่าจะมีการโจมตี และให้ตรวจสอบประกาศดังกล่าวว่าเป็นความจริงหรือไม่
ทั้งนี้ ดีอีเอสได้มอบหมายให้ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จากการเฝ้าระวังเว็บไซต์สารสนเทศของหน่วยรัฐ เฝ้าระวังเหตุการณ์ดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งผลการเฝ้าระวังพบความผิดปกติบางจุดในบางช่วงเวลาในเว็บไซต์ของบางหน่วยงาน เช่น สำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีการสะดุดในระยะเวลาสั้นๆ แต่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
ส่วนเว็บไซต์ของดีอีเอสมีเครื่องมือที่ใช้เฝ้าระวังตรวจสอบพบว่ามีความพยายามเข้าสู่เว็บไซต์ของกระทรวงอย่างผิดปกติในช่วง 12.00-13.00 น.โดยมีปริมาณผู้ใช้งานมากผิดปกติหลายเท่า แต่จากการเตรียมพร้อมรับมือไว้ล่วงหน้าทำให้เว็บไซต์ยังเข้าถึงได้ใช้และยังให้บริการได้ตามปกติ
รมว.ดีอีเอส กล่าวต่อว่า จากนี้คงจะมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษต่อเนื่องต่อไป ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นเรื่องปกติที่มีสถานการณ์ทางการเมืองจะมีการดำเนินการในลักษณะที่เกิดขึ้นทั้งที่เป็นการทำจริงและการขู่