นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE กล่าวว่า ผลประกอบการของ MEDEZE ในปี 2567 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 829.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127.40 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 18.15% เมื่อเทียบกับปี 2566 และมีกำไรสุทธิ 338.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.39% จากปี 2566
โดยได้เปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการรับรู้รายได้ ซึ่งเดิมจะรับรู้รายได้ทั้งจำนวนเมื่อให้บริการเสร็จสิ้น เป็นรับรู้รายได้ตลอดช่วงเวลาที่ให้บริการแก่ลูกค้า และกำหนดรายชื่อผู้ไม่ได้รับสิทธิปันผล หรือ XD ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 และจ่ายปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568
สำหรับมีรายได้รวมและกำไรสุทธิที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้ การเติบโตนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจสเต็มเซลล์ที่ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มบริษัทยังคงมุ่งมั่นในด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตของธุรกิจ และผลักดันผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
การเพิ่มขึ้นของรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้านวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ
ทั้งนี้ แนวโน้มในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทมีการเพิ่มขนาดทีมขาย รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ หรือ Dealer และตัวแทนจำหน่ายหรือ Agent ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทมีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นบุคคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายแพทย์วีรพล กล่าวว่า ขณะเดียวกันบริษัทได้เดินหน้าในการขยายธุรกิจไบโอเทคโนโลยีในประเทศฟิลิปปินส์ ลงทุนผ่านบริษัทย่อย MEDEZE Treasury PTE LTD ในการจัดตั้งธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Cell Banking Biotechnology ซึ่งประกอบไปด้วย ห้องปฏิบัติการด้านตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับความต้องการในการเก็บเซลล์ต้นกำเนิดในฟิลิปปินส์ที่มีแนวโน้มเติบโตได้ในอนาคต