สธ. ปรับแผนรับมือ "โรคอ้วน" เพิ่มเข้ากลุ่มโรค NCDs
สมศักดิ์ ถกผู้บริหาร สธ.ติดตามร่างกฎหมาย รับทราบความคืบหน้าโครงการคนไทยห่างไกล NCDs เพิ่ม "โรคอ้วน" เข้ากลุ่ม เล็งชง ครม.ปรับเพิ่มค่าประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว เหตุราคาต่ำเกินไป พร้อมยืนยันรักษาผู้ลี้ภัยชายแดน จ.ตาก ยังรับมือได้
5 กุมภาพันธ์ 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข โดยมีนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมกับผู้บริหารเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ภายหลังการประชุม นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บริหารได้มีการติดตามความก้าวหน้าร่างพ.ร.บ.ของหน่วยงานในกระทรวง โดยเฉพาะ ร่างพ.ร.บ.อสม.ซึ่งยังค้างอยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการนโยบายกองทุนหมุนเวียน กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังที่ยังต้องมีข้อชี้แจงข้อมูลการจัดตั้งกองทุนฯและทราบว่าจะมีการประชุมในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ หากผ่านไปได้ก็จะมีกฎหมายหรือร่าง พ.ร.บ.อสม.เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
ส่วนความคืบหน้าของกู้ของ อสม.ที่จะใช้หลักประกันฌาปนกิจสงเคราะห์ เพื่อให้ อสม.กู้ได้ 100,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 6 ต่อปีก็จะเริ่มดำเนินการได้วันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้
นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการคนไทยห่างไกล NCDs ที่มีความคืบหน้าไปมากโดยเฉพาะแนวทางที่จะขอให้ ครม.รับเป็นวาระแห่งชาติ มีการแยกกิจกรรมต่างๆที่จะต้องดำเนินการ และที่ประชุมได้มีการโรคอ้วนให้อยู่ในกลุ่มโรค NCDs ด้วยเพราะโรคอ้วนเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจน
นอกจากนี้กรมสนับสนุนบริการได้รายงานว่า ประชาชนที่ได้รับคำแนะนำเรื่องการนับคาร์บและคัดกรองสุขภาพประชาชน โดย อสม.ภาพรวมทั้งประเทศจำนวน 12,075,891 คน เป้าหมายปีนี้ต้องการ 50 ล้านคน ประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไปได้รับการคัดกรองโรค NCDs ภาพรวมทั้งประเทศ 5,674,895 คน เป้าหมาย 10 ล้านคนภายใน มี.ค.นี้ อสม.ให้คำแนะนำเรื่องการนับคาร์บและคัดกรองสุขภาพประชาชนทั่วประเทศร้อยละ 76.29 เป้าหมาย 100% ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้
นอกจากนี้ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบกรณีแรงงานต่างด้าว เรื่องประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว ที่ทำงานในประเทศไทยวันนี้จ่ายค่าประกันต่ำมากไม่ถึง 2,000 บาท ก็ให้ไปดู อย่างน้อยควรจะเท่ากับเงินที่ สปสช.จ่ายรายหัวคนไทยประมาณ 3,800 บาท เมื่อได้ข้อสรุปให้รีบส่งเรื่องเข้าสู่คณะรัฐมนตรี
นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์กรณีปัญหาการรักษาผู้ป่วยในค่ายอพยพจ.ตาก ว่า จากข้อมูลของผู้ตรวจราชการสุขภาพเขต 2 พบว่ามีผู้ป่วยที่มาจากค่ายลี้ภัยวันละ 40 ราย และกระจายเข้าโรงพยาบาล 4 แห่ง ก็แห่งละ 10 คน ยังสามารถรับได้ โดยผู้ตรวจฯติดตามตลอด การช่วยเหลือเป็นไปตามสิทธิมนุษยชน เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องดูแล แต่การพูดคุยเจรจาในระดับสูงเป็นหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องโดยตรง เรามีหน้าที่รักษา
เมื่อถามว่า เงินประกันสุขภาพต่างด้าวที่ไม่อยู่ในประกันสังคม และไม่ได้ซื้อประกันจากแหล่งใด จะต้องเพิ่มเงินเท่าไหร่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราได้ยินกระแสในโซเชียลฯ ว่า ต่างด้าวมาแย่งสิทธิรักษาคนไทย และใช้งบของคนไทยซึ่งตรงนี้จริงบ้าง ไม่จริงบ้างแต่เราจะทำให้เกิดความสมดุลโดยเราต้องดูแลต่างด้าวแต่ก็ต้องไม่เอารัดเอาเปรียบคนไทย ควรเท่า ๆ กับคนไทย เฉลี่ย 3,800 บาท ยืนยันว่าตนไม่ได้ทำตามน้ำแต่ทำทวนน้ำซึ่งไม่ได้รอ หรือรอแข้งรอขา ไม่ได้รอปัญหา เพียงแต่ทำในสิ่งที่เราทำได้ และมั่นใจว่าจะทำได้ แก้ปัญหาไม่กระทบกระเทือน
เมื่อถามว่าโรงพยาบาลที่ดูแลส่วนนี้ต้องใช้งบประมาณเพิ่มมากหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในเรื่องศูนย์อพยพ มีเจ้าภาพอยู่แล้ว เราดูในส่วนที่เราทำได้ ซึ่งมีเจ้าภาพดูแลเรื่องนี้อยู่ กำลังเจรจาพูดคุย
ส่วนโรงพยาบาลหน้างาน ณ ตอนนี้ ในเรื่องงบประมาณ ไม่ต้องกังวล มีการติดตาม ส่วนผอ.รพ.อุ้มผาง เสนอขอให้มีการจัดทำกองทุนสาธารณสุขชายแดนนานาชาตินั้นมองว่าทำแบบนั้น เมื่อไหร่จะจบ ตนย้ายไปที่อื่นคงยังไม่จบ ตอนนี้ต้องทำที่เราทำได้ก่อน