ฮอนด้า ลุย EV นำเข้า Honda e:N1 จากจีนล็อตใหม่ 800 คัน
ภายหลังจาก ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ขึ้นไลน์ประกอบ EV รุ่นแรก Honda e:N1 ที่โรงงาน จ.ปราจีนบุรี ช่วงปลายปี 2566 แต่ด้วยต้นทุนที่ผิดคาดพลาดไปจากแผน จนไม่สามารถทำราคาให้แข่งขันได้ ฮอนด้า จึงต้องนำรถมาปล่อยเช่าระยะยาว ผ่านพันธมิตรที่เป็นบริษัทรถเช่าแทน
โดยคาดการณ์ว่า หากฮอนด้า จะขาย Honda e:N1ตามต้นทุนที่แท้จริง (จากภาษีเต็มพิกัด) ราคาขายปลีกของเอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นนี้ จะกระโดดไปถึง 2 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบสเปกกับ EV จีนในระดับใกล้เคียงกัน ต้องบอกว่าฮอนด้า แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง
สำหรับ Honda e:N1มีแพกเกจปล่อยเช่า 24-60 เดือน ราคาเริ่มต้น 28,800 บาท/เดือน ผ่านบริษัท เช่น กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส,ซูมิโตโม มิตซุย ออโต้ ลิสซิ่ง แอนด์ เซอร์วิส,ไทย วี.พี.คอร์ปอเรชั่น,ไทยโอริกซ์ลีสซิ่ง,พารากอน คาร์ เรนทัล,ไพร์ม คาร์ ซึ่งตัวรถยังเป็นทรัพย์สินของ ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย
ดังนั้น เมื่อลูกค้าจบสัญญาเช่า แล้วอยากครอบครองรถต่อไป จะไม่สามารถซื้อโดยตรงกับบริษัทรถเช่า นั้นๆได้
สรุปคือโครงการนี้ ยิ่งทำยิ่งเจ็บ ไปต่อลำบาก หรือกรณีรถที่หมดสัญญาเช่าอีก 1-2 ปี นับจากนี้ จะทำอย่างไร ปล่อยขายเป็นรถมือสองราคาจะเหลือเท่าไหร่ และสามารถสู้กับ EV รุ่นใหม่ที่สเปกดีกว่า พร้อมราคาที่สมเหตุสมผลได้หรือไม่
จึงเป็นเหตุผลว่า การนำเข้าชิ้นส่วน(เกือบทั้งคัน)จากจีน มาประกอบที่โรงงานฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย จ.ปราจีนบุรี ต้องหยุดการผลิตไว้ที่ 420 คัน ซึ่งในความน่าจะเป็นอีกด้าน หากฮอนด้านำเข้า e:N1 แบบสำเร็จรูปทั้งคันมาตั้งแต่แรก โดยไม่เสียภาษีนำเข้า (กรอบ FTA จีน-อาเซียน) จะสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีกว่า แต่ที่ฮอนด้า ต้องเลือกแผนประกอบในไทย ส่วนหนึ่งเพราะติดเงื่อนไขตามบัตรส่งเสริมการลงทุนที่ทำไว้กับ BOI
อย่างไรก็ตาม ในปี 2568 ฮอนด้า เตรียมเดินแผนย้อนเกล็ด นำเข้า Honda e:N1 จากจีน มาขายบนโชว์รูมเป็นการทั่วไป ปัจจุบันทยอยส่งรถลงไปที่ดีลเลอร์ เพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์ และเปิดโอกาสให้ลูกค้าทดลองขับ ก่อนจะประกาศราคาขายอย่างเป็นทางการ ในเดือนมีนาคม นี้
งานนี้ฮอนด้า ตั้งใจนำเข้า Honda e:N1 มาสร้างภาพลักษณ์มากกว่าหวังยอดขาย เพราะเตรียมนำเข้ามาจำนวนจำกัดแค่ 800 คัน ที่สำคัญยังถือเป็นการเตรียมความพร้อมของดีลเลอร์ (การขาย,บริการหลังการขาย) และเก็บข้อมูล ก่อนที่จะนำเข้า EV เจเนอเรชันใหม่จากจีน มาทำตลาด
สำหรับ ฮอนด้า มอเตอร์ ไปร่วมมือกับพันธมิตร ตงฟง และ จีเอซี เพื่อผลิตและทำตลาด EV ตระกูล e:N ล่าสุดยังใช้ทรัพยากรจากจีนแผ่นดินใหญ่ในโปรเจกต์ Ye Series ที่เปิดตัวรถครั้งแรกในงานปักกิ่ง ออโต้โชว์ 2024 ประเดิมด้วยเอสยูวี Ye P7 และ Ye S7 ซึ่งมีทั้งรุ่นมอเตอร์ตัวเดียว ขับเคลื่อนล้อหลัง และรุ่นมอเตอร์ 2 ตัวขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งฮอนด้า วางแผนเปิดตัว EV ตระกูล Ye รวม 6 รุ่น ภายในปี 2570
ดูจากการขยับขับเคลื่อนของฮอนด้า ครั้งใหม่ เชื่อว่าไทยจะไม่ตกขบวน EV แน่นอน แต่จะสู้(ต้นทุน)กับจีนได้แค่ไหน น่าสนใจ...