วันที่ 25 มิถุนายน 2567 กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เปิดเผยตัวเลขการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม -พฤษภาคม 2567 พร้อมทั้งเผยตัวเลขการขายรถใหม่ และยอดส่งออกไปตลาดต่างประเทศ ซึ่งภาพรวมอุตฯยานยนต์ไทยจะเป็นอย่างไรบ้าง จะยังคงขายดี หรือ ยอดร่วง สามารถตรวจสอบได้ดังนี้
ยอดผลิตรถยนต์ 5 เดือนลดลง 16.88 %
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 644,951 คัน ลดลง 16.88 %เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขการผลิตในเดือนพฤษภาคม 2567 มีทั้งสิ้น 126,161 คัน ลดลง 16.19 %
ปัจจัยที่ทำให้ยอดผลิตรถยนต์ลดลงนั้น เป็นผลมาจากการผลิตรถกระบะขายในประเทศ ที่ลดลง 54.66 % และผลิตรถยนต์นั่งขายในประเทศลดลง 14.35 % ตามยอดขายในประเทศที่ลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตในอัตราต่ำและการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่พร้อมเต็มที่
มกราคม - พฤษภาคม 2567 รถยนต์มียอดขาย 260,365 คัน ลดลง 23.80 % ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนพฤษภาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 49,871 คัน ลดลง 23.38 %
ปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดขายรถในประเทศหดตัวลงนั้น เป็นเพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ เนื่องจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้งเศรษฐกิจในประเทศขยายตัวในอัตราต่ำจากการล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ทำให้การลงทุนของภาครัฐลดลง โดยดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงติดต่อกันมากกว่าสิบเดือน โรงงานหลายแห่งลดเวลาทำงานลงและมีการเลิกจ้างพนักงานหลายหมื่นคน ทำให้ขาดรายได้ ประชาชนจึงระมัดระวังการใช้จ่ายเพราะความไม่แน่นอนในเรื่องรายได้รวมทั้งค่าอาหาร ค่าเดินทางและพลังงานมีราคาสูงขึ้น
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 และปี 2568 ที่่กำลังพิจารณาในสภาฯ แต่เศรษฐกิจจะขยายตัวถึง 3 % หรือไม่ ยังน่ากังวลถ้ายอดผลิตรถยนต์และขายรถยนต์ และขายอสังหาริมทรัพย์ยังติดลบ เพราะทั้งสองอุตสาหกรรมมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องและแรงงานมากซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศมาก
เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2567 ไทยส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 429,969 คัน ลดลง 2.28 % โดยในเดือนพฤษภาคม 2567 ส่งออกได้ 89,284 คัน เพิ่มขึ้น 3.39 %
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค.67 เนื่องจากมีรถยนต์ที่ยังไม่ได้ส่งออกเดือนที่แล้วมาส่งออกเดือนนี้ จึงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ตลาดออสเตรเลีย ตลาด ตะวันออกกลาง ตลาดอเมริกาเหนือ ตลาดอเมริกากลางและอเมริกาใต้
ยอดจดทะเบียน EV เติบโต 31.64 %
ยอดจดทะเบียนยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) รวมทุกประเภท มกราคม -พฤษภาคม 2567 มีทั้งสิ้น 43,921 คัน เพิ่มขึ้น 31.64 % ขณะที่ยอดจดทะเบียนในเดือนพฤษภาคม 2567 มีทั้งสิ้น 8,166 คัน เพิ่มขึ้น 14.50%