จากสถานการณ์ระดับฝุ่นละอองที่มีค่าสูงและยังมีแนวโน้มจะเกิดส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชนอย่างต่อเนื่องอีกระยะหนึ่งนั้น แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรมอนามัยจึงมีนโยบายเผยแพร่การทำห้องปลอดฝุ่นเพื่อเป็นพื้นที่ทางเลือกในชุมชน โดยก่อนหน้านี้ได้ขับเคลื่อนนโยบายห้องปลอดฝุ่นในสถานพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ
ขณะนี้มีจำนวนห้องปลอดฝุ่นครบถ้วนในทุกโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป และจะขยายเพิ่มเติมให้ครบถ้วนในทุกโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลนอกจากนี้ยังได้มุ่งเน้นในส่วนของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียน และสถานที่ที่มีโอกาสเป็นจุดรวมตัวกันของประชาชนในชุมชน
ล่าสุด กรมอนามัยได้มีความร่วมมือกับสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและพร้อมจะให้ร้านอาหารเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของชุมชนเป็นพื้นที่ปลอดฝุ่น เพื่อเป็นแหล่งสร้างความผ่อนคลายและมั่นใจต่อผู้รับบริการตลอดจนยังเป็นชื่อเสียงที่สนับสนุนให้นักท่องเที่ยวมั่นใจในคุณภาพของร้านอาหารไทยควบคู่ไปกับความประทับใจในรสชาติของอาหารไทยอีกด้วย
นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ขณะนี้สถานประกอบการประเภทร้านอาหารหรือภัตตาคารได้มีการเปิดพื้นที่ห้องปลอดฝุ่นแล้ว จำนวน 234 แห่ง ใน 9 จังหวัด ล่าสุด มีการจัดอบรมเพิ่มเติมที่ศูนย์การค้าฟีนิกซ์
สำหรับกลุ่มเป้าหมาย ในกรุงเทพฯและปริมณฑล อีกกว่า 50 แห่ง และจะเร่งดำเนินการขยายผลต่อเนื่องในเขตภูมิภาคโดยจะมีความร่วมมือในการ จัดการอบรม เช่นเดียวกันนี้ที่จังหวัดภูเก็ต จังหวัดเชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร โดยคาดหวังว่า จะสามารถเพิ่มจำนวนร้านอาหารหรือภัตตาคารที่เป็นพื้นที่ปลอดฝุ่นได้ถึงมากกว่า 20,000 แห่งภายใน 3 เดือนนี้
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่กรมอนามัยหมายเลข 1478 หรือสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศ
ด้านนางสาวนัยนา ใช้เทียมวงศ์ ผู้อำนวยการกองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ เปิดเผยว่า ห้องปลอดฝุ่น คือ การนำห้องที่มีอยู่ภายในบ้าน หรือ อาคารมาจัดเตรียมพื้นที่เพื่อทำห้องปลอดฝุ่น โดยมีหลักการ คือ
1. ป้องกันฝุ่นจากภายนอกไม่ให้เข้าไปภายในห้อง
2. ป้องกันการสะสมฝุ่นตามผนังห้อง วัสดุหรืออุปกรณ์ และพื้นผิวห้อง
3. กำจัดอนุภาคของฝุ่นที่อยู่ภายในห้อง
4. ไม่ทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นภายในห้อง เช่น จุดธูป สูบบุหรี่
สำหรับการเลือกและเตรียมห้องปลอดฝุ่น คือ เลือกห้องที่ห่างจากถนน พื้นที่ก่อสร้าง เลือกห้องที่มีประตู-หน้าต่างน้อยที่สุด นำสิ่งของที่เป็นแหล่งสะสมฝุ่นออกจากห้อง ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดห้อง ล้างอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ให้สะอาด หากมีเครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ และเครื่องวัดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ใช้งานร่วมด้วยก็จะช่วยให้เราจัดทำห้องปลอดฝุ่นที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น