หลังจากที่นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร สั่งให้ 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาทบทวนกฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่และช่วงเวลา 14.00-17.00 น. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ผศ.ดร.สุรศักดิ์ ไชยสงค์ อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้แสดงความคิดเห็นว่าแม้จะเข้าใจเป้าหมายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน
ดร.สุรศักดิ์ ชี้ว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่สินค้าปกติ เพราะก่อให้เกิดปัญหาสังคมหลายด้าน ทั้งอุบัติเหตุจากเมาแล้วขับ การทะเลาะวิวาท และยังเชื่อมโยงกับปัญหาสารเสพติดและการพนัน นอกจากนี้ยังสร้างภาระให้ห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลโดยเฉพาะช่วงหลังปิดสถานบันเทิง
จากการศึกษาพบว่าหลายประเทศทั่วโลกล้วนมีมาตรการจำกัดการขายแอลกอฮอล์ เช่น สหรัฐฯ และยุโรปบางประเทศห้ามขายในวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันครอบครัว ขณะที่รัสเซียซึ่งเคยมีปัญหาการดื่มสูง ได้ออกมาตรการจำกัดเวลาขายเหลือ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน ส่งผลให้ปัญหาลดลงอย่างชัดเจน
การกระตุ้นเศรษฐกิจควรเน้นสินค้าจำเป็น ไม่ใช่ของฟุ่มเฟือยหรือความบันเทิง รัฐควรส่งเสริมให้ประชาชนใช้จ่ายและออมเงินอย่างชาญฉลาด" ผศ.ดร.สุรศักดิ์กล่าว พร้อมเตือนว่าควรเรียนรู้จากกรณีกัญชาที่ยังควบคุมได้ยาก และพบการแพร่ระบาดในกลุ่มเยาวชน
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียง 4 วันต่อปี น้อยกว่าหลายประเทศที่ห้ามถึง 52 วัน อีกทั้งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาไทยเพื่อสัมผัสวัฒนธรรม ไม่ใช่เพื่อดื่มแอลกอฮอล์ การทบทวนกฎหมายจึงต้องคำนึงถึงผลกระทบระยะยาวต่อสังคมไทยเป็นสำคัญ