กรมสุขภาพจิต เตือน เสพข่าวความรุนแรงเกินขนาด เสี่ยงชินชา-ลดทอนศีลธรรม

02 ก.พ. 2568 | 13:10 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.พ. 2568 | 13:12 น.

กรมสุขภาพจิต เร่งสื่อสารสังคมร่วมกลั่นกรองรูปภาพอย่างเหมาะสม พร้อมอธิบายข้อมูลแบบไม่ลงลึกถึงเหตุการณ์-การก่อเหตุ ป้องกันการลอกเลียนแบบความรุนแรงในสังคม แนะวิธีป้องกันผลกระทบทางสุขภาพจิตจากการรับสื่ออย่างมีสติและรู้เท่าทัน

จากการติดตามข่าวสารกรณีไฟไหม้โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางกรมสุขภาพจิต ขอความร่วมมือในการไม่เผยแพร่ภาพที่ไม่ได้กลั่นกรอง รวมถึงการอธิบายลักษณะการก่อเหตุโดยลงลึกรายละเอียดมีผลกระทบต่อจิตใจของบุคคลเพราะการเยียวยาไม่ใช่เพียงแค่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์แต่ยังรวมถึงประชาชนที่ติดตามข่าวสารในหลายด้าน

ทั้งในทางบวกและทางลบและวิธีการรับรู้สื่อความรุนแรงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตแก่ประชาชนอย่างชัดเจน ภาพและเสียงความรุนแรงที่ถูกนำเสนอโดยไม่มีการควบคุม การที่ต้องเห็นภาพความรุนแรงซ้ำ ๆ ทำให้ผู้คนรู้สึกหดหู่ หวาดกลัวและรู้สึกขาดความปลอดภัยในสังคมได้

นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต

การเสพสื่อความรุนแรงอย่างต่อเนื่องยังเสี่ยงทำให้เกิดภาวะเครียดเฉียบพลัน ผู้รับสื่ออาจมีอาการวิตกกังวลและตื่นตระหนกส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่เสพสื่อแต่ยังอาจทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบในสังคมอีกด้วย

เนื่องจากเมื่อรับชมความรุนแรงซ้ำ ๆ จิตใจอาจเริ่มชินชาและมองว่าความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ ทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบโดยไม่รู้สึกผิดหรือเห็นเป็นเรื่องใหญ่ รวมถึงการเสพสื่อที่มีความรุนแรงต่อเนื่องอาจทำให้เกิดความคิดที่ลดทอนศีลธรรม เช่น มองว่าการใช้ความรุนแรงเป็นสิ่งที่ยุติธรรม หรือจำเป็นเพื่อแก้ปัญหา หรือหากเกิดความโกรธหรือความเครียด สามารถระบายออกได้ด้วยการกระทำ

นายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ซึ่งวิธีการรับมือกับผลกระทบของสื่อ คือ

1. เลือกรับสื่อที่มีประโยชน์ ควรเลือกรับสื่อที่มีเนื้อหาสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อตนเอง

2. จำกัดเวลาในการใช้สื่อ กำหนดเวลาในการใช้สื่อแต่ละวันเพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตและชีวิตประจำวัน

3. ฝึกการคิดวิเคราะห์ ควรฝึกคิดวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับจากสื่อและตรวจสอบความถูกต้องก่อนเชื่อ

4.สร้างสมดุลในชีวิต ควรแบ่งเวลาให้เหมาะสมระหว่างการใช้สื่อและการทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ออกกำลังกาย, พบปะผู้คน, หรือทำงานอดิเรก ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า สื่อมีทั้งผลกระทบทางบวกและทางลบต่อจิตใจ การรู้จักเลือกรับสื่อและใช้อย่างมีสติจะช่วยลดผลกระทบทางลบและเพิ่มประโยชน์จากสื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิตมีช่องทาง โดยสามารถตรวจสุขภาพใจกับ MENTAL HEALTH CHECK-IN หรือ www.วัดใจ.com และสามารถรับการให้ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตสำหรับประชาชนผ่าน สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง