7 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ โรงพยาบาลสมเด็จพยุพราชเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ได้เยี่ยมติดตามความคืบหน้าการดูแลผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้อาคารผู้ป่วยใน 3 พร้อมให้กำลังใจบุคลากรของโรงพยาบาล
นพ.โอภาส กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 31 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กำชับให้เข้มงวดเรื่องมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย และให้ดูแลการสร้างขวัญกำลังใจ รวมถึงเยียวยาจิตใจบุคลากรทางการแพทย์ ประชาชนและผู้ป่วยที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างเต็มที่ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือโรงพยาบาลในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ครุภัณฑ์และสิ่งของ อย่างเต็มกำลังจนเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า อาคารที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 6 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่ที่ชั้น 3 ซึ่งให้บริการผู้ป่วยแผนกโสต ศอ นาสิก และจักษุ มีบุคลากรและผู้รับบริการอยู่ในเหตุการณ์ประมาณ 50 คน โดยมีผู้รับบริการได้รับผลกระทบ 14 ราย
เป็นผู้ป่วยบาดเจ็บจากสาเหตุสำลักควัน 3 ราย ในจำนวนนี้ได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ 1 ราย และผู้ป่วยหนักที่รักษาอยู่เดิม ต้องส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โรงพยาบาลวารินชำราบ และโรงพยาบาล 50 พรรษาฯ ส่วนบุคลากรได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ในจำนวนนี้ส่งต่อไปโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ 1 ราย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณการกว่า 28 ล้านบาท แบ่งเป็น ด้านโครงสร้างอาคาร กว่า 16 ล้านบาท และด้านครุภัณฑ์ ชั้นที่ 1 ชั้นที่ 3 และระบบอากาศทั้งอาคาร ประมาณ 12 ล้านบาท โดยต้องงดใช้อาคารเกิดเหตุ และลดการให้บริการแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ สูติ-นรีเวชกรรม และศัลยกรรม เพื่อปรับพื้นที่มาให้บริการผู้ป่วยในทดแทน
"ในส่วนของการเยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ ระหว่างวันที่ 1- 5 กุมภาพันธ์ 2568 ทีม MCATT ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม ร่วมกับศูนย์สุขภาพจิตที่ 10 อุบลราชธานี และโรงพยาบาลในพื้นที่ ทำการประเมินสุขภาพจิตทั้งหมด 369 ราย และให้การช่วยเหลือทั้งการทำกลุ่มบำบัด ให้คำปรึกษารายบุคคล และพบจิตแพทย์ โดยจะติดตามต่อเนื่องจนกว่าจะหมดความเสี่ยง
นอกจากนี้ยังจัดคลินิกอาชีวอนามัย ตรวจสุขภาพและสมรรถนะปอดทั้งบุคลากรของโรงพยาบาลและทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ขณะที่ผู้บริหารในพื้นที่ได้ติดตามเยี่ยมเสริมกำลังใจบุคลากรและผู้รับบริการ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วด้วย" นพ.โอภาส กล่าว