“HANN” เดินหน้าเข้าตลาด mai เตรียมขาย IPO 160 ล้านหุ้น

06 มี.ค. 2568 | 16:59 น.
อัปเดตล่าสุด :06 มี.ค. 2568 | 17:02 น.

HANN ผู้นำเครือโรงพยาบาลแห่งลุ่มน้ำโขง ประกาศพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เสนอขาย 160 ล้านหุ้น ประกาศนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ

นางประภาศรี สุฉันทบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ HANN เปิดเผยว่า ผลประกอบการของกลุ่มบริษัท งวด 9 เดือนสิ้นสุด 30 กันยายนปี 2567 มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล  371.18 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 16.43 ล้านบาท ประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าเงินสด กลุ่มลูกค้าบริษัทประกัน และกลุ่มลูกค้าโครงการสวัสดิการภาครัฐคิดเป็นสัดส่วน 47.38% 24.85% และ 27.38% ของรายได้กิจการโรงพยาบาลตามลำดับ

HANN มีทุนจดทะเบียน 280 ล้านบาท และมีแผนจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 160 ล้านหุ้นคิดเป็นประมาณ 28% ของหุ้นทั้งหมดจำนวน 560 ล้านหุ้น เพื่อขยายกิจการโรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล และโรงพยาบาลนายแพทย์หาญ จังหวัดยโสธร โดยการสร้างอาคารโรงพยาบาลเพิ่ม 2 อาคาร และลงทุนอุปกรณ์การแพทย์ที่สำคัญ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการทางการแพทย์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

“HANN” เดินหน้าเข้าตลาด mai เตรียมขาย IPO 160 ล้านหุ้น

รวมทั้งรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของกลุ่มผู้รับบริการทั้งในจังหวัดมุกดาหาร จังหวัดยโสธรและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงผู้รับบริการชาวต่างประเทศ ได้แก่ สปป.ลาว และกัมพูชา ควบคู่ไปกับการขยายขอบเขตและพัฒนารูปแบบการให้บริการทางการแพทย์ที่ครอบคลุมและครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยกำหนดนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ

สำหรับ HANN ประกอบกิจการโรงพยาบาลเอกชน มานานกว่า 30 ปี  มีโรงพยาบาลในเครือ 3 แห่ง คือโรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล โรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกในจังหวัดมุกดาหาร โรงพยาบาลนายแพทย์หาญ โรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกในจังหวัดยโสธร และ โรงพยาบาลรวมแพทย์ยโสธร มีจำนวนเตียงรวม 148 เตียง นับว่าเป็นผู้ประกอบธุรกิจ ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง

อันประกอบไปด้วยพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง อาทิ สปป.ลาว ประเทศกัมพูชา อีกทั้งกลุ่มบริษัทยังได้รับรองคุณภาพและมาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ Hospital Accreditation (HA) ขั้นที่ 2 จากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์กรมหาชน)

“HANN” เดินหน้าเข้าตลาด mai เตรียมขาย IPO 160 ล้านหุ้น

“จุดเด่นของ HANN คือ ความเชี่ยวชาญในด้านศัลยกรรมทั่วไป ยูโรวิทยา อายุรกรรม สูติ-นรีเวช และกุมารเวช รวมถึงโรคที่ซับซ้อน อาทิ การผ่าตัดมะเร็ง การผ่าตัดแผลเรื้อรัง การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีด้วยกล้อง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีศูนย์ฟอกไต และมีเตียงสำหรับดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล และโรงพยาบาลรวมแพทย์ยโสธร รวมทั้งหมด 31 เตียง

นอกจากนี้ HANN เน้นการให้บริการดูแลรักษากลุ่มลูกค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีประชากรกว่า 18 ล้านคน รวมถึงกลุ่มลูกค้าจากประเทศ สปป. ลาว และกัมพูชา ซึ่งรายได้จากลูกค้าทั้ง 2 ประเทศสำหรับปี 2565 – 2566 และงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 คิดรวมกันประมาณ 17.60%  25.48% และ 21.99% ของรายได้กิจการโรงพยาบาล ตามลำดับ

และมีโอกาสเพิ่มขึ้นหลังจากโรงพยาบาลได้ขยายศักยภาพในการรักษา และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบหลังจากการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลแล้วเสร็จ นอกจากนี้ โรงพยาบาลในเครือ HANN ยังเป็นโรงพยาบาลทุติยภูมิ รองรับผู้ป่วยที่ส่งต่อจากโรงพยาบาลอื่นเพื่อรักษาต่อไป”

ด้านนายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า HANN เป็นหุ้นขนาดเล็กที่มีอนาคตไกล มีโอกาสเติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืน เนื่องจากตลาดกลุ่มธุรกิจประเทศไทยก็มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และยังได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐในด้านการประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง

“HANN” เดินหน้าเข้าตลาด mai เตรียมขาย IPO 160 ล้านหุ้น

โดย HANN จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้กับประชาชน จำนวนไม่เกิน 160,000,000 หุ้น คิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญ ที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ โดยกลุ่มบริษัทฯ มีจุดเด่นหลายประการคือ มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการให้บริการเฉพาะทางด้านศัลยกรรมทั่วไป ยูโรวิทยา อายุรกรรม สูติ-นรีเวช และกุมารเวช

มีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความสามารถและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่หลากหลาย เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการได้ครบวงจรได้ในที่เดียว และกลุ่มบริษัทฯ มีฐานลูกค้าที่กว้างขวาง ครอบคลุมหลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงประเทศ สปป.ลาว และกัมพูชา เนื่องจากมีทำเลที่ตั้งของโรงพยาบาลทั้ง 3 แห่ง ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และประเทศในแถบลุ่มแม่น้ำโขง อาทิ ประเทศ สปป.ลาว และกัมพูชา