เจาะลึกปรากฏการณ์ "ไข้หวัดใหญ่" ในญี่ปุ่น ทำไมระบาดในฤดูหนาว

06 ก.พ. 2568 | 11:10 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.พ. 2568 | 11:22 น.

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ เผย 5 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ "ไข้หวัดใหญ่" ระบาดรุนแรงในญี่ปุ่นช่วงฤดูหนาว พร้อมเจาะลึกเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ใช้รับมือมีตั้งแต่ AI ไปจนถึง RT-PCR เหตุผลทำไมถึงต้องเป็นช่วงเดือน ธ.ค.- มี.ค. และอะไรที่ทำให้ไวรัสแพร่กระจายได้ดีในอากาศหนาวเย็น 

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลผ่านเพจ Center for Medical Genomics ในหัวข้อ เจาะลึกปรากฏการณ์ไข้หวัดใหญ่ในญี่ปุ่น-ทำไมต้องระบาดในฤดูหนาว จาก AI ถึง RT-PCR: เทคโนโลยีล้ำของญี่ปุ่นกับการรับมือไข้หวัดใหญ่ มีใจความอธิบายถึง 5 ปัจจัยสำคัญ รวมถึงมาตรการการเฝ้าระวังที่มีทั้งระดับชาติ และ ระดับเรียลไทม์ โดยใจความมีรายละเอียด ดังนี้ 

การระบาดของไข้หวัดใหญ่ในญี่ปุ่นเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายฤดูหนาวถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งมักจะเป็นช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม

สาเหตุของการระบาดในฤดูหนาว

สภาพอากาศเอื้ออำนวย :

อากาศเย็นและแห้งในฤดูหนาวช่วยให้ไวรัสไข้หวัดใหญ่แพร่กระจายได้ดีขึ้น อุณหภูมิที่ต่ำลงทำให้ไวรัสอยู่รอดได้นานขึ้นในอากาศและบนพื้นผิวต่าง ๆ นอกจากนี้ ความชื้นต่ำในอากาศช่วยให้ละอองฝอยที่มีไวรัสลอยอยู่ในอากาศได้นานขึ้นส่งผลให้การแพร่กระจายของเชื้อเป็นไปได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

พฤติกรรมของผู้คน :

ในช่วงฤดูหนาวผู้คนมักอยู่รวมกันในพื้นที่ปิดมากขึ้นทำให้เชื้อแพร่กระจายได้ง่าย การอยู่ในที่แออัดเพิ่มโอกาสการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่สาธารณะ เช่น ระบบขนส่งมวลชน ห้างสรรพสินค้า หรือสถานศึกษา นอกจากนี้การเดินทางในช่วงวันหยุดฤดูหนาวอาจเพิ่มการแพร่กระจายของไวรัสระหว่างพื้นที่ ทำให้การระบาดขยายวงกว้างมากขึ้น

ระบบภูมิคุ้มกัน :

ความเย็นอาจส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น การสูดอากาศเย็นเข้าไปทำให้อุณหภูมิในโพรงจมูกลดลง ซึ่งลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในจมูกลงถึงครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ยากขึ้น อีกทั้งการขาดแสงแดดในฤดูหนาวอาจทำให้ร่างกายผลิตวิตามินดีได้น้อยลงซึ่งส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยรวม

การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ :

การลดลงของอุณหภูมิอย่างรวดเร็วอาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างกะทันหันอาจส่งผลต่อการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน และเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่

ผลกระทบต่อเยื่อบุทางเดินหายใจ :

อากาศเย็นและแห้งทำให้เยื่อบุจมูกและลำคอแห้ง ลดประสิทธิภาพในการกรองเชื้อโรค การสูดอากาศเย็นอาจลดประสิทธิภาพของระบบ mucociliary clearance ซึ่งช่วยกำจัดไวรัสออกจากทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้ไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อ

เจาะลึกปรากฏการณ์ \"ไข้หวัดใหญ่\" ในญี่ปุ่น ทำไมระบาดในฤดูหนาว

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ฤดูหนาวจึงเป็นช่วงที่เอื้อต่อการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ในญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ในเขตอบอุ่น การเข้าใจกลไกเหล่านี้ช่วยให้สามารถวางแผนป้องกันและควบคุมการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งในระดับบุคคลและระดับสาธารณสุข ญี่ปุ่นใช้เทคโนโลยีและระบบหลายอย่างในการสังเกตการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่ ดังนี้:

ระบบและเทคโนโลยีที่ใช้สังเกตการณ์ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 

ระบบเฝ้าระวังแห่งชาติ

1. การเฝ้าระวังผู้ป่วยนอก :

ระบบ NESID (National Epidemiological Surveillance for Infectious Diseases) รวบรวมข้อมูลจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่รายสัปดาห์จากสถานพยาบาล 5,000 แห่งทั่วประเทศ

2. การเฝ้าระวังทางไวรัสวิทยา :

ห้องปฏิบัติการสาธารณสุข 81 แห่งทำการตรวจหาและวิเคราะห์เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่

3. การเฝ้าระวังการขาดเรียนและการปิดโรงเรียน :

โรงเรียนรายงานจำนวนนักเรียนที่ขาดเรียนและการปิดชั้นเรียนหรือโรงเรียนเนื่องจากไข้หวัดใหญ่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) บริษัท Hitachi พัฒนาบริการพยากรณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่โดยใช้เทคโนโลยี AI สามารถคาดการณ์การระบาดล่วงหน้าได้ถึง 4 สัปดาห์

การเฝ้าระวังแบบเรียลไทม์

1. ระบบเฝ้าระวังการสั่งยา :

ใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการสั่งยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่จากร้านขายยา 5,275 แห่ง เพื่อประมาณจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่แบบเรียลไทม์

2. ML-Influenza Database :

เว็บไซต์เฝ้าระวังผู้ป่วยนอกแบบเรียลไทม์ที่ดำเนินการโดยแพทย์อาสาสมัครกว่า 200 คนทั่วประเทศการตรวจจับเชื้อ
ญี่ปุ่นพัฒนาวิธี duplex real-time RT-PCR เพื่อตรวจหาไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้หลากหลายสายพันธุ์ 

ระบบเฝ้าระวังที่หลากหลายและทันสมัยเหล่านี้ช่วยให้ญี่ปุ่นสามารถติดตามสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถตอบสนองต่อการระบาดได้อย่างรวดเร็ว