เปิดคำสั่งประธานก.อ.สอบวินัย“เนตร นาคสุข”สั่งไม่ฟ้อง“บอส อยู่วิทยา”

21 ต.ค. 2563 | 21:00 น.
1.0 k

เปิดคำสั่ง “ประธานก.อ.”ตั้ง "ไพรัช วรปาณิ"ประธานคุมสอบ “เนตร นาคสุข” ถูกกล่าวหา-เป็นที่สงสัยกระทําผิดวินัย ปมสั่งไม่ฟ้อง “บอส อยู่วิทยา”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563 นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ประธาน ก.อ.) ได้มีคําสั่งสํานักงานอัยการสูงสุด ที่ 1951/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนชั้นต้น โดยหนังสือระบุว่า 


ด้วยรองอัยการสูงสุด ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้มีบันทึกข้อความ ห้องรองอัยการสูงสุด (นายไพบูลย์ ถาวรวิจิตร) ที่ อส 6000(7)/83 ลงวันที่ 25 กันยายน 2563 กราบเรียนอัยการสูงสุด แจ้งว่าตามที่อัยการสูงสุดได้มีคําสั่งสํานักงานอัยการสูงสุด ที่ 3716/2563 ลงวันที่ 13 กันยายน 2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีข้าราชการอัยการผู้ปรากฏชื่อ ตามบทสรุปรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย กรณีคําสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน 
ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยเริ่มดําเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2563 และแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2563 ปรากฏตามรายงานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีข้าราชการอัยการผู้ปรากฏชื่อตามบทสรุปรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคําสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน พร้อมเอกสารประกอบที่เกี่ยวข้อง 


โดยประเด็นการสั่งคดีของ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ชอบด้วยข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย หรือระเบียบ ที่เกี่ยวข้องหรือไม่นั้น คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด รับฟังข้อเท็จจริงในประเด็นความเร็วของ รถยนต์ของผู้ต้องหาที่ 1 จากคําให้การของ พลอากาศโท จักรกฤช ถนอมกุลบุตร และนายจารุชาติ มาตทอง โดยมิได้ดําเนินการให้ได้ข้อยุติในเรื่องความเร็วของรถยนต์ของผู้ต้องหาที่ 1 จากหน่วยงาน สถาบัน หรือคณะบุคคล ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนํามาเป็นพยานหลักฐานให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ 


รวมทั้งมิได้ใช้ความระมัดระวัง ในการรับฟังข้อเท็จจริงกรณีร้องขอความเป็นธรรมในประเด็นต่างๆ รวมทั้งประเด็นเรื่องความเร็วของรถยนต์ ของผู้ต้องหาที่ 1 ประกอบกับผู้ต้องหาที่ 1 ได้เคยร้องขอความเป็นธรรมมาแล้วถึง 13 ครั้ง และอดีตอัยการสูงสุด อดีตรองอัยการสูงสุด ได้มีคําสั่งยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าวแล้ว จึงเป็นการไม่ใช้ความระมัดระวัง ละเอียดรอบคอบในการพิจารณาสั่งคดี

 

 

คณะกรรมการอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทําของ นายเนตร นาคสุข อัยการอาวุโส สํานักงานคดีอาญาพระโขนง เมื่อครั้งปฏิบัติราชการ ในตําแหน่งรองอัยการสูงสุด ถูกกล่าวหาและเป็นที่สงสัยว่า กระทําผิดวินัย ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553


อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 74 และมาตรา 82 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ ฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 และตามระเบียบคณะกรรมการอัยการว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการดําเนินการ ทางวินัยและสั่งลงโทษทางวินัยสําหรับรองอัยการสูงสุด พ.ศ. 2563 จึงมีคําสั่งแต่งตั้งบุคคลดังต่อไปนี้ เป็นคณะกรรมการสอบสวนชั้นต้น 


1. นายไพรัช วรปาณิ กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ เป็น ประธานกรรมการ 


2. นางพิมพร โอวาสิทธิ์ กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ  เป็น กรรมการ


3. นายสนทรรศ สิงหพัศ  อธิบดีอัยการ สํานักงานคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ รักษาการในตําแหน่งรองอัยการสูงสุด เป็น กรรมการ


4. นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อธิบดีอัยการ สํานักงานต่างประเทศ รักษาการในตําแหน่งรองอัยการสูงสุด เป็น กรรมการ 


5. นายมั่นเกียรติ ธนวิจิตรพันธ์ อธิบดีอัยการ สํานักงานการสอบสวน รักษาการในตําแหน่งผู้ตรวจการอัยการ เป็น กรรมการและเลขานุการ 


6. นายยุทธพงษ์ อภิรัตนรังษี รองอธิบดีอัยการ สํานักงานนโยบาย ยุทธศาสตร์และงบประมาณ รักษาการในตําแหน่ง รองอธิบดีอัยการ สํานักงานคณะกรรมการอัยการ เป็น ผู้ช่วยเลขานุการ

 

 

 

สำหรับอำนาจหน้าที่ ให้คณะกรรมการสอบสวนชั้นต้นแจ้งข้อกล่าวหา และรายละเอียดเท่าที่มีอยู่ให้ผู้ถูกกล่าวหา ทราบและให้โอกาสแก่ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงและนําพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาด้วย โดยให้ดําเนินการสอบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในระเบียบคณะกรรมการอัยการว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการ สอบสวนชั้นต้น กรณีข้าราชการอัยการถูกกล่าวหา หรือเป็นที่สงสัยว่ากระทําผิดวินัยและการรายงาน ผลการสอบสวนชั้นต้นที่ปรากฏว่ามีมูลเป็นกรณีกระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง พ.ศ. 2554 โดยอนุโลม 


ทั้งนี้ ให้ทําการสอบสวนเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่แต่งตั้ง และหากคณะกรรมการ สอบสวนชั้นต้นพบว่ามีการกระทําผิดวินัยในเรื่องอื่น หรือมีกรณีที่การสอบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการ ฝ่ายอัยการผู้อื่น หรือมีข้าราชการฝ่ายอัยการผู้อื่นร่วมกระทําผิดด้วย ให้มีอํานาจสอบสวนการกระทําความผิด ในเรื่องดังกล่าวหรือสอบสวนเฉพาะในส่วนของข้าราชการอัยการได้


ทั้งนี้ การตั้งกรรมการสอบสวนดังกล่าว เกิดจากกรณีของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง และมีชื่อ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด เซ็นสั่งไม่ฟ้องทุกข้อกล่าวหา ต่อนายวรยุทธ คดีขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555