เงินบาทแข็ง-สงครามตะวันออกกลาง กระทบชิ้นส่วนยานยนต์ไทย

08 ต.ค. 2567 | 16:20 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ต.ค. 2567 | 16:30 น.

สงครามตะวันออกกลางขยายวงกว้าง -เงินบาทแข็งค่า ขึ้นค่าแรง 400 บาท ปัจจัยเสี่ยงกระทบอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทย

นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย (TAPMA) และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (มหาชน) เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทยในช่วงไตรมาส 4 หากค่าเงินบาทกลับมาสู่ที่ระดับ 34 -35 บาทต่อดอลลาร์ได้ก็จะช่วยผู้ประกอบการให้มีกำลังใจต่อไป 

 

ส่วนกรณีเรื่องสงครามตะวันออกกลาง คาดว่าจะขยายวงกว้างขึ้น และจะส่งผลกระทบกับตลาดส่งออกของไทย และเศรษฐกิจโดยรวม เพราะตลาดตะวันออกกลางถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีความสำคัญของไทย

 

"ค่าเงินบาทที่แข็งค่า กระทบกับการส่งออกมาก เพราะลูกค้าชะลอคำสั่งซื้อ และส่งผลในภาพรวมทำให้ความสามารถในการแข่งขันของเรากับคู่แข่งลดลง ขณะที่ผู้ประกอบการแต่ละรายในช่วงก่อนหน้านี้ก็ปรับตัวไม่ทัน ดังนั้นสมาคมฯจึงได้สะท้อนความคิดเห็นผ่านสภาอุตฯไปยังธนาคารแห่งประเทศไทยว่าค่าเงินที่ลงแรงกระทบกับผู้ส่งออกอย่างไร ซึ่งในช่วงหลายวันที่ผ่านมาค่าเงินที่ปรับมาในระดับ 33 บาท ก็ถือว่าดีขึ้น แต่ถ้าถามว่าอยากให้อยู่ในระดับไหนที่รับได้ก็ต้องบอกว่าอยู่ที่ 34-35 บาท"
 

นายสมพล กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่กระทบกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย คือ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ที่ปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าเมื่อไร ซึ่งมาตรการตรงนี้ถือว่ากระทบกับผู้ประกอบการรายเล็ก เอสเอ็มอี เพราะสถานการณ์ในปัจจุบันบางบริษัทฯทำงาน 3 วัน หรือบางบริษัทฯมีการโยกย้ายโรงงาน ลดกำลังการผลิต  

 

"การปรับค่าแรงกระทบกับเอสเอ็มอี เพราะตอนนี้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบจากหลากหลายปัจจัย ดังจะเห็นจากยอดขายรถที่ไม่ดี เพราะหนี้ครัวเรือนสูง ส่งผลให้การผลิตรถลดลง มีการโยกย้ายโรงงาน ลดกำลังการผลิต ไม่ต้องพูดถึงโอที อนาคตอีกหน่อยอาจจะต้องลดพนักงาน "


บาทแข็ง-สงครามตะวันออกกลาง กระทบชิ้นส่วนยานยนต์ไทย