13 มีนาคม 2568 มีรายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา ที่มีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. เป็นประธานการประชุมนั้น
ที่ประชุมได้มีการร่วมกันหารือและรับทราบ เรื่องการสรุปผลการดำเนินงานและทบทวนสถานการณ์โครงการ "โรคมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้ (ทั่วประเทศ)" หรือโครงการ CA anywhere ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) และการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากคณะทำงานจัดทำข้อเสนอการจ่ายชดเชยค่าบริการสาธารณสุข กรณีการรักษาโรคมะเร็งจากโครงการ CA anywhere ที่มี ผศ.นพ.สนั่น สุทธิศักดิ์ชัย รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช เป็นประธานคณะทำงาน และเป็นผู้นำเสนอต่อที่ประชุม
ผศ.นพ.สนั่น กล่าวรายงานผลการทำงานของคณะทำงานจัดทำข้อเสนอการจ่ายชดเชยค่าบริการสาธารณสุข กรณีการรักษาโรคมะเร็งจากโครงการ CA anywhere ต่อที่ประชุมว่า ในช่วงปี 2567 ที่ สปสช. ได้ออกประกาศจ่ายค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลโครงการ CA anywhere 2 ฉบับซึ่งเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรักษามะเร็งของผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง 7 รายการ ประกอบด้วย
1. ค่ายาเคมีบำบัด/ฮอร์โมน
2. ค่ารังสีรักษา
3. ค่าแล็บที่เกี่ยวกับการใช้ยา จ(2)
4. การรักษาโรคแทรกซ้อนจากการรักษามะเร็ง/โรคมะเร็ง
5. การตรวจยืนยันการวินิจฉัย/การประเมินระยะโรค/การประเมินการรักษา
6. โรคร่วมอื่นๆ ในช่วงที่รักษามะเร็ง
7. การติดตามหลังการรักษามะเร็ง
ทั้งนี้ ประกาศของ สปสช. ระบุถึงรายการที่ 1 - 3 ให้หน่วยบริการเบิกจ่ายจากกองทุนรักษามะเร็งสำหรับโครงการ CA anywhere แต่ในส่วนรายการที่ 4 - 7 ไม่สามารถเบิกจ่ายจากกองทุนนี้ได้และให้เบิกจ่ายกับอีกกองทุนเหมาจ่ายรายหัว จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป มีหนังสือถึง สปสช. ขอให้ยกเลิกประกาศค่าใช้จ่าย CA anywhere ปี 2567 และให้กลับไปใช้ประกาศของปี 2566 ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้ง 7 รายการ
รวมถึงกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UhosNet) ได้ประกาศประชาสัมพันธ์ผู้ป่วยมะเร็งที่จะมารักษาในโรงพยาบาลกลุ่ม UhosNet จะต้องมีใบส่งตัวมาจากหน่วยบริการประจำ ซี่งกังวลว่าอาจติดขัดในการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการรักษามะเร็ง และอาจทำให้มีผลกระทบต่อการเข้าถึงบริการรักษามะเร็งของผู้ป่วยด้วย
จากประเด็นดังกล่าวนั้น สปสช. ได้ตั้งคณะทำงานจัดทำข้อเสนอการจ่ายชดเชยค่าบริการสาธารณสุข กรณีการรักษาโรคมะเร็งจากโครงการ CA anywhere ขึ้น เพื่อให้ศึกษาและทำงานร่วมกันในการหาทางออก
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคณะทำงานได้จัดทำข้อเสนอเพื่อให้ สปสช. ได้ดำเนินการต่อและได้รับการตอบรับในทันทีในระยะเร่งด่วน โดยมีการประกาศยกเลิกประกาศค่าใช้จ่ายในโครงการ CA anywhere ทั้ง 2 ฉบับเมื่อปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา และประกาศให้ใช้ประกาศค่าใช้จ่ายของปี 2566
ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2568 สปสช. ได้ประชุมหารือกับ UHosNet เพื่อสรุปแนวทางการดูแลผู้ป่วยมะเร็งในโครงการดังกล่าว ที่ไม่ต้องใช้ใบส่งตัวเพื่อรับรองค่าใช้จ่าย แต่ทาง UHosNet ระบุว่า ยังจำเป็นต้องขอข้อมูลทางการแพทย์ เพราะเกี่ยวกับการวินิจฉัยมะเร็ง ซึ่งต้องเป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นก่อนที่ผู้ป่วยจะมาใช้บริการจากโครงการนี้ได้
1. ให้ สปสช. กำหนดมาตรการลดจำนวนผู้ป่วยเข้ารับบริการที่หน่วยบริการใดบริการหนึ่งจนเกินกว่าศักยภาพ
2. การใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ ขอให้มีผู้รับผิดชอบค่ายาให้กับหน่วยบริการรับส่งต่อ
3. กรณีที่ระบบกำหนดให้มีสิทธิประโยชน์ แต่ไม่ได้กำหนดการเบิกจ่ายสิทธิประโยชน์ดังกล่าว ขอให้กำหนดระบบการร่วมจ่ายสำหรับสิทธิประโยชน์นั้นอย่างมีความเหมาะสม หรืออาจมีกองทุนเป็นการเฉพาะขึ้นมาหรือเป็นงบประมาณแบบเฉพาะเจาะจง
4. เสนอให้มีการตั้งกองทุนโรคมะเร็งเป็นการเฉพาะ โดยอาจดำเนินการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
5. กรณี สปสช.ไม่สามารถดำเนินการได้ ขอให้มีการชี้แจงเหตุผล
อนึ่ง หลังจากรับฟังการรายงาน บอร์ด สปสช. มีมติรับทราบ พร้อมทั้งได้ให้ความเห็นเพิ่มเติม โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องการใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติสำหรับรักษาผู้ป่วยมะเร็ง ที่มีหลายความเห็นทั้งสนับสนุนให้การขับเคลื่อนพิจารณายานอกบัญชีฯ ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยในมะเร็งบางชนิด หรือให้ผู้ป่วยได้มีโอกาสอุทธรณ์เพื่อขอให้เข้าถึงการใช้ยา รวมไปถึงยังมีความเห็นที่ว่าการนำยานอกบัญชีเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ
หากไม่มีการพิจารณาเรื่องนีอย่างรอบคอบ อาจมีผลกระทบต่อระบบกองทุนสุขภาพในภาพรวมที่อาจสร้างความเสียหายได้ ขณะที่ในส่วนข้อเสนอ ที่จะให้ สปสช. ลดจำนวนผู้ป่วยนั้น ที่ประชุมบอร์ด สปสช. เห็นว่าอยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของ สปสช. ที่จะดำเนินการ
อีกทั้งในส่วนประเด็นข้อเสนอการพิจารณายานอกบัญชีฯ เพื่อใช้สำหรับรักษาผู้ป่วยมะเร็งในโครงการ CA anywhere ที่ประชุมบอร์ด สปสช. ได้รับทราบ และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รวมถึงคณะทำงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้จัดทำข้อมูลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งจากโครงการ CA anywhere รวมถึงทำข้อมูลค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นที่ไม่เกี่ยวกับโรคมะเร็งและค่าใช้จ่ายจากการใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อให้นำข้อมูลดังกล่าวส่งต่อให้กับคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบและกำกับติดตามการเข้าถึงบริการโรคที่มีความสำคัญ ซึ่งมีปลัดกระทรวงแรงงานเป็นประธาน
มีคณะทำงานด้านการค่าใช้จ่ายในการรักษามะเร็งได้ร่วมพิจารณาและได้ให้ความเห็นจากข้อมูลดังกล่าว และขอให้นำความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องนี้ในที่ประชุมบอร์ด สปสช. ครั้งต่อไป