โควิด19 มีการพบกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron)
ทั้งนี้ ล่าสุดได้มีการค้นพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่มีอัตราการแพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว และดื้อต่อวัคซีนต้านโควิดรุ่นที่สอง
น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
XBB.1.5 ไวรัสตัวใหม่ล่าสุด เพิ่มมากขึ้นถึง 100% ภายในสัปดาห์เดียว ที่สหรัฐอเมริกา และกำลังจะเป็นสายพันธุ์หลัก
ชนิดหรือสายพันธุ์ของไวรัสที่ก่อโรคโควิด จะมีความหลากหลาย
เนื่องจากไวรัสกลายพันธุ์ได้บ่อยและรวดเร็ว เพราะเป็นธรรมชาติของไวรัสสารพันธุกรรมเดี่ยวหรืออาร์เอ็นเอ
อย่างไรก็ตาม การที่ไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะมาทดแทนหรือเบียดสายพันธุ์เก่าสำเร็จนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับความสามารถในการแพร่ระบาดหรือการทำให้ผู้คนติดเชื้อได้ง่าย ไม่ใช่ความรุนแรงในการก่อโรค
และความเร็วหรืออัตราเร่งของไวรัสที่มีมาก ก็จะทำให้ผู้ติดเชื้อมีเป็นจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว
เมื่อใช้หลักดังกล่าว ก็พอจะประเมินด้วยความเป็นห่วงว่า ในสหรัฐอเมริกาได้พบไวรัสสายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 ซึ่งอยู่ในตระกูลหลักโอมิครอนนั้น
มีความสามารถสูงมาก กล่าวคือเพิ่มขึ้นถึง 100% หรือหนึ่งเท่าตัวในหนึ่งสัปดาห์ จากสัปดาห์ก่อนพบ 20% ของผู้ติดเชื้อ ในสัปดาห์นี้พบถึง 41% และคาดว่า XBB.1.5 จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักหรือมากกว่า 50% ในสัปดาห์หน้า
ไวรัสสายพันธุ์ XBB.1.5 กลายพันธุ์ต่อเนื่องมาจาก XBB ซึ่งพบครั้งแรกในประเทศอินเดียเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 และแพร่ระบาดมาที่สิงคโปร์
เกิดจากไวรัสสองสายพันธุ์ผสมกันคือ BA.2.10.1 และ BA.2.75
เชื่อกันว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.5 เกิดขึ้นที่รัฐนิวยอร์ก และขณะนี้ก็ได้แพร่ระบาดออกไปทั่วสหรัฐอเมริกาแล้ว
ทำให้พบคลื่นของผู้ต้องนอนโรงพยาบาลสูงขึ้นมาก
ตำแหน่งสำคัญของไวรัสนี้ที่เปลี่ยนแปลงคือ 486 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้ไวรัสสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ดี (Immunity escape)
และมีความสามารถสูงกว่า BQ.1.1 ซึ่งเป็นสายพันธ์หลักของสหรัฐอเมริกาในขณะนี้
ไวรัสตัวที่ดื้อต่อภูมิคุ้มกันหลักๆ ได้แก่ BQ.1 ,BQ.1.1 , XBB , XBB.1.5 ซึ่งเริ่มดื้อต่อวัคซีนรุ่นที่สองด้วย
ทางวิชาการแล้ว จะมอง 4 ประการด้วยกันของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้แก่
ในท่ามกลางกระแสข่าวทั่วโลก ด้วยความเป็นห่วงเรื่องมาตรการผ่อนคลายของทางการจีน และจะเกิดการระบาดของโควิดในประเทศจีนครั้งใหญ่นั้น
จากข้อมูลล่าสุดพบว่า ไวรัสที่พบในจีนทุกสายพันธุ์ ล้วนแต่เป็นสายพันธุ์เดิมที่มีความสามารถในการแพร่เชื้อต่ำ
ส่วนการค้นพบ XBB.1.5 ในสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ จัดเป็นสายพันธุ์ใหม่และมีความรุนแรงมากกว่าไวรัสของประเทศจีน
ดังนั้นการวางนโยบายรับมือนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกากับจีน จึงไม่ควรมีความแตกต่างกัน
เพราะไวรัสในสหรัฐ แพร่เชื้อเก่งกว่า แต่จำนวนผู้ติดเชื้อช่วงนี้น้อยกว่า
ส่วนไวรัสในจีน มีความสามารถในการแพร่เชื้อน้อยกว่า แต่ช่วงนี้จะมีผู้จำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า