AnyMind เจาะเทรนด์อีคอมเมิร์ซ เร่งขยายตลาด AI ไลฟ์สด

07 มี.ค. 2568 | 06:52 น.

AnyMind ชี้ตลาดอีคอมเมิร์ซเอเชียขยายตัว 2 เท่า เผย 3 เทรนด์แรง Shoppertainment ดันไลฟ์สดขายของ, ระบบ Cashback กระตุ้นยอดใช้จ่าย และ AI เสริมพลัง Influencers ดึงลูกค้าผ่าน Social Commerce เดินหน้าดัน AI ไลฟ์สด ช่วยแบรนด์ขายสินค้า 24 ชั่วโมง

นายศิวัตม์ วิลาสศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทยและฟิลิปปินส์ บริษัทเอนี่มายด์ กรุ๊ป จำกัด (AnyMind Group) เปิดเผยว่าจากรายงานของเอนี่มายด์ พบว่าตลาดดิจิทัลคอมเมิร์ซ หรือ อีคอมเมิร์ซ ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ข้อมูลระบุว่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า และยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อไป ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงนี้มาจาก การเติบโตของแพลตฟอร์มออนไลน์ และ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่หันมาใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น

AnyMind เจาะเทรนด์อีคอมเมิร์ซ เร่งขยายตลาด AI ไลฟ์สด

ในยุคที่ตลาดอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างรวดเร็วและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง เอนี่มายด์ (AnyMind) บริษัทเทคโนโลยีด้านดิจิทัลคอมเมิร์ซ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโซลูชันที่ช่วยให้แบรนด์และผู้ค้าปลีกสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการนำเทคโนโลยี AI Commerce มาปรับใช้ เพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจและสร้างโอกาสในการเติบโต

สำหรับ 3 เทรนด์อีคอมเมิร์ซที่กำลังมาแรงปีนี้ คือ 1. Shoppertainment โดยการผสมผสานความบันเทิงเข้ากับการช้อปปิ้ง เช่น ไลฟ์สดขายของ, วิดีโอสั้น, เกมสะสมแต้ม 2. Payment and Cashback Platform การชำระเงินแบบไร้รอยต่อ พร้อมโปรโมชั่น Cashback และ แจกเหรียญ หรือ คอยน์ และ KOLs and AI-Driven Features - การใช้ Influencers และ AI เพื่อเพิ่มประสบการณ์การช้อปปิ้งและกระตุ้นยอดขาย

AnyMind เจาะเทรนด์อีคอมเมิร์ซ เร่งขยายตลาด AI ไลฟ์สด

“ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Social Commerce และ Live Commerce กลายเป็นช่องทางสำคัญที่ผู้บริโภคใช้ในการตัดสินใจซื้อสินค้า แพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Facebook, YouTube และ Instagram ต่างพัฒนาโซลูชันที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น”

โดย TikTok Shop กำลังเป็นผู้ท้าชิงรายใหม่ที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว และสามารถดึงดูดผู้ค้าจำนวนมากให้ย้ายจาก Shopee และ Lazada ไปยังแพลตฟอร์มของตน ปัจจุบันมีการประเมินว่า 10-20% ของผู้ค้าบน Shopee และ Lazada กำลังย้ายไปสู่ TikTok Shop เนื่องจากแพลตฟอร์มดังกล่าวมีระบบแนะนำสินค้าที่ตรงกับพฤติกรรมของผู้ใช้ และสามารถกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ขณะเดียวกัน AI ยังเข้า มาใช้เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน AI ถูกนำมาใช้ในหลายด้าน ตั้งแต่ การวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าแบบเรียลไทม์ การปรับราคาสินค้าแบบไดนามิก ไปจนถึงการใช้ AI Chatbots เพื่อตอบคำถามลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง

การใช้ AI ยังช่วยให้แบรนด์สามารถวิเคราะห์แนวโน้มทางการตลาดและเสนอโปรโมชันที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่ม Customer Experience ได้อย่างมีประสิทธิภาพ AI Commerce จึงเป็นเทคโนโลยีที่กำลังพลิกโฉมวงการอีคอมเมิร์ซ และมีแนวโน้มจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอนาคต

นายศิวัตม์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดอีคอมเมิร์ซ เอนี่มายด์ได้วางกลยุทธ์สำคัญในการขยายตลาด โดยเน้นไปที่ 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1.ขยายการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ โดยเอนี่มายด์พัฒนา AI Commerce Solutions ที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า และเพิ่มศักยภาพของ AI Chatbots

 2.สร้างพันธมิตรกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับโลก โดยร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ เช่น Shopee, Lazada, TikTok Shop และ Facebook เพื่อขยายช่องทางการขาย และพัฒนา Omnichannel Strategy ให้ธุรกิจสามารถใช้ช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ร่วมกันได้ และพัฒนา Live Commerce & Social Commerce โดยเอนี่มายด์มุ่งเน้นการให้บริการ Live Streaming และสนับสนุน Influencer Marketing เพื่อเพิ่มโอกาสให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

หนึ่งในเทคโนโลยีที่เอนี่มายด์ มุ่งการขยายตลาดอย่างจริงจังปีนี้ คือ AI Livestreaming ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถใช้ AI แทนมนุษย์ในการไลฟ์ขายของตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องใช้พนักงาน ตอบคำถามลูกค้าแบบเรียลไทม์ และเสนอโปรโมชันได้ทันทีวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อเสนอสินค้าที่เหมาะสม และรองรับหลายภาษา ทำให้สามารถขายสินค้าไปยังต่างประเทศได้ง่ายขึ้น

 “AI Livestreaming จะเป็นเทคโนโลยีที่พลิกโฉมวงการอีคอมเมิร์ซ เพราะช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายตลาดได้แบบไร้ขีดจำกัด และลดต้นทุนแรงงานอย่างมหาศาล”