จากการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ที่มี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบข้อเสนอการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
เสนอโดย รศ.ประสบศรี อึ้งถาวร ประธานคณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุข และนางวราภรณ์ สุวรรณเวลา รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ตามนโยบาย มะเร็งครบวงจร ของรัฐบาลเพื่อมุ่งดูแลผู้ป่วยมะเร็งให้เข้าถึงการรักษาพยาบาล รวมถึงบริการตรวจคัดกรองสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง โรคมะเร็งเต้านมนับเป็นภัยร้ายทางสุขภาพของผู้หญิงทุกคน
แต่ละปีมีผู้หญิงที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมรายใหม่อยู่ที่ 37.8 ต่อแสนประชากร โดยปี 2563 อยู่ที่จำนวน 22,158 คน หรือร้อยละ 22.8 ของจำนวนผู้หญิงที่ป่วยเป็นมะเร็งทุกชนิด
ขณะที่อัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมอยู่ที่ 12.7 ต่อแสนประชากร ปี 2563 อยู่ที่จำนวน 8,266 คน หรือร้อยละ 14.6 ของผู้หญิงที่เสียชีวิตจากมะเร็งทุกชนิด
บอร์ด สปสช. ตระหนักต่อสถานการณ์ดังกล่าวจึงมีนโยบายที่เน้นการตรวจคัดกรอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม
ในวันนี้ บอร์ด สปสช. จึงได้เห็นชอบมาตรการเพิ่มเติมการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ปีละ 1 ครั้ง ในสตรีอายุ 40 ปีขึ้นไปทุกสิทธิการรักษาพยาบาลที่มีประวัติญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม และกำหนดเป้าหมายบริการตรวจคัดกรองในปี 2567 จำนวน 40,600 ราย
ด้วยสิทธิประโยชน์นี้ จะเป็นการสนับสนุนนโยบายมะเร็งครบวงจรของรัฐบาล เพื่อดูแลผู้ป่วยมะเร็งและผู้ที่มีความเสี่ยงให้เข้าถึงบริการที่จำเป็น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเป็นอุปสรรค
ขณะที่นพ.จเด็จ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อเสนอที่บอร์ด สปสช. เห็นชอบในวันนี้พิจารณาข้อมูลจากผลการศึกษาการพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์ของการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ฯ และข้อเสนอจาก Service plan สาขาโรคมะเร็ง กระทรวงสาธารณสุขโดยหากผู้ป่วยมะเร็งเต้านมได้รับการรักษาระยะเริ่มต้นจะช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตสูง
ผลการรักษาดี ภาวะแทรกซ้อนต่ำ และสามารถผ่าตัดแบบสงวนเต้านมได้ ส่วนที่กำหนดให้สิทธิบริการผู้หญิงที่อายุ 40 ปีขึ้นไปนั้น เพราะจากข้อมูลพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมจะอยู่ในกลุ่มอายุ 50-59 ปี มากที่สุด ซึ่งในทางการแพทย์การตรวจคัดกรองญาติสายตรงต้องลบอายุจากญาติที่เป็นมะเร็งเต้านมออก 10 ปี และควรตรวจทุก 1 ปี
การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ฯ นี้ จะเป็นบริการที่เข้ามาเสริมเพิ่มเติมจากสิทธิประโยชน์ที่มีอยู่แล้วในระบบบัตรทอง ได้แก่
-การให้คำแนะนำคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยการคลำเต้านมด้วยตนเองสำหรับหญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 25-59 ปี
-บริการตรวจคัดกรองยีนกลายพันธ์โรคมะเร็งเต้านม BRCA1 /BRCA2 สำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปที่เป็นผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงสูงและญาติสายตรงที่มีประวัติครอบครัวตรวจพบยีนกลายพันธุ์ ซึ่งเป็นการกำหนดบริการตรวจคัดกรองที่เพิ่มเติมตามความเสี่ยงของประชาชนแต่ละกลุ่ม